รายงานหน้า2 : ส่องมาตรการเข้ม18จว. วัคซีนหยุด‘โควิด’รอบ3

หมายเหตุความเห็นตัวแทนภาคเอกชน กรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ประกาศใช้มาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 รวม 9 มาตรการ

ธนิต โสรัตน์
รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย)

หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ประกาศมาตรการควบคุมโควิด-19 ระลอกใหม่ หรือรอบที่ 3 มองว่ายังเป็นมาตรการที่ภาครัฐยังไม่กล้าใช้ไม้แข็ง หรือตัดสินใจแบบเข้มข้นเท่าการแพร่ระบาดในรอบแรก ในครั้งนั้นรัฐบาลประกาศควบคุมสถานการณ์ ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือห้ามประชาชนออกจากเคหสถานตามระยะเวลาที่ระบุไว้อย่างชัดเจน หรือเคอร์ฟิว พร้อมล็อกดาวน์ประเทศ ครั้งนั้นสร้างความเสียหายด้านเศรษฐกิจจำนวนมาก แต่ถือว่าเป็นวิธีการบริหารจัดการที่ดี ครั้งนี้เห็นด้วยที่รัฐบาลไม่ประกาศเคอร์ฟิวและล็อกดาวน์ ใช้วิธีจัดพื้นที่แทน มาตรการส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นการขอความร่วมมือทั้งสิ้น อยากให้รัฐบาลเข้มข้นในการกำหนดมาตรการกว่านี้
อย่างพื้นที่ที่พบการระบาดมากจนสถานพยาบาลอาจรับมือไม่ไหว ควรใช้มาตรการควบคุมที่แตกต่างกันไป ในมุมของเอกชนไม่ได้ต้องการให้ล็อกดาวน์ทั้งประเทศ แต่พื้นที่ไหนน่าเป็นห่วงก็ควรใช้เพื่อคุมไม่ให้สถานการณ์บานปลาย อาทิ ในพื้นที่เสี่ยงอาจสั่งปิดจังหวัด 14 วัน เพื่อดูสถานการณ์ เป็นต้น หากจะสรุปผลดำเนินการของรัฐอาจจะเร็วไปเพราะพึ่งสิ้นสุดการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ อาจจะต้องใช้เวลาก่อนจะสรุปผลการทำงานของภาครัฐอีกครั้ง
ต้องยอมรับก่อนว่าคนไทยส่วนใหญ่ชอบความสนุกสนาน บางกลุ่มก็ลักลอบเล่นการพนัน การระบาดมักจะเกิดในกลุ่มเหล่านี้เป็นส่วนมาก ดังนั้น การสอดส่องจากหน่วยงานรัฐอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาให้ด้วย
การระบาดครั้งนี้รัฐบาลต้องยอมรับว่ารุนแรงกว่าครั้งที่ 2 ในรอบนั้นพบการระบาดเพียงหลักสิบ หลักร้อยรายต่อวันเท่านั้น รัฐบาลจึงมั่นใจว่าการแพทย์ของไทยเอาอยู่ แต่พอระบาดรอบที่ 3 มีผู้ติดเชื้อเป็นหลักพันรายต่อวัน หากยอดผู้ติดเชื้อยังพุ่งไม่หยุดเช่นนี้ กังวลว่าการแพทย์ของไทยอาจคุมไม่อยู่ อยากให้รัฐบาลตัดสินใจให้เด็ดขาดในทุกเรื่อง
ทุกฝ่ายต้องฟังการตัดสินใจของหมอ และหมอเองต้องประกาศให้ชัดว่ารัฐบาลควรดำเนินการอย่างไรต่อไป รัฐบาลก็ต้องรับฟังการตัดสินใจของหมอและนำมาปฏิบัติ ช่วงนี้ไม่ใช่เวลามาตั้งคณะทำงานแล้ว อย่างเรื่องวัคซีนมีคณะทำงาน 15-16 คณะแล้ว แต่ไม่มีความ
คืบหน้า รัฐอาจจะต้องเปิดรับความร่วมมือจากหลายหน่วยงานมากขึ้น เบื้องต้นหารือร่วมกันว่าแต่ละหน่วยงานจะสามารถปฏิบัติอย่างไรได้บ้าง เช่น เอกชนเข้ามาช่วยในการกระจายวัคซีนได้ไหม หรือหน่วยงานจัดหาวัคซีนอย่างสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สามารถจัดหาวัคซีนตลอด 24 ชั่วโมงได้หรือไม่ เป็นต้น
เวลานี้ประชาชนต้องการความชัดเจนมากที่สุด ทั้งเรื่องวัคซีนและความพร้อมในการรักษา ถึงเวลาที่รัฐต้องกางแผนให้ได้รับทราบว่า หากสถานการณ์รุนแรงมากขึ้น อาทิ พบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 2,000-10,000 รายต่อวัน จะบริหารจัดการอย่างไร จะได้เห็นภาพ มองว่าหน่วยงานราชการไทยถนัดตั้งคณะทำงานขึ้นมาบริหารงาน แต่ต้องคำนึงถึงความจริงด้วยว่า ไม่สามารถนำมาใช้กับการระบาดระดับโลกในครั้งนี้ได้
อยากให้รัฐและสาธารณสุขลงไปคุมเข้มอีกเรื่องหนึ่ง คือ ความสะอาดของร้านอาหารและตลาดนัดต่างๆ สามารถเป็นแหล่งในการแพร่กระจายเชื้อได้เช่นกัน อย่าคิดว่าสถานที่อโคจรจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อได้เพียงที่เดียว อยากให้หน่วยงานสาธารณสุขลงพื้นที่ตรวจสอบ สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน โดยเฉพาะร้านอาหาร ในช่วงนี้อาจจะต้องรณรงค์ให้ประชาชนพกอุปกรณ์ทานอาหารมาเอง ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น อย่างน้อยเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับตนเองได้ในระดับหนึ่ง

วิชิต ประกอบโกศล
รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)

Advertisement

มาตรการที่ภาครัฐออกมาเพื่อควบคุมการระบาดเชื้อโควิด-19 นั้น แม้ไม่ได้ประกาศล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว แต่มีความเข้มข้นเพียงพอ ทั้งการกำหนดจังหวัดควบคุมสูงสุด 18 จังหวัด การสั่งปิดสถานบันเทิง ผับบาร์ต่างๆ เพราะเป็นแหล่งกำเนิดการระบาดระลอก 3 ครั้งนี้ มีความเหมาะสมกับสถานการณ์แล้ว แต่อยากให้รัฐบาลประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อคุมการระบาดได้ภายใน 2 เดือน (เมษายน-พฤษภาคม) หากใช้เวลานานกว่านั้นจะเกิดผล กระทบกับเศรษฐกิจในภาพรวม และอาจกระทบไทม์ไลน์การเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจนต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่อีกครั้ง
คาดหวังเพียงอย่างเดียวคือ รัฐบาลจะคุมการระบาดได้ในช่วง 2 เดือนนี้ เพื่อให้บรรยากาศและความเชื่อมั่นดึงกลับมาเร็วที่สุด จุดขายของประเทศไทยคือ การควบคุมการระบาดได้ดีและความปลอดภัยจากไวรัส
สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ คือ การนำเข้าวัคซีนให้เพียงพอกับจำนวนประชากร หรืออย่างน้อยต้องฉีดให้ได้มากกว่า 70% ให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ขึ้น รัฐบาลจะต้องวางแผนจะฉีดให้กับคนกลุ่มใดก่อน พื้นที่ใดก่อน เพื่อให้สามารถบริหารจำนวนวัคซีนที่นำเข้ามาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไทม์ไลน์ในการเปิดประเทศรับต่างชาติ ช่วงวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ รัฐบาลต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับคนในภูเก็ต อย่างน้อย 70% จะต้องทำให้เสร็จเร็วที่สุด หรือช้าไม่เกินเดือนมิถุนายนนี้ ให้ทันเปิดประเทศในเดือนกรกฎาคม 2564

รัฐบาลต้องเปิดโอกาสให้เอกชน หรือโรงพยาบาลเอกชนจัดการวัคซีนด้วย โดยเฉพาะการระดมฉีดให้กับคนในประเทศ ประเมินแล้วพบว่า หากร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลรัฐและเอกชน น่าจะฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้รวดเร็ว มากกว่ากำหนดให้โรงพยาบาลรัฐดำเนินการอย่างเดียว ส่วนผู้ประกอบการในภาคเอกชนพร้อมดำเนินการตามที่รัฐบาลต้องการอยู่แล้ว รวมถึงเป็นส่วนสนับสนุนให้เกิดการกระจายวัคซีนได้เร็วที่สุดด้วย
ขณะนี้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปรับตัวกันสูงมาก ซึ่งปรับตัวกันมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การระบาดในรอบแรก อาทิ ทัวร์นำเที่ยว จากที่เคยให้บริการนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก ก็เน้นการให้บริการคนไทยมากขึ้น จำนวนกรุ๊ปทัวร์เล็กลง เป็นกลุ่มครอบครัวหรือเพื่อนมากกว่า เพื่อจำกัดจำนวนและป้องกันความเสี่ยงในการระบาดของเชื้อไวรัส ส่วนโรงแรมก็ปรับมาให้บริการจำหน่ายอาหารผ่านระบบดิลิเวอรี ไดร์ฟทรู หรือซื้อกลับบ้านเพิ่มเติม จากเดิมที่ให้บริการเฉพาะในห้องอาหารของแต่ละโรงแรมเท่านั้น
หลังจากการระบาดระลอก 3 คลายตัวแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ซ้ำเติมเพิ่มอีกนั้น รัฐบาลควรจะเน้นไปที่การป้องกันเป็นหลัก โดยเฉพาะการเฝ้าระวังตามชายแดนอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันการลักลอบเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติ พบว่าเชื้อไวรัสโควิดที่ติดกันในระลอกใหม่ เป็นเชื้อสายพันธุ์อังกฤษ ไม่สามารถหาต้นตอได้ว่าเข้ามาแพร่ระบาดในประเทศได้อย่างไร ทั้งที่ไทยยังไม่เปิดน่านฟ้ารับนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยซ้ำ จึงคาดว่าน่าจะแพร่ระบาดมาจากผู้ลักลอบแบบผิดกฎหมาย
หากถามถึงผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่รับตลาดต่างชาติคงไม่ได้ต่างจากเดิมมากนัก คือย่ำแย่อย่างต่อเนื่อง ช่วงที่ผ่านมาและต่อจากนี้อีก 2-3 เดือน ไม่มีลูกค้าต่างชาติเข้ามาอยู่แล้ว ผู้ประกอบการพยายามพยุงธุรกิจอยู่ เพราะมีหวังในการเปิดประเทศช่วงเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป แต่หากไม่ทันตามไทม์ไลน์ก็คงเห็นธุรกิจล้มลงอีกจำนวนไม่น้อย

จุลนิตย์ วังวิวัฒน์
ประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่

Advertisement

คําแถลงของนายกรัฐมนตรีที่ไม่ล็อกดาวน์และไม่ประกาศเคอร์ฟิวถือว่าโอเค รัฐต้องคิดและทำทั้งสองอย่างไปพร้อมกัน คือดูแลเศรษฐกิจไปด้วยและต้องควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไปพร้อมๆ กัน เข้าใจว่าคณะรัฐมนตรีมีความยากลำบากในการบริหารที่ต้องรอบคอบควบคู่กัน ทำให้การตัดสินใจต้องออกมากลางๆ แบบนี้ ก็เข้าใจได้
สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งให้มากขึ้น คือการช่วยเหลือประชาชนทุกกลุ่ม เช่น โครงการคนละครึ่งเฟสใหม่ หรือมาตรการที่เคยได้ผลไปก่อนหน้านี้สองสามโครงการ น่าจะต้องเร็วที่สุด ที่ผ่านมาค่อนข้างได้ผล และวันนี้สิ่งที่สำคัญคือการทำให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันให้ได้มากที่สุด เพราะมีผลต่อความเชื่อมั่นและการเปิดประเทศ
เราต้องยอมรับว่า จีดีพีของประเทศมาจากรายได้ของการท่องเที่ยวเป็นหลัก ตอนนี้เท่ากับเราอยู่ในภาวะฟันเฟืองหัก ขับเคลื่อนไปไม่ได้เลย ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักไปหมด เพราะเนื่องจาก Value Chain มันประกอบไปด้วยกันหลายส่วน และมีจำนวนมากเยอะมาก ทั้งธุรกิจร้านอาหาร การค้า โรงแรม และที่พักในรูปแบบต่างๆ คือทุกอย่างหยุดหมด
ในขณะที่วัคซีนยี่ห้อต่างๆ ที่ผลิตออกมาก็มีปัญหา เพราะความจำเป็นที่ต้องเร่งออกมา จากที่ต้องพัฒนาและทดลองกันเป็นปีๆ แต่เพราะต้องการเร่งแก้ปัญหา ตอนนี้ จึงไม่มียี่ห้อไหนดีที่สุดไปกว่ากัน เท่ากับประชากรบนโลกนี้คือ หนูทดลองยา รัฐบาลต้องเร่งจัดหาและพยายามให้มากขึ้น เช่น การให้เอกชนนำเข้าได้เพื่อรองรับประชาชนที่มีกำลังซื้อได้มีโอกาสเข้าถึงในการฉีดวัคซีนป้องกัน ไม่ต้องรอจากรัฐฝ่ายเดียวน่าจะดีกว่า

ในแง่ของการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลสามารถขอรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนได้ ไม่ว่าจะเป็นหอการค้าไทยหรือสภาอุตสาหกรรม แต่สิ่งที่อยากฝากคือ ขอให้รัฐบาลรับฟังความคิดเห็นจากระดับภูมิภาคด้วย ปัญหาแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน ภาคเหนือ ใต้ อีสาน และตะวันออก มีความแตกต่างกัน การที่รัฐบาลออกนโยบายแบบภาพรวมออกมา แม้จะดี แต่อาจไม่ดีต่อระดับภูมิภาคอื่น ควรต้องลงไปให้ลึกในรายละเอียดที่น่าจะเหมาะสมกับระดับภูมิภาคนั้นๆ ด้วย

อย่างภาคเหนือ เมื่อการท่องเที่ยวมีปัญหาเราก็ต้องหาทางออกทางอื่น เช่น ภาคการเกษตรที่ยังมองว่ายังไปได้อยู่ ก็ต้องรีบมาดูว่าระบบการผลิตทางการเกษตรตัวไหนที่จะสามารถผลักดันพืชผลทางการเกษตรให้เดินหน้าไปได้บ้าง เพราะกลไกทางด้านการค้าบางครั้งก็อาจมีเงื่อนไขมาก จะปรับลดหรือเพิ่ม เพื่อเร่งระบายสินค้าทางการเกษตร อย่างน้อยเกษตรกรก็มีทางสร้างรายได้ให้มากขึ้น เพราะเราไม่สามารถรอภาคการท่องเที่ยว หรือรอการเปิดประเทศได้

นิพนธ์ สุวรรณนาวา
ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์หอการค้าประจวบคีรีขันธ์

ภาคธุรกิจเอกชนพอใจการกำหนดแนวทางของรัฐบาล ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายหวั่นวิตกว่าจะมีเคอร์ฟิว หรือล็อกดาวน์ แต่รัฐบาลคงประเมินแล้วว่าการใช้มาตรการที่เข้มงวดอาจจะมีผลเสียทางเศรษฐกิจ เหมือนการสั่งล็อกดาวน์เมื่อเดือนเมษายน 2563 ทั้งที่การระบาดกระจายไม่มากจากคลัสเตอร์สนามมวยทำให้ภาวะเศรษฐกิจเสียหายหนัก เชื่อว่าผู้มีอำนาจคงรู้ว่าตัดสินใจผิดพลาด จึงมีประสบการณ์ตรง การล็อกดาวน์ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา การแพร่ระบาดในระยะที่ 2 แรงงานเถื่อนลอบเข้าเมืองที่ตลาดค้ากุ้ง จ.สมุทรสาคร กระจายถึงบ่อนการพนันหลายจังหวัดก็ไม่มีการล็อกดาวน์ แต่การกระบาดครั้งล่าสุดมีความรุนแรง เชื้อโควิด
กระจายอย่างรวดเร็วจากกลุ่มนักเที่ยวกลางคืน การติดเชื้อไม่แสดงอาการ มีผลกระทบกับบุคคลใกล้เคียงกระจายเป็นวงกว้าง
รัฐบาลไม่สั่งเคอร์ฟิวและล็อกดาวน์ แต่ทราบว่ามีการมอบอำนาจให้ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงโรคระบาดพิจารณาตามที่เห็นสมควร และก่อนหน้านี้ผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์มีคำสั่งกำหนดมาตรการและปิดสถานที่เสี่ยงถือว่าก้าวหน้ามากกว่าคำสั่งของรัฐบาล แม้จะมีผลกระทบอย่างหนักกับธุรกิจในภาคการท่องเที่ยว

สถานการณ์ปัจจุบันใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษามากกว่า 700 ราย ทุกภาคส่วนน่าจะควบคุมโรคได้ภายในเดือนเมษายนนี้ หากคุมไม่ได้ก็จะมีผลกระทบอย่างหนัก ในการเปิดภาคเรียนและวงจรธุรกิจอีกหลายด้าน หากรัฐบาลต้องการให้จังหวัดสีแดงจบปัญหาโดยเร็วก็ต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กลุ่มเป้าหมายโดยเร็วทั้งประชาชนทั่วไปและภาคการท่องเที่ยว เชื่อว่าวันนี้ประชาชนไม่ได้สนใจว่าฉีดแล้วจะได้ผลดีในการป้องกันหรือไม่ หรือต้องการใช้วัคซีนจากประเทศอะไรโดยตรง เพียงแต่ฉีดแล้วจะทำให้มีผลทางจิตวิทยา สบายใจไม่ต้องวิตกกังวล รัฐบาลต้องยอมรับว่าบริหารจัดการวัคซีนล่าช้ามาก ไม่ตอบโจทย์ภาคธุรกิจระดับมหภาค หากยังฉีดวัคซีนยังล่าช้าจะต้องเจอกับวิกฤตการระบาดซ้ำในรอบที่ 4
ในฐานะตัวแทนภาคธุรกิจการท่องเที่ยวที่มีปัญหานานกว่า 16 เดือน ไม่ต้องการเจอวิกฤตมากไปกว่านี้ ขอฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเอาให้อยู่ สั่งการเร่งรัดให้ประกอบธุรกิจตามเงื่อนไข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image