บทนำวันพุธที่21กรกฎาคม2564 : เสียงจาก‘แม่ค้า’

คำสั่งล็อกดาวน์ และมาตรการต่างๆ ที่ตามมา ส่งผลกระทบต่อชีวิตประชาชนอย่างกว้างขวาง คลิปที่เผยแพร่และสร้างความสะเทือนใจแก่ประชาชนที่ได้พบเห็น สะท้อนถึงผลกระทบดังกล่าวอย่างชัดเจน เป็นบันทึกเหตุการณ์ แม่ค้าในตลาดพระอินทร์ราชา ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ปะทะคารมกับตำรวจที่ออกตรวจพื้นที่ และขอความร่วมมือให้ปิดร้านในช่วงเวลา 20.00-04.00 น. ตามนโยบายของศูนย์ควบคุมโรค ที่ขอความร่วมมือผู้ประกอบการร้านค้า ปิดร้านในเวลาที่ขอความร่วมมือ เพื่อลดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในคลิปดังกล่าว แม่ค้าคนดังกล่าวได้ตอบโต้กับตำรวจ เนื้อหาระบายและสะท้อนความรู้สึกอัดอั้นตันใจ

ช่วงหนึ่ง แม่ค้าได้กล่าวกับตำรวจว่า ผู้ว่าฯถ้าคิดจะสั่งการ ต้องเตรียมมาตรการรองรับไว้ด้วย ตำรวจทำเหมือนเราทำผิด ทั้งๆ ที่เป็นแค่การขอความร่วมมือ มันคือการขอความร่วมมือที่ไม่มีเยียวยาใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งที่ 10 จังหวัดแดงเข้ม เขาได้เยียวยา เขามีมาตรการ แต่พวกเรา ค่าเช่าเหมือนเดิม ภาษีเก็บเหมือนเดิม ทุกอย่างเก็บเหมือนเดิมหมด ทำไมพอจังหวัดสั่งมา คุณรับคำสั่งทันที แต่ทำไมพอประชาชนพูดขึ้นไป คุณไม่ไปบอกผู้บังคับบัญชาคุณบ้าง ไม่ไปบอกหัวหน้าคุณบ้าง ว่าประชาชนเป็นยังไง ตำรวจดังกล่าวได้ชี้แจงว่า พ่อค้าแม่ค้าอื่นๆ ยินยอมกันหมด แม่ค้าได้ตอบโต้ว่า เพราะยอมกันทั้งตลาดไงมันถึงเป็นอย่างนี้ แต่มันมีประชาชนอย่างฉันนี่ไงที่ไม่ยอม เข้าใจไหม ไม่ยอมในความไม่ถูกต้อง คุณรู้ไหม นี่คือการต่อสู้ของประชาชน คือมันสู้ได้แค่นี้ไง

จากคลิปดังกล่าวจะพบว่า ตำรวจพยายามอธิบายและรับฟัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ผู้มีอำนาจควรรับฟังอย่างตระหนักถึงความทุกข์ร้อนที่ประชาชนต้องแบกรับจากมาตรการ ซึ่งแม้เป็นการขอความร่วมมือ แต่ทางราชการใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่อื่น เข้าไปตรวจสอบว่าให้ความร่วมมือหรือไม่ ซึ่งไม่ต่างจากการกำหนดให้ปฏิบัติ แต่ไม่มีการเยียวยาหรือชดเชย เหมือนกับการออกคำสั่ง เชื่อว่ากรณีทำนองเดียวกับที่ตลาดพระอินทร์ราชา ยังเกิดขึ้นกับอีกหลายที่ และทางรัฐบาลต้องมีแนวทางให้ข้าราชการทำหน้าที่โดยไม่ละเมิดสิทธิของประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image