บทนำวันจันทร์ที่30สิงหาคม2564 : ผ่อนการเมือง

ล็อกดาวน์สุมหนี้คนไทยพอกพูน เยียวยา-ปรับโครงสร้างทางรอด!!

พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษก ศบค. แถลงผลการประชุม ศบค. เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นประธานว่า แม้จำนวนผู้ติดเชื้อและจำนวนผู้เสียชีวิตจะยังไม่ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ สอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลก คือยังพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นต้องปรับตัว รับมือและอยู่ร่วมกับโรคอย่างปลอดภัย โดยจะปรับกลยุทธ์เพื่อให้การควบคุมโรคสอดคล้องกับมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ผู้ช่วยโฆษก ศบค.ระบุต่อไปว่า จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด หรือพื้นที่สีแดงเข้มจะยังคงมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด เคอร์ฟิว ตั้งแต่เวลา 21.00- 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น และเวิร์ก ฟรอม โฮม ต่อไปอย่างน้อย 14 วัน อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการเปิดกิจการ/กิจกรรม สำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยร้านอาหารที่อยู่นอกอาคาร หรือในอาคารแต่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ โล่ง อากาศถ่ายเทดี ให้นั่งรับประทานได้ 75% ส่วนร้านอาหารที่เป็นห้องที่มีเครื่องปรับอากาศ ให้นั่งรับประทานได้ 50% รวมถึงเปิดห้างสรรพสินค้า ร้านเสริมสวย ตัดผม สนามกีฬา ฯลฯ

ที่น่าสนใจคือ แนวคิดในการแก้ปัญหาที่เปลี่ยนแปลงไป จากแนวคิดในการจัดการปัญหาโควิดแบบเดิมๆ ด้วยการใช้ “ยาแรง” ประเมินผิดพลาด เกี่ยวกับการระบาดในระลอกต่อๆ มา และการจัดหาวัคซีน ทำให้กระทบภาพรวมประเทศ โดยเฉพาะเศรษฐกิจที่ทรุดหนัก หันมายอมรับว่า ตัวเลขติดเชื้อ เสียชีวิตยังไม่ลดลง แต่จะต้องหาทางอยู่ร่วม พร้อมกับแก้ปัญหาไปพร้อมกัน

น่าสนใจว่าแนวคิดที่เปลี่ยนไปของรัฐบาล จะส่งผลอย่างไร การผ่อนคลายมีผลดี คือทำให้ประชาชนทำมาหากินได้ ธุรกิจเดินหน้าได้ แต่รัฐบาลต้องส่งเสริมด้วยการจัดการที่ถูกต้อง กล่าวคือ มีวัคซีนที่มีคุณภาพ มีเครื่องตรวจหาเชื้อด้วยตนเองที่มีคุณภาพ มียาต้านไวรัสเพียงพอและมีคุณภาพ และสิ่งสำคัญ นอกจากผ่อนคลายล็อกดาวน์แล้ว ควรปรับเปลี่ยน ผ่อนคลายบรรยากาศทางการเมืองในประเทศด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image