หลังจากนายกรัฐมนตรีได้ทูลเกล้าฯ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้การเลือกตั้งใช้บัตร 2 ใบ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลและพรรคการเมืองต่างๆ ได้เตรียมแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุไทม์ไลน์ของการแก้ไขดังกล่าวว่า ขณะนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งหรือ กกต.ได้จัดทำร่าง พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับเสร็จสิ้นแล้ว รอผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม กกต.ก่อน จากนั้นต้องจัดรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญ ก่อนเสนอ ครม.ให้ความเห็นชอบ คาดว่าจะเป็นห้วงเวลา เดือน ธ.ค.2564
ตามขั้นตอน หาก ครม.ให้ความเห็นชอบร่างแก้ไข พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับ จะนำส่งรัฐสภาเพื่อพิจารณา ในเดือน ม.ค.2565 โดยใช้เวลาประมาณ 3 เดือน จากเดือน ก.พ.2565 ไปแล้วเสร็จ ในเดือน มี.ค.2565 แล้วส่งให้ กกต.ตรวจสอบรายละเอียดภายใน 15 วัน ในเดือน เม.ย. 2565 อาจเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อแก้ไขตามที่ กกต.เสนอ แล้วลงมติวาระ 3 โดยจะใช้เวลาประมาณ 25 วัน แล้วส่งให้รัฐบาลเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ เว้นแต่จะมีการส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย ใช้เวลาอีก 1 เดือน จากนั้นนำขึ้นทูลเกล้าฯ ซึ่งร่างกฎหมายจะอยู่ในพระราชอำนาจ 90 วัน ตรงกับเดือน ก.ค.2565 ซึ่งมีการประเมินในรัฐบาลว่า หาก พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับประกาศใช้ น่าจะเกิดแรงกดดันให้รัฐบาลยุบสภา และในเดือน ส.ค.2565 เป็นช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี อาจจะเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นมาอีก
น่าสังเกตว่า การแก้ไข พ.ร.ป.ทั้ง 2 ฉบับ ใช้เวลายาวนานมาก ถึงเดือน ก.ค.2565 ซึ่งมากเกินไปสำหรับสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน การดึงเวลาออกไปยาวๆ ย่อมเกิดประโยชน์กับฝ่ายที่อยู่ในอำนาจ ขณะที่ทุกฝ่ายที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง จะต้องรอคอยให้การแก้ไข พ.ร.ป.เรียบร้อยทั้ง 2 ฉบับ มิฉะนั้น ข้อกำหนดเรื่องบัตร 2 ใบ จะมีปัญหาในเชิงปฏิบัติทันที รัฐบาลในฐานะมีเสียงข้างมากในรัฐสภา น่าจะพิจารณาแก้ไขกฎหมายลูกอย่างรวดเร็ว ไม่ถ่วงเวลา เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะสามารถทำได้ไม่ยาก เพราะเนื้อหาต่างๆ ของ พ.ร.ป.ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เคยมีในกฎหมาย และเคยใช้มาก่อนแล้ว
