อนิจจัง การเมือง อนิจจัง ‘พลังประชารัฐ’ ไม่เที่ยง ไม่แน่นอน

คอลัมน์หน้า 3 : อนิจจัง การเมือง อนิจจัง ‘พลังประชารัฐ’ ไม่เที่ยง ไม่แน่นอน

สถานการณ์ร้าวแยกและแตกตัวภายในพรรคพลังประชารัฐส่งผลสะเทือนอย่างลึกซึ้ง กว้างขวางยิ่ง
ในทางการเมือง

เปิดโปง “พลังประชารัฐ” ล่อนจ้อน

สะท้อนให้เห็นว่าการก่อรูปขึ้นของ “พรรคทหาร” เพื่อการสืบทอดอำนาจภายหลัง “รัฐประหาร” เป็นเรื่อง
ไม่จีรังยั่งยืน

ไม่ว่า “เสรีมนังคศิลา” ไม่ว่า “สามัคคีธรรม”

Advertisement

เริ่มต้นจากการกวาดต้อน “นักการเมือง” ผู้มากด้วยเขี้ยวเล็บ เข้ามารวมตัวกันภายใต้ร่มธงแห่งอำนาจอันได้มาจาก “รัฐประหาร”

เสกเป่า “เสือสิงห์กระทิงแรด” ให้เป็น “คนดี”

จากนั้นก็ดำรงอยู่ในสถานะเป็น “แกนนำ” ในการจัดตั้งรัฐบาล ระดมพรรคการเมืองจากทุกสารทิศเข้ามาหนุนเสริม

Advertisement

เหมือนภาพที่เห็นกันในเดือนมิถุนายน 2562

ปฏิบัติการทางการเมือง ปฏิบัติการจัดตั้งพรรคการเมืองเช่นนี้ เรียกกันในหมู่ทหารว่าดำเนินไปตามกลยุทธ์ “ลับ ลวง พราง”

ยกนิ้ว เชิดชูว่าสะท้อนความจัดเจน

เป็นความจัดเจนในการยกร่าง “รัฐธรรมนูญ” กำหนดกติกา เป็นความจัดเจนในการระดมนักการเมือง “น้ำดี” เข้ามาอยู่ในพรรคเดียวกัน

ภายใต้แนวทาง “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”

ภายใต้กติการการเลือกตั้ง ที่ปรากฏคะแนนเขย่ง บัตรเขย่ง กระทั่งเกิด ส.ส.บัญชีรายชื่อขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 10 พรรคการเมือง

เมื่อประสานเข้ากับ 250 ส.ว.ก็เรียบโร้ยย

การขานชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงดังกึกก้องกังวาน ไม่ว่าจะจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา

แล้วเมื่อมาถึงเดือนมกราคม 2565 เป็นอย่างไร

สภาพของพรรคพลังประชารัฐแทบไม่มีอะไรแตกต่างไปจากที่เคยเกิดขึ้นกับพรรคเสรีมนังคศิลา หรือพรรคสหประชาไทย

แตกแยก ระส่ำระสาย ควบคุมไม่ได้

ลักษณะ “ลับ ลวง พราง” แพร่กระจายทั้งจาก “ทำเนียบรัฐบาล” และ “ภายใน” ของพรรคพลังประชารัฐ

กระทั่งเกิดปรากฏการณ์ “ขับ” ส.ส.ออกจากพรรค

สะท้อนให้เห็นไม่เพียงความสลับซับซ้อนของการเบียดขบลับเขี้ยวระหว่างคนจาก “ทำเนียบรัฐบาล” กับบางส่วนใน “พลังประชารัฐ”

หากแต่ละคนล้วนถือ “มีด” คนละเล่มคอยจ้วงแทงกัน

การประลองกำลัง “เงิน” การประลอง “อำนาจ” บารมีทางการเมืองก่อให้เกิดคำถามอันแหลมคมถึงเอกภาพและความเป็นหนึ่งเดียว

ท่ามกลางสถานการณ์ “สภาล่ม” ซ้ำซาก ติดต่อกัน

การเมืองไทยได้เข้าสู่ “โหมด” อันแหลมคมยิ่งอีกครั้งหนึ่งภายหลังสถานการณ์รัฐประหารปี 2557 ภายหลังสถานการณ์เลือกตั้งปี 2562

สะท้อน “อนิจจัง” แห่ง “อำนาจ”

สะท้อนพลังที่ปะทะกันระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รุนแรงมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับ

โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เล่นบท “กรรมการ”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image