กรุงเทพมหานคร รายงานสถานการณ์ฝนตก ในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ว่า ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีฝนตกหนักมาก ปริมาณฝนรวมสูงสุดที่จุดวัด ซ.สะพานขวา เขตบางซื่อ 136 มม. รองลงมา ที่จุดวัดสถานีสูบน้ำคลองตาอูฐ เขตหลักสี่ 125 มม. จุดวัดบ่อสูบศาลอาญา ถนนรัชดาฯ เขตจตุจักร 122.5 มม. จุดวัดสถานีสูบน้ำคลองสามเสน เขตดุสิต 118.5 มม. จุดวัดสำนักงานเขตบางนา 117.5 มม. ส่งผลให้มีน้ำท่วมขังบนถนนสายหลัก ที่สำนักการระบายน้ำรับผิดชอบ จำนวน 16 จุด อาทิแยกเทียมร่วมมิตร, หน้าโลตัส ถ.แจ้งวัฒนะ หน้า มทบ. ถ.แจ้งวัฒนะ, หน้า ตชด.-แยกสะพานควาย, ช่วงลงทางด่วน ถ.พระราม 6, ซ.อิสรภาพ 44-ตลาดพรานนก, ปาก ซ.สุขุมวิท 39, หน้าวังสวนผักกาด, แยกประชาชื่น-แยกบางโพ, ซ.ประดิพัทธ์ 21-แยกสะพานควาย, หน้ารัฐสภาใหม่, แยกบางกระบือ-ไฟฟ้าสามเสน, หน้ากรมปศุสัตว์ ถ.พญาไท, สะพานกรุงธน และแยกรัชโยธิน-แยกลาดพร้าว
นายสมศักดิ์ มีอุดมศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. เผยว่า ฝนตกตั้งแต่ 15.00 น. ของวันที่ 17 พ.ค. จนถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 18 พ.ค. รวม 10 ชั่วโมง ทำให้กรุงเทพฯโซนเหนือรับผลกระทบมากที่สุด ล่าสุดเริ่มกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว ขณะนี้สำนักการระบายน้ำและสำนักงานเขต จัดเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์เครื่องสูบน้ำ เร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าฝนที่ตกหนักปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ใน กทม. และตกเป็นเวลานานเกือบ 10 ชั่วโมง ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำบางจุดที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข เนื่องจากอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการแก้ปัญหาน้ำท่วม คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้ หลายโครงการจะแล้วเสร็จ จะช่วยบรรเทาสถานการณ์น้ำท่วมขังได้
กรณีฝนตกหนักเมื่อคืนวันที่ 17 พ.ค. จนเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ สะท้อนว่า กทม.ต้องการการบริหารจัดการในเรื่องการระบายน้ำอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม ประเทศไทยอยู่ในเขตมีฝนตกชุกเป็นธรรมชาติปกติ แต่ด้วยวิทยาการสมัยใหม่ การควบคุมมิให้น้ำท่วมขังเป็นเรื่องที่กระทำได้ ยิ่งในพื้นที่เศรษฐกิจของประเทศ ยิ่งเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากที่จะต้องดำเนินการ และท้าทายวิสัยทัศน์ รวมถึงศักยภาพ ขีดความสามารถของว่าที่ผู้ว่าฯกทม. ที่อยู่ระหว่างการรณรงค์หาเสียง และคงได้รับทราบความเดือดร้อนของประชาชนคนไทยแล้ว
