‘ซีอีโอ-เอกชน-ดารา’ ฝากการบ้าน ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่
หมายเหตุ – มติชนสัมภาษณ์ความเห็นและข้อเสนอแนะของภาคเอกชน ซีอีโอ และดารานักแสดง ที่ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ในรอบ 9 ปี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม
สนั่น อังอุบลกุล
ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
ความหวังต่อผู้ว่าฯกทม. คนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด คือ การทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองน่าอยู่ ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การดูแลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การจราจร สิ่งแวดล้อม และการบริหารจัดการด้านต่างๆ โดยอยู่เป็นสุขกัน ไม่แค่ที่มีทะเบียนบ้านในกรุงเทพฯ รวมถึงคนต่างจังหวัดที่เข้ามาอาศัยในกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต้องคำนึงถึง ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ของกรุงเทพมหานคร ในทางปฏิบัติ
ผู้ว่าฯกทม.เปรียบเสมือนซีอีโอต้องมีการวางกลยุทธ์ ในการทำงานของกรุงเทพฯ ตั้งแต่แผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว จากนั้นการลงมือทำงานร่วมกับเอกชน และประชาชน ระดมความคิดเห็น ร่วมกันเป็น Great Team หรือทีมใหญ่ที่จะดึงคนเก่งมาช่วยในการผลักดันงานด้านต่างๆ เรื่องนี้สำคัญ ผู้ว่าฯกทม.จะเป็น Great Hero คนเดียวไม่ได้ ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีมใหญ่ นอกจากนั้น ผู้ว่าฯกทม.ต้องเป็นผู้ประสานงานที่ดี ประสานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้ภารกิจสำเร็จ ซึ่งเหมือนกับแนวทาง Connect the Dots หรือจุดเชื่อมต่อ ที่หอการค้าใช้อยู่ตอนนี้ ในส่วนของหอการค้าเรายินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานของกรุงเทพมหานคร ทุกด้าน ที่ผ่านมา เราทำงานร่วมกับกรุงเทพมหานคร เช่น การจัดหาพื้นที่การฉีดวัคซีนและการกระจายวัคซีนให้รวดเร็วและทั่วถึงประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ตรงนี้เป็นตัวอย่างการทำงานร่วมกันอย่างเห็นได้ชัด
ขณะเดียวกัน คนใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานคร ก็อยากให้ความสำคัญและคาดหวังในเรื่องการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร เป็นเรื่องซับซ้อน ผูกโยงกับปัญหาอื่นๆ ในหลากหลายมิติ แต่หากจะมองการแก้ปัญหาเร่งด่วน น่าจะเป็นเรื่องปัญหารายได้และค่าครองชีพของกลุ่มผู้มีรายได้น้อย สิ่งที่กรุงเทพมหานคร สามารถดำเนินการได้เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว คือการจัดสรรพื้นที่ที่เหมาะสม และเป็นธรรมในการค้าขาย สร้างโอกาสในการหารายได้เพิ่มขึ้น รวมไปถึงการสร้างความน่าสนใจ ให้เกิดแรงดึงดูด และบรรยากาศที่ดีในการมาจับจ่ายใช้สอย ทั้งในกลุ่มประชาชนและนักท่องเที่ยว
อย่างด้านเศรษฐกิจ การสนับสนุนนโยบายสมาร์ท ซิตี้ ทำให้กรุงเทพมหานครทันสมัย น่าอยู่ ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงแผนในการพัฒนาผู้ประกอบการในการทำธุรกิจสตาร์ตอัพ และเอสเอ็มอี โดยนำแพลตฟอร์มดิจิทัล มาช่วยผู้ประกอบการและประชาชนทำให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ อีกเรื่องคือแนวทางการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ให้มีสัดส่วนที่สูงขึ้น แม้ว่าแนวโน้มการติดเชื้อรายใหม่และอัตราการเสียชีวิตจะเริ่มลดลง แต่ก็ยังไม่สามารถไว้วางใจได้ ดังนั้น วัคซีนเข็มกระตุ้นจะเป็นปัจจัยที่สร้างความเชื่อมั่น และดึงดูดให้คนเข้ามาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นได้
อีกเรื่องที่สามารถทำได้เลย คือ การพัฒนาทักษะพัฒนาผู้ประกอบการและแรงงานฝีมือในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้สอดคล้องกับสภาวะการเปลี่ยนแปลง ตลอดจนการยกระดับคุณภาพ สินค้าและบริการต่างๆ ของกรุงเทพมหานครให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ และมีคุณภาพสูง เพื่อสร้างอาชีพและรายได้ ซึ่งการพัฒนาคน ทั้งการพัฒนาคุณภาพชีวิต ให้มีที่อยู่อาศัย มีชีวิตความเป็นอยู่ที่เหมาะสม มีอาชีพและรายได้ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความจำเป็น ควบคู่ไปกับพัฒนาด้านการศึกษา ปรับแนวทางการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร บ่มเพาะและพัฒนาแนวคิดให้นักเรียน ทั้งในด้าน Soft skills และ Hard skills ในอนาคตอันใกล้เด็กเหล่านี้จะเติบโตขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในการร่วมพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ อีกเรื่องคือส่งเสริมให้กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองแห่งโอกาสทางเศรษฐกิจและการลงทุน เป็นการพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางทางการค้า การเงิน การลงทุน โดยเน้นการนำระบบฐานข้อมูลเป็นจุดกลางในการเชื่อมโยงข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจ และการลงทุนของกรุงเทพมหานคร
นอกจากนี้ การลงพื้นที่ สังเกต สอบถามความต้องการของประชาชนในกรุงเทพมหานครเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถเข้าถึงปัญหา และบริบทของชุมชนต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร นำไปสู่การแก้ปัญหา โดยเริ่มจากจุดเล็กขยายไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เป็นภาพรวมของกรุงเทพมหานคร อีกเรื่องต้องฝากไว้คือการจัดระเบียบเมือง สิ่งนี้สะท้อนหลายอย่าง เช่น สะท้อนวิธีคิด สะท้อนการจัดการปัญหาอย่างเป็นระบบ การวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน โดยการจัดระเบียบดังกล่าวมีทั้งเรื่องการวางผังเมือง การบริหารพื้นที่สาธารณะ การจัดการระบบขนส่งสาธารณะ และอื่นๆ สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นได้ และจะเป็นรากฐานที่สำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
นอกจากนั้น ยังต้องมีการบริหารจัดการงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในมิติของความคุ้มค่า มีประโยชน์ต่อส่วนรวม และมิติของความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ”
เศรษฐา ทวีสิน
ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
หลังไม่มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) มานานมาก ดีใจที่วันที่ 22 พฤษภาคม 2565 ได้สิทธิประชาธิปไตยกลับคืนมากับการใช้สิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯคนใหม่ในรอบ 8-9 ปี ส่วนจะเป็นใครก็ตามที่ได้รับเลือกจะต้องเอาประชาชน ชาว กทม.เป็นที่ตั้ง มีความสามารถ มีความตั้งใจจริงในการแก้ปัญหา
ปัญหาของ กทม.ถูกหยิบยกพูดถึงกันหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขยะ น้ำท่วม รถติด ระบบการศึกษา ด้านความปลอดภัย ผมว่าเป็นเรื่องพื้นๆ เพราะจริงๆ แล้วเรื่องความคาดหวังของชาว กทม.ทุกคน อยากให้เรื่องเหล่านี้ได้มีการแก้ไขปัญหากันอย่างบูรณาการ เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมาก่อนถึงวันเลือกตั้งเกิดน้ำท่วมขัง กทม. ทั้งที่ฝนก็ไม่ได้ตกหนักขนาดนั้น ซึ่งปัญหาขยะเป็นเรื่องใหญ่ต้องบริหารจัดการให้น้ำไหลผ่านได้สะดวก
ประเทศไทยกำลังเปิดเมืองอย่างเต็มรูปแบบ อยากให้ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ เตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดเมือง เพราะจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาอีกจำนวนมาก หลังโควิด-19 เริ่มซา อยากเห็นการทำงานร่วมกับรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลปัจจุบันหรือรัฐบาลที่จะมาจากการเลือกตั้งใหม่ ที่คาดว่าจะมีการเลือกตั้งสนามใหญ่ในเร็วๆ นี้ เพื่อช่วยกันทำงาน นำความเจริญรุ่งเรืองเข้าสู่ประเทศชาติ
สำหรับผู้ว่าฯคนใหม่ต้องลงมือทำงานทันที ไม่มีเวลาฮันนีมูน พร้อมทำงานทุกอย่างไปพร้อมกัน ไม่ว่าเรื่องน้ำท่วม ความปลอดภัย ขยะ ปัญหารถติดที่จะต้องทำทันทีหลังเสร็จเลือกตั้งแล้ว และเชื่อว่างบประมาณที่จัดสรรปีละ 7-8 หมื่นล้านบาท หากมีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพและเอาประชาชนเป็นที่ตั้งผมว่าน่าจะเพียงพอต่อการพัฒนา กทม. แต่ถ้าอยากหารายได้จากทางอื่นเพิ่ม เช่น การเก็บภาษีต้องเก็บกับคนที่มีความสามารถและมีกำลังที่จะจ่ายได้ และไม่ทำให้คนตัวเล็กเดือดร้อน
อีกทั้งอยากให้เร่งแก้ปัญหาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กทม.ให้จบโดยเร็ว โดย กทม.ต้องบูรณาการร่วมกับหลายภาคส่วน ไม่ว่ากระทรวงคมนาคม ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้มีหลายส่วนที่อาจจะมาจากฐานการเมืองที่แตกต่างกันไป แต่ว่าเรื่องนี้อย่าเอาประชาชนเป็นตัวประกัน อีกทั้งรถไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยแก้ปัญหาการจราจรใน กทม.ได้ขณะที่ในส่วนของค่าโดยสารต้องเป็นราคาที่เหมาะสม โดยเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง และต้องเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายต่างๆ ได้อย่างสะดวก ไม่นั่งและไม่เสียค่าโดยสารหลายต่อ เป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯคนใหม่ที่ต้องไปบูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทำให้ได้ ซึ่งอาจจะไม่ง่ายเพราะมีหลายพรรคหลายกระทรวงที่มาเกี่ยวข้อง
ส่วนตัวเลือกนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เพราะสนิทและมีความชื่นชมอยู่แล้ว โดยนายชัชชาติมีความมุ่งมั่นที่จะลงสนามนี้มานาน ส่วนสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เลือกพรรคเพื่อไทย เพราะถึงเวลาที่ กทม.จะต้องเปลี่ยนแปลง จากในอดีตจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ที่ครองสนามนี้มานาน การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีอีกหลายอย่างที่สามารถจะทำให้ กทม.มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นและอาจจะเป็นตัวสะท้อนไปถึงการเมืองสนามใหญ่ที่จะมีการเลือกตั้งใหม่ในปลายปีนี้หรือต้นปี 2566 อยากให้มีการเลือกตั้งใหม่เสียที เพราะถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแล้ว
เกรียงไกร เธียรนุกุล
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
ในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครครั้งนี้ ส่วนตัวอยากเห็นการทำงานใน 3 ด้านหลักของผู้ว่าฯคนใหม่ เพื่อทำให้กรุงเทพฯที่เป็นอยู่ในปัจจุบันดีขึ้นกว่าเดิม ประกอบด้วย 1.ด้านความสะอาด เรื่องนี้เป็นพื้นฐานของเมือง เมืองที่สะอาด น่าอยู่ เป็นระเบียบ จะทำให้คุณภาพชีวิตประชาชนดีขึ้น และยังช่วยเสริมด้านการท่องเที่ยวของเมืองให้สนใจเพิ่มเติมจากเสน่ห์ที่มีอยู่ทั้งวัฒนธรรม วัด สถานที่สำคัญ อาหารการกิน แหล่งช้อปปิ้งอย่างต่างประเทศถ้าเอ่ยถึงเมืองหลวง เราจะคิดถึงลอนดอน ปารีส ซึ่งกรุงเทพฯ สามารถเทียบกับเมืองเหล่านี้ได้
ปัจจุบันเวลาที่ต่างชาติที่ไม่เคยมาเที่ยวไทยแล้วได้มาสัมผัสกับกรุงเทพฯ ยกตัวอย่างนักแสดงชื่อดังระดับโลก รัสเซล โครว์ เห็นสายไฟบนท้องถนนของกรุงเทพฯ เห็นสตรีทฟู้ด อาทิ ถนนเยาวราช ที่ใครก็สามารถตั้งร้านอาหารริมถนน จุดไหนก็ได้ มีการล้างทำความสะอาดกันริมถนนเลย ถือเป็นความแปลกใหม่ของเขา เมื่อ รัสเซล โครว์ ทวีตภาพเหล่านี้ออกไปทั่วโลกก็กลายเป็นจุดขายของกรุงเทพฯ ต่างชาติจำนวนมากอยากเข้ามาสัมผัสความแปลกใหม่ อยากมาเที่ยวทริประยะสั้น อยากมาเห็นเลนสำหรับคนเดินเท้าแต่กลับมามอเตอร์ไซค์วิ่ง คนเดินต้องหลบไปมา แต่ในมุมของคนกรุงเทพฯเรื่องนี้ต้องปรับปรุง กรุงเทพฯควรมีระเบียบ มีความสะอาด มีการจัดระบบขยะมูลฝอย แม่น้ำคูคลองต้องสะอาด ต้องฟื้นฉายาในอดีตคือเวนิชตะวันออกกลับมาให้ได้ หากความสะอาดกลับมา และมีการโปรโมตคู่กับเสน่ห์ที่มีอยู่ของกรุงเทพฯ ทั้งวัฒนธรรม อาหาร แหล่งช้อปปิ้ง และอื่นๆ จะทำให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่ดีขึ้น ทั้งกับประชาชนที่อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยวแน่นอน
2.ด้านความปลอดภัย เพราะเป็นอีกเรื่องพื้นฐานที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตประชาชน อยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญ โดยเฉพาะการติดกล้องวงจรปิด ในทั่วทุกมุมของกรุงเทพฯ เพราะเรื่องนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดการก่ออาชญากรรม เพิ่มความปลอดภัยให้คนทุกวัย ทุกอาชีพ อีกเรื่องที่ควรเร่งดำเนินการซ่อมแซมถนน อยากให้ดำเนินการให้ทั่วทุกพื้นที่ เพราะผลกระทบจากถนนที่พัง เป็นหลุมเป็นบ่อ หรือการลืมเปิดฝาท่อถนนทิ้งไว้ ปัญหาเหล่านี้เป็นอันตรายต่อชีวิตที่ไม่ควรเกิดขึ้นในเมืองหลวงของประเทศ และอีกความปลอดภัยที่จำเป็นคือ ระบบไฟจราจรทั่วกรุงเทพฯ ต้องทำงานปกติ ไม่เกิดปัญหา
3.ด้านเศรษฐกิจ ต้องคู่ขนานกับการทุกเรื่อง อย่างเรื่องสตรีทฟู้ดหากจะสนับสนุนสตรีทฟู้ดเพื่อรายได้ร้านหายเร่แผงลอย ก็ต้องทำให้เป็นระเบียบ ไม่ขวางทางเดิม จัดโซนให้ชัดเจน มีระบบทำความสะอาดภาชนะที่ได้มาตรฐาน ควรมีรถโมบายของกรุงเทพฯเพื่อล้างทำความสะอาดเฉพาะ ต้องไม่ทิ้งเศษอาหารลงท่อน้ำ นอกจากนี้ ต้องคู่ขนานกับด้านสุขภาพ การรักษาพยาบาล สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลก็จำเป็น ระบบสาธารณสุขต้องดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีด้านอากาศ การแก้มลพิษต้องควบคู่เช่นกัน รวมทั้งการแก้ปัญหารถติด น้ำท่วม เพราะปัจจุบันราคาน้ำมันสูงมากเป็น “ความแพ๊งแพง” ที่ทุกคนกำลังเดือดร้อน หากไม่มีปัญหารถติด น้ำท่วม ค่าใช้จ่ายของประชาชนชาวกรุงเทพฯจะลดลง
หลังจากนี้ไม่ว่ารายใดจะชนะการเลือกตั้ง อยากขอให้ทำงานอย่างที่ประกาศไว้จริงๆ ทำตามสัญญาตอนหาเสียงกับชาวกรุงเทพฯ ขณะเดียวกันเมื่อทำงานแล้วต้องไม่มีการคอร์รัปชั่น ด้วยงบประมาณที่มีจำนวนมากต้องใช้ให้คุ้มค่า เชื่อว่าหากตั้งใจ ทำงานเต็มความสามารถ ตามสัญญา ภายใน 4 ปีจะเห็นผลงานที่เป็นรูปธรรม เป็นเนื้อเป็นหนัง เป็นประโยชน์กับชาวกรุงเทพฯแน่นอน
ธงไชย แมคอินไตย์
นักร้องชื่อดัง
ครั้งนี้ก็เหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา ที่ขอมาใช้สิทธิทำหน้าที่ของตัวเองตามที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย ใครก็ตามที่จะเข้ามาเป็นผู้ว่าฯ ที่ได้เลือกไปหรือใครเลือกไปก็ตาม ขอให้ทำอะไรก็ได้ให้เราภาคภูมิใจที่ได้อยู่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นเมืองที่ทั่วโลกอยากมาเที่ยว ทำให้ยืดอกอย่างภาคภูมิใจว่า ได้อยู่กรุงเทพฯภายใต้การดูแลของผู้ว่าฯ ใน 5 ปีนี้ อยากเห็นความสงบสุข ร่มเย็น ราบรื่น
ตอนนี้คิดว่าคนไทยรักความสะอาดมากขึ้น กรุงเทพฯก็สะอาดมากขึ้น โควิด-19 ก็ใกล้จะไปแล้วเป็นเวลาที่ผู้ว่าฯคนใหม่เข้ามาทำงาน ทุกอย่างก็น่าจะดีขึ้น หวังไว้อย่างนั้นครับ
ราณี แคมเปน
นางเอกชื่อดัง
ความคาดหวังผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ คงมองในภาพรวมว่านโยบายของคนไหนที่พอจะเป็นไปได้มากที่สุด หรืออยากจะได้คนที่สามารถดูแลองค์รวมของคนกรุงเทพฯ มากกว่า เพราะว่าตอนนี้มีหลายปัญหา ทั้งน้ำท่วม ทั้งเศรษฐกิจอะไรต่างๆ และเรื่องของปากท้องของประชาชน เป็นปัญหาที่อยากให้ได้รับการแก้ไขมากที่สุด เพราะติดเรื่องโรคระบาดมาสักพักใหญ่แล้ว และตอนนี้จะเริ่มเปิดประเทศการท่องเที่ยวกำลังจะเข้ามา ก็อยากจะให้ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่เตรียมตัวเพื่อที่จะทำให้ผู้คนเตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องอะไรต่างๆ ที่จะเข้ามาด้วยเรื่องของเศรษฐกิจจะได้ดีขึ้นด้วย
เป็นกำลังใจให้ผู้ว่าฯคนใหม่ เพราะมีปัญหาที่รออยู่มากมายเลย