ถอดรหัสนายกฯนิด้าโพล ‘อุ๊งอิ๊ง’ อันดับ1 ‘ประยุทธ์’ ร่วงที่4

หมายเหตุความเห็นนักวิชาการ กรณีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) สำรวจคะแนนนิยมทางการเมือง 2,500 ตัวอย่าง พบว่าบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีอันดับ 1 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ร้อยละ 25.28 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตกไปอันดับ 4 ร้อยละ11.68 ขณะที่คะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยก็มาเป็นอันดับ 1 ร้อยละ 36.36

สุขุม นวลสกุล
อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยรามคำแหง

การที่โพลออกมาอย่างนี้ จริงๆ แล้วพรรคเพื่อไทยยังไม่เสนอใครนอกเหนือจากคุณอุ๊งอิ๊งเลย แต่ตอนนี้ตั้งคุณอุ๊งอิ๊งขึ้นมาเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แล้วทางพรรคเพื่อไทยเองก็ไม่ได้ชูใครเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ หรือชูใครต่อใคร นอกจากคุณอุ๊งอิ๊ง

Advertisement

ฉะนั้น ใครที่ตัดสินใจเลือกเพื่อไทยก็เท่ากับเลือกคุณอุ๊งอิ๊ง แล้วคะแนนของพรรคเพื่อไทยก็แบ่งมาที่คุณอุ๊งอิ๊ง มันชัดเจนและสัมพันธ์กันอยู่

มีแนวโน้มว่า พรรคเพื่อไทยจะใส่ชื่อคุณอุ๊งอิ๊งเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯ ของพรรค แต่คงไม่ใช่ตัวชูจริงๆ เพราะพอถึงตัวจริงๆ ก็อาจจะถูกคนวิพากษ์วิจารณ์ในลักษณะของความอ่อนประสบการณ์ แต่ว่าชื่อคุณอุ๊งอิ๊งมันดึงคนได้ ถ้าพูดถึงเพื่อไทย ไม่มีคนอื่นที่เพื่อไทยชูเลย คราวนี้ถ้าจะชูขึ้นมา ชื่อก็ต้องเป็นที่ยอมรับเหนือคุณอุ๊งอิ๊ง ทั้งในแง่ของประสบการณ์ ความสามารถ ซึ่งยังหาไม่ได้ แต่ก็ยังพอมีเวลา

อย่าลืมว่าสิทธิของแต่ละพรรค เสนอได้ 3 ชื่อ ถ้าเราดูอย่างนี้ ชื่อของคุณอุ๊งอิ๊ง เขาไม่ทิ้งแน่ เพราะว่าดึงดูดได้ เป็นสัญลักษณ์ ในลักษณะที่ว่า คุณโทนี่ (ทักษิณ ชินวัตร)เอาด้วย

Advertisement

ส่วนอีก 2 จะเป็นใคร ผมไม่ทราบ ต้องรอดู พรรคเพื่อไทยคงปวดหัวอยู่เหมือนกัน เพราะว่าไม่ได้ง่ายที่จะต้องหาคนลงแข่งแบบนี้ ในขณะที่ตัวแข่งก็อาจจะเห็นแล้วว่า แข่งกับคุณประยุทธ์นั่นแหละ ในแง่ของความโดดเด่นไม่มีใครแทนคุณอุ๊งอิ๊ง แต่ในแง่ของการพินิจ พิเคราะห์ ความเหมาะสม ยังมีอีกหลายองค์ประกอบแต่ตอนนี้ถ้าจะพูดถึงคนที่ผู้คนนึกถึงก็คือคุณอุ๊งอิ๊ง บางคนอาจจะนึกไกลไปถึงคุณโทนี่ด้วยซ้ำ ถือเป็นเครื่องประกันความสามารถ

อย่างไรก็ดี ศักยภาพด้านต่างๆ ทั้งคุณวุฒิ วัยวุฒิของคุณอุ๊งอิ๊ง เมื่อถึงเวลาที่ต้องพิจารณาอย่างจริงจัง ก็อาจจะยังด้อยตรงส่วนนั้น นอกจากชื่อเสียงที่มีคุณโทนี่เป็นแบ๊กอยู่ ที่ทำให้อาจจะสูงกว่าคนอื่น เพราะศรัทธาของคนที่มีต่อโทนี่ได้ส่งต่อมาที่คุณอุ๊งอิ๊งด้วย ดังนั้น เมื่อถึงเวลาแข่งกันจริง ก็ย่อมจะต้องมีการวิเคราะห์คุณสมบัติ แล้วเปรียบเทียบกัน

ตอนนี้เป็นอย่างนี้ ไม่เอาคุณประยุทธ์ แต่ก็ไม่รู้จะเอาใคร มันไม่มีทางไป คือคนไม่เอาประยุทธ์ เอาใครก็ได้ เมื่อมองไปคนและพรรคที่มีสิทธิจะอยู่ตรงข้ามกับคุณประยุทธ์ก็มีอยู่ 2 พรรค คือ เพื่อไทยกับก้าวไกล

ถามว่าเพื่อไทยจะมาแรงกว่าก้าวไกลหรือไม่ในรอบนี้ในสนามการเลือกตั้ง ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องทักษะและนโยบายต่างๆ พูดถึงกระแสการเมืองบ้านเรา มี 2 อย่างคือ กระแส และ กระสุน เพื่อไทยนั้นเหนือกว่า ถ้าพิจารณาภาพรวม คำว่าเหนือกว่าในที่นี้ คือเหนือกว่าในเรื่องการประสาน สนับสนุน

ผมว่าสถานการณ์การเมืองตอนนี้ ยังอยู่ในระหว่างการเตรียมตัวมากกว่า หมายความว่าเตรียมการเข้าสู่โหมดแข่งขันจริง ซึ่งการเคลื่อนไหว ณ ขณะนี้ถือเป็นการหยั่งเชิงไปในตัว แต่ถึงวันนี้เราก็มั่นใจได้แล้วว่า พรรคเพื่อไทยต้องเอาคุณอุ๊งอิ๊ง เป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกฯของพรรคแน่ๆ

ส่วนการที่ผลโพลออกมาว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านมีคะแนนนิยมมากกว่าพรรคร่วมรัฐบาล จะส่งผลต่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้น รวมถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่นั้น ผมมองว่าการอภิปรายไม่วางใจ คนเชื่ออยู่แล้วว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร มันเป็น การแสดงและการต่อรองของนักการเมืองเท่านั้น คนไม่ได้หวังผลอะไร

วีระ หวังสัจจะโชค
ภาควิชารัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

เราต้องกลับไปพิจารณาก่อนว่า ที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งปี 2562 และได้ ส.ส.เขตเป็นจำนวนมาก เป็นผลมาจากการที่ส่งแคนดิเดตนายกฯ ที่เป็นคนสำคัญมากๆ อย่างคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทยณ เวลานั้นเราพบว่านี่คือแคนดิเดตนายกฯ ที่ทุกคนรู้สึกว่ามีความพร้อมอย่างน้อยที่สุด คุณชัชชาติพิสูจน์ตนเองแล้วจากการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. เขาคือคนที่ชาว กทม.มีฉันทานุมัติที่ทุกคนพร้อมจะเลือก

ฉะนั้น คนที่มีความพร้อมระดับหนึ่ง คือคนที่มีประสบการณ์ทางการเมือง มีประสบการณ์ด้านการบริหาร และประสบการณ์ด้านวิชาการ นั่นคือการเป็นแคนดิเดตนายกฯ เมื่อกลับมาที่ตัวของคุณแพทองธาร เราจะพบความแตกต่าง มีหลายประเด็นที่คุณแพทองธารยังไม่ได้เผชิญกับข้อพิสูจน์หรือความท้าทายทางการเมือง เนื่องจากทั้งคุณชัชชาติและคุณหญิงสุดารัตน์ ผ่านการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรค หรือการรัฐประหาร ฉะนั้นถ้าเทียบความพร้อมในการเป็นนายกฯ หากส่งคุณแพทองธารเป็นแคนดิเดตนายกฯ อาจจะทำให้กระแสของเพื่อไทยไม่เข้มแข็งเท่าการเลือกตั้งปี 2562 และยิ่งการเลือกตั้งในครั้งหน้า เรามีบัตร 2 ใบ ซึ่งจะต้องมี 1 ใบ สำหรับเลือกพรรคการเมือง และใบนี้เองที่คนจะเลือกโดยดูจากแคนดิเดตนายกฯ ฉะนั้น แคนดิเดตนายกฯ จะต้องมีความพร้อมในการทำงาน

หากเราลองนึกว่า เพื่อไทยส่งคุณแพทองธาร ภาพมันจะไม่ใช่นักการเมืองที่มีประสบการณ์ในการทำงาน อาจจะได้ภาพคนรุ่นใหม่ แต่จะเป็นภาพเดียวกับพรรคก้าวไกล และปัญหาคือ คุณแพทองธารจะติดภาพของ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เพราะเป็นลูกสาว ยิ่งทำให้เพื่อไทยปฏิเสธไม่ได้อีกว่า เป็นพรรคที่มีเจ้าของ เราทราบอยู่แล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อไทยกับ ดร.ทักษิณ มีความใกล้ชิดกัน แต่การส่งลูกสาวมา จะเปิดช่องให้คนอื่นวิพากษ์วิจารณ์เพื่อไทยมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ฝ่ายตรงข้าม ถ้าเราดูจากโพล คนที่ยังหาผู้ที่เหมาะสมไม่ได้คืออันดับ 2 คนก็จะตั้งคำถามว่า แบบนี้เพื่อไทยจะกลับไปเป็นลูปเดิม คือเป็นพรรคของคนคนหนึ่งและเข้ามาทางการเมืองเพื่อพาพ่อกลับมา จะออกมาเป็นลักษณะนี้ กลายเป็นข้อเสียมากกว่าข้อดี ไม่รู้ว่าเขาเก็บข้อมูลกันอย่างไร แต่การเปิดให้คุณแพทองธารมาเป็นอันดับ 1 แบบนี้ไม่ใช่เรื่องดี เพราะยิ่งเป็นการเปิดหน้าให้กลุ่มพรรคการเมืองอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันเอง ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย หรือพรรคพลังประชารัฐซึ่งเป็นการเปิดช่องที่จะตีกรอบเพื่อไทยว่าไม่ใช่พรรคที่จะมาสร้างประชาธิปไตย ไม่ใช่พรรคที่เข้ามาเน้นการทำงาน

หากเราเทียบประสบการณ์ในการทำงานด้านบริหาร จะพบว่าคุณแพทองธารนั้นเพิ่งเข้าเกณฑ์ในการเป็นนายกฯ คืออายุ 35 ปี แต่ด้านการบริหาร อาจจะไม่ได้มีประสบการณ์ในหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่ของครอบครัวตนเอง อย่างน้อยที่สุด ถ้าเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ก็ยังมีประสบการณ์บริหารในการทำธุรกิจของตนเองซึ่งตรงนี้จะกลายเป็นจุดอ่อนที่สำคัญมาก ภาพที่พยายามจะปลุกเน้นในเรื่องคนรุ่นใหม่ หรือความเป็นนักบริหาร จะไม่ถูกฉายขึ้นมา แต่สิ่งที่จะถูกฉายขึ้นมาคือหน้าของ ดร.ทักษิณ นี่คือความอันตรายของเพื่อไทย ซึ่งเกมนี้พรรคเองพยายามจะบอกว่า เราสู้จริงๆ นะ แต่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในพรรคอย่างที่เราเห็นคือ เลือดไหลออกไม่หยุด เราเห็นการย้ายพรรคของ ส.ส. มากกว่าที่จะสร้างความเป็นหนึ่งเดียวในพรรค ซึ่งนั่นคือเป้าหมายของครอบครัวเพื่อไทย ที่เอาคุณแพทองธารมานำ

ถ้าคนเพื่อไทยมองภาพตรงนี้ออก จะพบว่าถ้าจะมีแคนดิเดตนายกฯ จริงๆ คุณแพทองธารอาจจะยังเร็วเกินไป หรืออย่างน้อยที่สุดในครั้งนี้อาจจะยังไม่ส่ง ให้เป็นครั้งหน้าหรือในอนาคต แต่อย่างน้อยต้องให้ผ่านประสบการณ์หรือข้อพิสูจน์ ว่าสามารถเผชิญความกดดันทางการเมืองและความท้าทายทางการเมืองในระยะเวลาหนึ่ง

ผมคิดว่า เพื่อไทยจะเดินเกมทางการเมือง โดยใช้คุณแพทองธารเป็นสัญลักษณ์ แต่ไม่ใช่แคนดิเดตนากยกฯ อาจจะเป็นการช่วยหาเสียง เพราะนายกฯ อาจจะต้องหาคนที่มีประสบการณ์ในด้านการบริหาร ซึ่งจริงๆ เพื่อไทยมีคนอยู่ ผมคิดว่าคุณแพทองธารจะช่วยเพื่อไทยได้มากกว่าถ้าไม่ใช่แคนดิเดตนายกฯ จะช่วยป้องกันปัญหาการครหาเรื่องการปลุกผีนิรโทษกรรมภาคต่อขึ้นมา

พรรคเพื่อไทยนั้น ถ้าอยากสร้างความเป็นสถาบันในฐานะองค์กรพรรคการเมือง ที่สนับสนุนประชาธิปไตย ต้องตัดภาพของพรรคการเมืองออกจากครอบครัวชินวัตรให้ได้ ควรจะหานักบริหารมืออาชีพ ข้อเด่นที่สุดของเพื่อไทยคือ ขายคนทำงานจริงและนำนโยบายมาใช้ได้จริง ดังนั้น แคนดิเดตนายกฯ อาจจะไม่ใช่หัวหน้าพรรคก็ได้ แต่เป็นบุคคลที่มีประสบการณ์และสังคมให้การยอมรับ

คิดว่าในการอภิปรายไม่ไว้วางใจคงไม่มีผลอะไร เป้าหมายไม่ใช่การล้มรัฐบาล แต่เป็นการขายนโยบายเพื่อการเลือกตั้งครั้งหน้า พยายามตีจุดอ่อนของรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อขายนโยบาย ส่วนการมองไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้า อาจจะต้องดูสถานการณ์ว่า พปชร.ยังจะมีความเข้มแข็งเหมือนเดิมหรือไม่ แล้วเพื่อไทยจะมีเลือดไหลออกมากกว่านี้หรือไม่

ตอนนี้ยังตอบได้ยากว่า พรรคฝ่ายค้าน หรือฝ่ายประชาธิปไตยจะมีความได้เปรียบ

ยอดพล เทพสิทธา
อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

เพื่อไทยจะใส่ชื่อคุณแพทองธารในบัญชีชื่อแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ เรื่องนี้ตอบยาก การเลือกตั้งเหลือเวลาอีกประมาณ 1 ปี กว่าจะหมดอายุสภาชุดนี้ ในกรณีที่อยู่เต็มสมัย และการจัดโครงสร้างของพรรคเพื่อไทย ไม่เหมือนพรรคอื่น ค่อนข้างซับซ้อน คือคุณแพทองธารมีตำแหน่งเป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย คุณภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ได้เป็นแคนดิเดต แต่เป็นคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย และคุณชัยเกษม นิติสิริ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าในพรรคเพื่อไทยเองตอบยาก

ทั้งนี้ ทางพรรคเพื่อไทยจะส่งคุณแพทองธารเป็นแคนดิเดตก็ไม่ผิด แต่จะส่งหรือไม่ผมไม่อยากฟันธง เพราะพรรคเพื่อไทยมีโครงสร้างแปลกกว่าพรรคอื่น

ส่วนศักยภาพด้านคุณวุฒิ วัยวุฒิ รวมทั้งประสบการณ์ต่างๆ ของคุณแพทองธาร พร้อมจะนั่งนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่นั้น ตอบไม่ได้ แต่ในกรณีคุณแพทองธารผมคิดว่ายังมีเวลา แต่ขึ้นอยู่กับพรรคเพื่อไทยอยู่ดีว่าอยากจะวัดใจตามโพลหรือไม่

ทั้งนี้ ในส่วนของเรื่องคะแนนนิยมของแต่ละพรรค สะท้อนสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่ต่างกัน ตอนทำโพลปี 2562 ก่อนเลือกตั้ง โพลก็ออกมาทำนองนี้ ที่พลิกโผคือพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งได้คะแนนมากกว่าคาดจำนวนหนึ่ง และคาดว่าเพื่อไทยจะชนะ ซึ่งผลออกมาเพื่อไทยก็ชนะจริงๆ อนาคตใหม่ก็ได้มากกว่าที่คาดในหลายส่วน ที่ผิดคาดคือพรรคประชาธิปัตย์และพรรคอื่นๆ

แต่ปัญหาไม่ใช่ผลโพล ปัญหาคือสมาชิกวุฒิสภา 250 คน ดูจากผลโพลของคุณแพทองธาร ก็ได้ไม่ถึง 50% ต่อให้รวมเสียงจากนายพิธา 13.24% ก็ยังไม่ถึง 50% ซึ่งความจริงต้อง 75% ด้วยซ้ำ ถามว่าจะนำอะไรไปถ่วงดุลกับ ส.ว. 250 เสียง ผลโพลไม่สำคัญเท่า ส.ว.ตอนนี้ ถ้าตราบใดที่ยังอยู่ในเงื่อนไขที่ให้ ส.ว.มาร่วมโหวตนายกฯ ได้ ถ้าได้ไม่ถึง 375 เสียง ก็ไม่มีทางชนะ

อย่างไรก็ตาม การที่พรรคร่วมฝ่ายค้านมีคะแนนนิยมมากกว่าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ได้ส่งผลให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เต็มที่ คือ เปิดแผลของรัฐบาลเพิ่มได้ แต่กองเชียร์ของพรรคร่วมรัฐบาลเหนียวแน่นและมีจุดร่วมของเขา

ดังนั้น ต่อให้ดี-เลวอย่างไร ไม่แย่จนถึงขนาดอาการหนัก ผมคิดว่าเขายังเลือกอยู่ยังเชื่อว่าพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งหน้า น่าจะเป็นพรรคที่มีคะแนนเสียงอันดับ 1, 2 หรือ 3 ส่วนจะได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ยังไม่รู้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image