แฟลชสปีช : ‘ทักษิณ’จะกลับบ้าน

แฟลชสปีช : ‘ทักษิณ’จะกลับบ้าน

หากติดตามการวิเคราะห์ของบรรดากูรูการเมือง จะมีข้อสรุปหนึ่งที่ได้ยินตอกย้ำอยู่บ่อยๆ

เป็นเสียงเตือนไปถึง “ทักษิณ ชินวัตร” ให้หยุดพูด หรือหยุดเคลื่อนไหวทางการเมืองเสียบ้าง นัยว่าเป็นเจตนาดีต่อฝ่ายประชาธิปไตย เนื่องจากเห็นบ่อยครั้งการแสดงออกของ “ทักษิณ” กลายเป็นแนวร่วมมุมกลับให้ฝ่ายตรงกันข้าม ส่งผลเสียหายต่อนักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย

ล่าสุดคือการยืนยันว่าจะกลับบ้าน (ประเทศไทย) ในอีกไม่นานนี้ และคนที่จะประกาศว่าเป็นเมื่อไรคือลูกสาว อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร

Advertisement

ทันทีที่ “ทักษิณ” พูดออกมาเช่นนั้น คลื่นการวิเคราะห์แทบทุกกระแสพากันชี้ในทิศว่าจะทำให้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” พลิกจากความตกต่ำมาสู่การได้เสียงที่เทมาให้ด้วยเหตุผลว่าการเลือก “ลุงตู่” (ของเหล่าอนุรักษ์อำนาจนิยม) จะเป็นหนทางเดียวที่จะปิดทางกลับบ้านของ “ทักษิณ”

นำการเมืองกลับไปสู่ “ไม่เลือกเราเขามาแน่” ที่มี “ทักษิณ” เป็น “ปีศาจ” ที่จะต้องถูกขจัดขัดขวาง

Advertisement

เสียงเตือนจากกูรูทั้งหลายดังให้ขรม เพราะห่วงว่า “ทักษิณ” จะไปชาร์จพลัง “ปีศาจ” ที่ “ฝ่ายประชาธิปไตยเสรีนิยม” หวาดผวา ซึ่งใกล้หมดสภาพไปแล้วให้กลับมาผงาดอีกครั้ง เพราะฝ่ายตรงกันข้ามจำเป็นต้องรวมกันเติมพลังให้อย่างเป็นหนึ่งเดียว

ซึ่งว่าไปก็น่าจะเป็นไปได้ที่กระแสการเมืองจะพลิกกลับมาเป็นเช่นนั้น

แต่ถ้ามองกลับไปถึงเกมการเมืองของ “ทักษิณ” ที่ผ่านมา การวางยุทธศาสตร์เลือกตั้งบ่อยครั้งที่มักทำให้สร้างกระแสสับสนว่าทำทำไม เพราะเรื่องที่ทำนั้นน่าจะเป็นผลดีต่อพรรคการเมืองคู่แข่งมากกว่า

ไม่ว่าการ “ไม่หยุดเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง ทั้งที่รู้ทั้งรู้ว่าเป็นจุดเปิดให้ฝ่ายตรงกันข้ามโจมตี การเสนอน้องสาวคือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี อันเท่ากับตอกย้ำความเป็นพรรคครอบครัว”

แต่หากติดตามที่ผล จะพบว่าทุกเกมที่ “ทักษิณ” วาง กลับประสบความสำเร็จ หมายถึงการได้รับชับชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นครั้งไทยรักไทย พลังประชาชน และมาเพื่อไทย

แน่นอน! บทสรุปเมื่อถึงที่สุดแล้ว “ทักษิณ” ยังพ่ายแพ้ เพราะแม้จะชนะการเลือกตั้งจัดตั้งรัฐบาลได้ แต่ก็ต้องถูกรัฐประหาร และประสบชะตากรรมแบบต้องระเหเร่ร่อนไปอยู่นอกแผ่นดินไทย

แต่นั่นเป็นเรื่องของความพ่ายแพ้ต่ออำนาจนอกระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นอำนาจที่ไม่เอื้อให้ “ทักษิณ” เข้าไปมีส่วนร่วมอยู่แล้ว และจะว่าไป ไม่เพียง “ทักษิณ” ที่พ่ายแพ้ต่ออำนาจนอกระบบนี้ นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งทุกคน หากขึ้นมาครองอำนาจรัฐล้วนแล้วแต่ถูกขับไล่ด้วย “รัฐประหาร” จาก “อำนาจที่ใช้กองกำลังและยุทโธปกรณ์” เข้ามายึดไปทั้งนั้น

หนทางเดียวที่ “ทักษิณ” จะสู้ได้ มีเพียงจังหวะที่จำเป็นต้อง “คืนอำนาจให้ประชาชน” เท่านั้น

และถ้าติดตามใกล้ชิดจะพบว่า ใน “อำนาจประชาชน” นั้น แม้จะทำในเรื่องที่ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไปทำไม เพราะไม่เพียงไม่น่าจะเกิดผลดีเท่านั้น แต่ยังดูเหมือนเอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายตรงกันข้ามเสียมากกว่า

แต่ในผลที่เกิดขึ้นคือ “ทักษิณไม่เคยพลาดเป้า”

จึงเป็นเรื่องน่าติดตามยิ่งว่า “ครั้งนี้ก็เช่นกัน” หรือไม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image