‘เศรษฐา’ปลุกสร้างโอกาส เพิ่มรายได้-เดินหน้าประเทศ

หมายเหตุ – นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนา Thailand 2024 : The Great Challenges เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส จัดโดยหนังสือพิมพ์มติชน ที่ห้องอินฟินิตี้ 1-2 โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ถนนรางน้ำ เมื่อวันที่ 24 มกราคม

 

เ มื่อสักครู่มีหัวข้อขึ้นมาว่าลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ เป็นที่ประจักษ์ดีอยู่แล้วว่ารัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้าง แม้จะยังทำไม่ครบ ไม่ได้ถูกใจทุกคน แต่เชื่อว่าเราพยายามทำอยู่ทุกวันนี้ วันนี้ที่มาพูด อยากเน้นเรื่องของการขยายโอกาสให้ประชาชนคนไทยทุกคนมากกว่า
ว่าอีก 4 ปี เราจะเห็นอะไรบ้าง หากพูดถึงเรื่องการขยายโอกาสก็ต้องพูดถึงเรื่องการลงทุน หากมองไปในอีก 20-30 ปีข้างหน้า ไม่อยากให้เรากลับมาพูดว่ารู้งี้ เราน่าจะทำเช่นนั้นเช่นนี้ ไม่อยากให้มีคำว่ารู้งี้อีกต่อไป หากเราต้องรอคอยให้ทุกอย่างรอบรู้หมด ผมเชื่อว่ามีรายจ่ายที่ต้องใช้ ซึ่งรายจ่ายและต้นทุนที่สูงขึ้น จะเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้เราต้องเสียโอกาส ทั้งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ไปเข้าร่วมในการประชุม World Economic Forum (WEF) ที่เมืองดาวอส ประเทศ
สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งประเทศไทยไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีไปเลยในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา มีเพียงแค่รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีไปบ้าง ทำให้ได้ไปพบปะกับผู้นำประเทศต่างๆ ผู้นำองค์กรที่มีชื่อเสียงระดับโลก

Advertisement

ในการไปประชุมครั้งนั้น ได้มีการพูดถึงเรื่องการลงทุนพื้นฐาน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เราต้องพูดถึงเรื่องแลนด์บริดจ์ ที่มีทั้งผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งรัฐบาลชุดนี้ต้องรับฟังทุกข้อท้วงติง มีการศึกษาทุกอย่างอย่างเป็นธรรมโดยองค์กรอิสระ ไม่มีการไปก้าวก่าย เพื่อให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับพี่น้องประชาชน ซึ่งการไปพูดคุยครั้งนั้นมี
นักลงทุนหลายรายไม่ว่าจะจากประเทศอินโดนีเซีย ดูไบสนใจและพร้อมมาพูดคุย มาดูสถานที่จริง และเมื่อวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ผมก็ได้ไปลงพื้นที่รับฟังความคิดเห็น ยืนยันว่ารัฐบาลรับฟังทุกเรื่อง ทั้งเสียงที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ทุกครั้งที่ไปรับฟังเรื่องแลนด์บริดจ์ หลายคนไม่ทราบว่าองค์ประกอบต่างๆ มีอะไรบ้าง จะรู้คร่าวๆ แต่การที่เราจะใช้งบประมาณลงทุนน้อยที่สุด ให้คนมาลงทุนที่นี่ ไม่ใช่ว่าเราจะรับฟังแค่ความคิดเห็นของประชาชนเท่านั้น แต่ต้องรับฟังความคิดเห็นของนักลงทุนด้วย และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องมาไตร่ตรองว่าสิ่งที่เขาต้องการมีผลบวกหรือลบมากกว่ากันกับประชาชนของเรา เรายังไม่ทราบว่าจะมีท่อส่งน้ำมันหรือไม่ แต่เราก็เปิดกว้างว่าอาจจะเป็นธุรกิจหนึ่งที่ให้นักลงทุนมาลงทุนตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ซึ่งเราต้องไปรับฟังความคิดเห็นเพื่อที่จะมาดีไซน์ให้ถูกว่าควรจะมีอะไรบ้าง ฉะนั้น เรื่องนี้
เป็นเรื่องที่เรายังต้องมีการพูดคุยกันอีกเยอะ ต้องใช้เวลา และคิดว่าน่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 10 กว่าปีจึงจะเสร็จ แต่อยากให้มองเหมือนเรื่องสนามบินสุวรรณภูมิ

อยากฝากไว้ว่าให้มองไปด้านหน้าว่าหากไม่เริ่มต้นวันนี้โอกาสในอนาคตที่จะเกิดขึ้นก็จะเสียไป และเรื่อง จีโอ โพลิติก (Geopolitics) ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนใหญ่ๆ เช่นนี้ ประเทศไทยยืนยันว่าจุดยืนด้านการต่างประเทศ เราเป็นกลางตลอด เราไม่เป็น parties of conflict กับ
ประเทศใดๆ ไม่ว่าจะมหาอำนาจระหว่างสหรัฐอเมริกาหรือประเทศจีนก็ตาม หรืออินเดียที่กำลังขยับเข้ามาเป็นมหาอำนาจอีกประเทศ เชื่อว่า
โครงการเมกะโปรเจ็กต์ที่เรากำลังทำขึ้นมา แสดงชัดเจนว่าเราเป็นมิตรกับทุกประเทศ เรายินดีร่วมทำธุรกรรมกับหลายประเทศ การที่เรามีเมกะโปรเจ็กต์ระดับโลกตั้งอยู่ในประเทศ เราสามารถสร้างอำนาจ
ต่อรองให้กับทุกประเทศ ตราบใดที่เรายังเป็นคนคอนโทรลทั้งหมด ทุกประเทศก็อยากเข้ามา และเชื่อว่าการค้าระดับโลกจะมีมาอย่างมโหฬาร และการโฟลว์ออฟกู้ดจะดีขึ้น

Advertisement

รวมถึงเรื่อง เอฟทีเอ (FTA) ที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้เริ่มต้นทำเรื่องนี้แล้วถือเป็นการเริ่มต้นที่จะนำประเทศไทยไปทัดเทียมกับต่างประเทศ ดึงนักลงทุนกลับเข้ามาให้ได้ นอกจากนี้ เรื่องการทำธุรกิจของเราหรือปัญหาที่เกิดขึ้น ที่เรามีขั้นตอนเยอะ ที่หลายคนมีความเป็นห่วง เช่น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์มีการทำวิจัยเรื่องยารักษาโรคใหม่ๆ ขึ้นมา และอยากใช้ประเทศไทยเป็นตลาดสินค้า แต่ต้องผ่าน สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
(อย.) เมื่อได้พูดคุยก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่รัฐบาลนี้ต้องให้ความสำคัญ

ซึ่งเมื่อการประชุม WEF จบลง คิดว่าปีหน้าต้องไปอีกและต้องไปให้ใหญ่ขึ้น ต้องเชิญรัฐมนตรีอีกหลายคนที่เกี่ยวข้องไปด้วย แม้จะเห็นว่าที่ไปมีการพบปะกับกลุ่มต่างๆ เยอะ หากมีการจัดการที่ดีมากกว่านี้ก็สามารถทำได้ การต้องเดินตามห้องต่างๆ เปลี่ยนห้องไปเปลี่ยนห้องมา ทำให้เสียเวลาเยอะ ทั้งนี้ หากประเทศไทยสามารถทำเป็น Thailand Paviloin มีหลายห้อง แยกตามห้อง มีรัฐมนตรีนั่งประจำอยู่ตามห้องต่างๆ เชื่อว่าประเทศไทยได้รับความสนใจมากกว่านี้ ต้องเทิร์นดาวน์ในหลายมีตติ้ง เพราะเวลาไม่พอ

อย่างไรก็ตาม สำหรับนโยบายหลักของเราคือ การท่องเที่ยวที่มีหลายมิติที่เกี่ยวข้อง ที่ใช้คำว่าควิกวิน แต่ก็ไม่ได้อยากใช้เท่าไหร่ ใช้คำว่าอะไรทำได้ทำไปก่อนดีกว่า เช่น เรื่องวีซ่าฟรีที่ใช้ไปแล้วในหลายประเทศ โดยตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของประเทศจีนมาเซ็นเอกสารให้เป็นถาวรทั้ง 2 ประเทศ ไม่ใช่แค่เราให้เขา แต่เขาให้เราด้วย ทั้งนี้ เคยได้เจอกับประธานสภาอียูและประธานาธิบดีของเบลเยียมด้วย ซึ่งได้มีการพูดคุยถึงเรื่องวีซ่าเพื่อให้เข้าออกฟรีได้ทั้งสองประเทศเช่นกัน นอกจากนี้ ยังจะมีการยกระดับประเทศไทยให้เป็น Aviation Asian Hub โดยจะยกระดับตั้งแต่สายการบิน การเข้าเมือง การขนส่งกระเป๋า จัดการบินใหม่ ขยายแอร์พอร์ตในเมืองรอง หรือเพิ่มแอร์พอร์ตในเมืองหลัก เราต้องการยกระดับประเทศไทยให้เป็น Aviation Asian Hub นั้น เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราต้องทำ ไม่เช่นนั้นเราจะไปสู่จุดศูนย์กลางไม่ได้

ผมกลับมานั่งคิดว่าทำไมอยู่ดีๆ ประธานาธิบดีเวียดนามถึงมาเสนอยกของดีให้เรา แต่เมื่อกลับมานั่งคิดดีๆ ก็รู้ว่าไม่มีอะไรฟรีๆ ในโลก เพราะแอร์ไลน์ที่ขยายตัวเร็วที่สุดที่เป็น Local แอร์ไลน์คือเวียตเจ็ท
หากเราทำให้เราเป็นศูนย์กลางได้ เขาก็สามารถใช้ประเทศไทยเป็นฮับและขยายตัวเร็ว ไปเมืองรองต่างๆ ได้ นี่ถือเป็นการอยู่ร่วมกัน มีผลประโยชน์ร่วมกัน เป็นเรื่องใหญ่ที่ขอให้ติดตาม อีกประมาณ 1 เดือนข้างหน้าก็ขอทำการบ้าน ทำแพลนลงรายละเอียดมา เชื่อว่าจะเป็นการขยายโอกาส เป็นเรื่องที่ดีของประเทศไทย เช่น เรื่องสนามบินหนองงูเห่า

ที่ผมได้ยินมาตั้งแต่เป็นนักเรียนแต่ก็ไม่มีการสร้าง จนกระทั่งรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็ได้สร้างเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา และไม่ต้องคิดเลยว่าหากเรายังหวังพึ่งแค่สนามบินดอนเมืองสนามบินเดียวนั้น ปัจจุบันประเทศเราจะเป็นอย่างไร เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา
ที่เรามีรัฐบาลที่เห็นโอกาส และไม่ใช่แค่เห็นหรือฝันอย่างเดียว แต่ลงมือทำด้วย ผมถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ถูกต้อง และทุกคนเห็นแล้วว่าเป็นเรื่องที่ต้องทำไป ทั้งนี้ หากฟังเรื่องคัดค้านในเรื่องต่างๆ ในวันนั้นจะพบว่ามีเสียงคัดค้านมาก แต่เรื่องโอกาสก็เป็นเรื่องที่สำคัญ ผมไม่อยากให้เราต้องมาเสียโอกาสกันอีก คนที่นั่งอยู่ที่นี่บางคนก็ได้อานิสงส์ คนที่อายุน้อยๆ บางคนก็ไม่ทราบว่าต้องต่อสู้กันมานานแค่ไหนกว่าจะได้มา

โอกาสข้างหน้าเราต้องพึ่งอยู่กับประชาชนที่มีอายุน้อย ซึ่งปัจจุบันมีปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือเรื่องยาเสพติดที่เราปฏิเสธไม่ได้ และเป็นเรื่องใหญ่ที่บั่นทอนสังคมมายาวนาน และไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ไตรมาสเดียว เราสามารถจับยาบ้าได้มากกว่าปีก่อนหน้านั้นทั้งปี ผมไม่ได้บอกถึงความแข็งแกร่งที่เราทำงานได้ดี แต่เรื่องที่น่าเศร้าคือเราตัดซัพพลายได้มากเช่นนี้ แต่ราคาต่อเม็ดก็ยังไม่ขึ้น แสดงว่ามีการรั่วเข้ามาอีกเยอะ ซึ่งเข้ามาทางเมียนมาเคยไปพูดคุยถึงปัญหานี้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาคเหนือ ก็มีการตรวจจับทำให้มีจำนวนลดลง แต่กลับไปโผล่ที่ จ.กาญจนบุรีแทน แต่สิ่งสำคัญคือความแข็งแรงของสถาบันครอบครัว ผู้ป่วยแทนที่จะเป็นผู้ผิดแล้วนำมาอบรมสร้างอาชีพ คืนเขาสู่อ้อมกอดของครอบครัว มีการติดตามงานอย่างใกล้ชิดจากกระทรวงสาธารณสุข เชื่อว่าสังคมไทยจะดีขึ้น ยืนยันว่าเราจะให้ความสำคัญต่อไปเพื่อเป็นการไม่ทำลายโอกาสของเยาวชนที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับยาเสพติด

ด้านสาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญ หากย้อนไป 20 ปีที่ผ่านมา โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่เราลงทุนไป มีวลีที่ไม่น่าฟังเยอะไปหมด แต่ปัจจุบันเราเชื่อว่าหลายคนได้รับประโยชน์ และชื่นชมกับนโยบายนี้เยอะมาก ซึ่งหากเราไม่กล้าลงทุนในตอนนั้น ไม่กล้าที่จะทำอะไร ประชาชนอาจต้องใช้เงินรักษาจำนวนมหาศาล ก็จะเป็นปัญหากับประเทศได้ รัฐบาลนี้จึงต้องมีการยกระดับโครงการนี้ขึ้นมา ต้องรอดูว่าเราจะทำอย่างไรกันต่อไป นอกจากนี้ เราจะมีการพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไร ให้การทำธุรกิจดีขึ้น ทั้งการลงทุนจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยในการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ยาก็ต้องรักษาไว้ เช่น มีสินค้าหลายประเภทที่ต้องผ่าน อย. อยู่ ทำให้การนำเข้าสินค้าหรือการผลิต ผลประโยชน์ที่ควรได้ก็จะถูกยืดระยะเวลาออกไป รัฐบาลจะดูว่าสินค้าที่ถูกควบคุมโดย อย.นั้นจะถูกนำออกจากรายการบ้างหรือไม่ หรือหาก อย. ต่างประเทศเข้ามาแล้ว จะสามารถลดขั้นตอนได้บ้างหรือไม่ เพื่อที่ประชาชนจะได้รับผลิตภัณฑ์ยาที่มีคุณภาพเข้ามารวดเร็วขึ้น

E-Government ที่เราจะนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะประชาชนที่มีมากขึ้น volume of business ที่เข้ามาใน
หน่วยงานรัฐก็เพิ่มมากขึ้น ทำให้การดูแลประชาชนมีปัญหา เสียเวลาหลายชั่วโมงในการติดต่อราชการ เป็นการทำลายโอกาสอย่างหนึ่ง เราต้องศึกษาให้ดีในการใช้เทคโนโลยี ซึ่งมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นระบบคลาวด์ จะช่วยให้ระบบการทำงานรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้แต่งตั้งคณะทำงาน นำโดย ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ จะมีประโยชน์อะไรหากลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นแสนล้าน แล้วต้องเสียเวลาในระบบกระบวนการต่างๆ แทนที่จะประหยัดเวลามากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการเสียเวลาโดยใช่เหตุ เราอย่าดูแค่การลงทุนอย่างเดียว วิธีการลงทุนต่างๆ ก็สำคัญ เราต้องทำงานกันอีกเยอะ เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความใส่ใจ

พลังงานสะอาดถือเป็นจุดแข็งของประเทศไทย ผมเดินทางไปต่างประเทศเพื่อดึงนักลงทุนมาร่วมลงทุน ทุกคนตระหนักดีอยู่แล้วว่าเรามีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีที่สู้กับประเทศเพื่อนบ้านได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราเหนือประเทศเพื่อนบ้าน คือพลังงานสะอาด เรามีพลังงานที่เพียงพออย่างพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม เรามีเอกชนที่แข็งแกร่ง หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องก็ทำได้ดี อย่างพลังงานไฟฟ้าที่มาจากเขื่อนเก็บน้ำ

ซึ่งหากย้อนไป 60 ปี เราพึ่งพลังงานไฟฟ้าที่มาจากเขื่อนค่อนข้างเยอะ แต่ปัจจุบันเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยมาก และเป็นพลังงานสะอาดแทน แต่ใครจะรู้บ้างว่าเขื่อนเป็นสรรพกำลังสำคัญในการสร้างพลังงานสะอาด เป็นเรื่องที่เราได้เปรียบประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เวียดนาม มาเลเซีย รวมทั้งเรื่องราคาไฟฟ้า ที่รัฐบาลกำลังพยายามดูแลในเรื่องนี้ด้วย จะยิ่งช่วยทำให้เราดึงดูดนักลงทุนเข้ามาได้

การเกษตร การสร้างโอกาสให้เกษตรกรไทยเป็นเรื่องสำคัญ
ทั้งเรื่องของการให้องค์ความรู้ ก็เป็นเรื่องที่เรากำลังพยายาม เพื่อสนองกับนโยบายเพิ่มรายได้สามเท่าภายใน 4 ปี สังคมไทยมีการจัดหลักสูตรสัมมนากันมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีหากทำให้ถูกต้อง ซึ่งผมได้เกียรติจากสถาบันรวมมิตรได้เชิญไปกล่าวปาฐกถา ซึ่งได้ขอให้นักเรียนเหล่านั้นลงพื้นที่ไปกับผม เริ่มต้นจากโครงการพระราชดำริในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อดูว่าโครงการเหล่านี้ดำเนินการอะไรบ้าง หลายคนอาจจะกล่าวว่า เดี๋ยวจัดการเซ็นเช็คให้ แต่ผมดักไว้ก่อนว่า ไม่ต้องการเช็ค แต่ต้องการ Love and Attention การเอาใจใส่ดูแล

อยากให้พวกคุณไปเห็นประกายในตาของเหล่าเกษตรกรในโครงการพระราชดำริ ว่าเป็นอย่างไรกันจริงๆ แน่นอนว่าการซื้อสินค้าก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่การซื้อสินค้าของเขาไปช่วยในด้านพาณิชยกรรม ด้านการตลาดก็เป็นเรื่องที่สำคัญมาก อย่างการเดินทางครั้งนี้ นักธุรกิจจากจิราธิวัฒน์ก็เดินทางร่วมด้วย ซึ่งเรารู้ว่าเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าระดับโลกหลายแห่ง การนำสินค้าลงขายในห้างเซ็นทรัลได้ก็เป็นบุญคุณแล้ว แต่อยากให้ไปไกลกว่านั้น หากสามารถนำสินค้าในโครงการพระราชดำริ หรือความฝันของชาวบ้านลงขาย
ในห้างระดับโลกได้ สานฝันให้เป็นความจริงได้ ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก ขอขอบคุณนักเรียนคณะนี้ที่ได้ร่วมทำเวิร์กช็อปกันอย่างจริงจัง มีขั้นตอนต่อไปอย่างชัดเจน ต้องติดตามต่อไป หลายคนในที่นี้อาจจะเคยเรียน ขอฝากไว้ว่า ผมพร้อมที่จะเดินทางไปด้วย พาพวกคุณไปดูแววตาของคนที่มีความฝัน ที่อยากจะได้โอกาสจากพวกคุณ เรื่องเล็กน้อยเหล่านี้
เป็นการลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำด้วย

เรื่องต่างๆ ที่ผมกล่าวมาทั้งหมด เชื่อว่าพวกคุณทราบดีอยู่แล้วว่าเรามีความตั้งใจจริงที่จะทำ แต่ปัญหาอุปสรรคก็มีเยอะ หลายอย่างก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป ส่วนในเรื่อง Illegal, Unreported and Unregulated Fishing (IUU Fishing) หรือการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ถูกปลดล็อกไปแล้วส่วนหนึ่ง เป็นที่น่าชื่นชมไปถึงทีมงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะทำให้อีกหลายหมื่นครอบครัวกลับมามีความสุขได้ ราคาสินค้าเกษตรก็เริ่มมีราคาสูงขึ้น เกิดจากการที่รัฐมนตรีทุกคนลงพื้นที่จริง ทำงานจริง

เพราะเราเป็นรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง เราต้องพึ่งประชาชน เราต้องเห็นใจประชาชน เรื่องราคาสินค้าเกษตรเป็นเรื่องสำคัญ เราพยายามหลีกเลี่ยงการเข้าไปแทรกแซง หรือการเข้าไปสงเคราะห์เงิน อยากให้เกษตรกรทุกคนมีความภาคภูมิ ที่สินค้ามีราคาดี มีรายได้ดีโดยไม่ต้องพึ่งรัฐบาล แต่เป็นที่รัฐบาลสร้างโอกาสให้กับพวกเขาทุกคน เชื่อว่าความท้าทายทั้งหลายที่อยู่ในปัจจุบัน มีหลายเรื่องที่ยังไม่ได้พูด ไม่ว่าจะเรื่องรัฐธรรมนูญ สิทธิในการเลือกเพศสภาพ เชื่อว่ารัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เราไม่เคยทอดทิ้ง กฎหมายหลายฉบับก็เริ่มผ่านบ้างแล้ว

เรื่องความท้าทายต่างๆ เราเชื่อว่าเราสามารถเผชิญกับมันได้ เรามีความตั้งใจจริง เราอยากจะเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น การสร้างโอกาสต่างๆ ที่ผมพูดไปทั้งหมด เชื่อว่าจะเป็นการสร้างฐานรากที่ดี ให้ประเทศไทยต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้ลูกหลานของพวกเราทุกคน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image