ดร.อู้-นายแน่มาก

ดร.อู้-นายแน่มาก

ไม่บ่อยครั้งนัก ข้าราชการระดับปลัดกระทรวง ลาออกจากราชการ
กว่าจะเติบโต ก้าวดำรงตำแหน่งสูงสุดของฝ่ายข้าราชการประจำมาได้ ลำบากยากยิ่ง ต้องฝ่าฟัน ผ่านอะไรต่อมิอะไรมากมาย

บางครั้งเก่งกาจ มีความรู้ความสามารถอย่างเดียวไม่พอ
หากแต่ต้องมีคุณสมบัติพิเศษ ที่เรียกว่า ครบเครื่องด้วย

สมชัย สัจจพงษ์ ยื่นลาออกทันที อย่างไม่อินังขังขอบ ทั้งที่เหลืออายุราชการอีก 3 ปี
เมื่อรับทราบมติคณะรัฐมนตรี
สั่งย้ายลดชั้น จากปลัดกระทรวงการคลัง ข้ามห้วยเป็นเลขาธิการสภาพัฒน์
เป็นการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวมาก

Advertisement

ก่อนหน้านี้ เดือนมิถุนายน 2559 อาทิตย์ วุฒิคะโร ลาออกจากปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมไปคนหนึ่งแล้ว
เป็นการลาออก ก่อนเกษียณ 3 เดือน อาจเทียบไม่ได้กับกรณีอายุราชการสมชัย
แต่การลาออกก็เป็นภาพสะท้อนความอึดอัด
ไม่ว่าจะก่อน 3 เดือน หรือ 3 ปีก็ตาม และไม่ว่าเป็นใคร ก็ย่อมต้องการครองเก้าอี้
เป็นเกียรติประวัติกระทั่งเกษียณด้วยกันทั้งนั้น

การลาออก ของปลัดกระทรวงจึงไม่ใช่เรื่องปกติ
ในรายสมชัยยิ่งผิดปกติ แสดงว่า ไม่อาจทำงานร่วมกันได้อีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลหรือฝ่ายนโยบายนั้น มีอำนาจแต่งตั้ง โยกย้าย ให้คุณให้โทษข้าราชการ ที่เป็นฝ่ายปฏิบัติ นำนโยบายไปขับเคลื่อนออกมาเป็นรูปธรรม

นักการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ย่อมอยากได้ ต้องการคนที่ไว้วางใจที่สุด มาทำงานให้
เนื่องจากต้องรับผิดชอบสูงสุด งานบริหารราชการแผ่นดิน
แต่การแต่งตั้ง โยกย้าย ก็ต้องอยู่บนพื้นฐาน ให้ความเป็นธรรม ปราศจากอคติ ปลอดจากการเมืองและผลประโยชน์
ฝ่ายนโยบายมีอำนาจสั่งย้าย
แต่ฝ่ายถูกกระทำ ข้าราชการก็มีสิทธิลาออก หากไม่พึงพอใจ เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม
ที่ชื่นชม เคารพการตัดสินใจของปลัดสมชัย สัจจพงษ์ ก็ตรงนี้

เมื่อไม่แฮปปี้ เกิดจากข้อขัดข้องหมองใจอะไรก็ตาม ก็ไม่ทนทู่ซี้ อยู่รับราชการ แบบไม่เต็มใจ กินเงินเดือนภาษีประชาชนไปเดือนๆ ซึ่งจะทำให้การทำงานออกมาไม่ดี เช้าชามเย็นชามไปจนถึงเกียร์ว่าง ซังกะตาย
การตัดสินใจ โดยที่ไม่ต้องรอให้ใครมาไล่ จึงสมควรได้รับการคารวะ
3 จอกอาจน้อยไปด้วยซ้ำ

สำหรับบุคคลที่เคารพ เหตุผล ความรู้สึกของตัวเอง ไม่หลอกตัวเอง และไม่หลอกใครทั้งนั้น
คนอื่นอาจยกเหตุผลสารพันชี้แจง
ย้ายเพราะเหมาะสมกับเก้าอี้ใหม่ มีภารกิจให้ทำซึ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ย้ายเพราะเหตุนั้นเหตุนี้ แต่ใครล่ะ จะรู้ตื้นลึกหนาบางดีเท่าเจ้าตัว ที่อธิบาย ตอบคำถามด้วยการลาออก
ฉะนั้น 3 จอกอาจน้อยไป

เมื่อต้องยกคารวะทั้งที ต่อทั้งการตัดสินใจเด็ดเดี่ยวครั้งนี้ และการทำหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา
ที่กล้าพูดความจริง อย่างที่ไม่มีใครกล้า
เพราะในขณะที่รัฐบาล-ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ โฆษณาชวนเชื่อ เศรษฐกิจประเทศดี ตัวเลขดัชนีชี้วัดต่างๆ กระเตื้อง ซึ่งสวนทาง-ไม่สะท้อนความจริงที่ชาวบ้านเดือดร้อน เผชิญปัญหาปากท้องแสนสาหัส
แต่ ดร.อู้-สมชัย สัจจพงษ์

กลับออกโรงฉายภาพ ให้ประชาชนได้หูตาสว่าง ด้วยการเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ว่าแท้จริงแล้ว การส่งออกที่ดีขึ้นนั้น มีเพียงบริษัทใหญ่หยิบมือเดียว ประมาณ 10 รายเท่านั้นที่ได้อานิสงส์ แต่ธุรกิจเอสเอ็มอีกลับไม่ได้รับประโยชน์เลย และการค้าส่งค้าปลีกที่ระบุตัวเลขว่า ขยายตัวดี แต่เมื่อเจาะลึกลงไป กลับพบว่ามีเฉพาะจังหวัดใหญ่เท่านั้น จังหวัดเล็กๆ ไม่ดีขึ้น

ทั้งหมดทั้งมวลนี้คือ สาเหตุที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่า ความเป็นอยู่ไม่ดีขึ้น
เป็นภาพขัดกัน ย้อนแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลกรอกหูทุกเมื่อเชื่อวันว่าดี
ปัญหาใหญ่ข้อนี้ เป็นโจทย์ที่รัฐบาลแก้ไม่ตกอยู่ทุกวันนี้

เนื่องจากหลงอยู่ในวังวนของการหลอกตัวเอง เมื่อไม่มีใครพูดความจริง ไม่เห็นเป็นปัญหา ก็ไม่คิดแก้ไข
แต่อย่างน้อย ดร.อู้ก็ทำให้คนหูตาสว่าง ว่าเศรษฐกิจไม่ได้ดีจริง
ที่ว่าไม่ทิ้งใครอยู่ข้างหลัง

แท้จริง คนกล้าชื่อสมชัย สัจจพงษ์ ฉายภาพให้เห็น มีแต่บริษัทยักษ์ใหญ่ยืนอยู่ข้างหน้า
นายแน่มาก

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image