| ที่มา | หน้า 2 มติชนรายวัน |
|---|---|
| เผยแพร่ |
หมายเหตุ – ความเห็นนักวิชาการและนักธุรกิจที่มีต่อกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของรัฐบาล “ประยุทธ์ 6” ทั้งรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ก่อนการเลือกตั้งตามโรดแมป และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ถูกมติ กกต.ชี้ว่า ถือหุ้นเข้าลักษณะต้องห้ามอาจขัดต่อคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี
ไชยันต์ รัชชกูล
นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์
กระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ส่วนตัวผมมองว่าไม่ควรปรับหรือแก้ไข ครม.แล้ว แต่ควรยุบเลยหรือยกเลิกออกไป เพราะมีคุณสมบัติไม่ตรง เหมือนนักศึกษาที่อยากจะเข้ามหาวิทยาลัย แต่ยังไม่จบ ม.6 จบแค่ ม.3 หรือ ม.4 แล้วมาเข้ามหาวิทยาลัย หากเป็นแบบนี้แล้วมาทราบทีหลังก็ต้องให้ออกไป เพราะมีคุณสมบัติไม่ตรงกับที่ต้องการ ถ้าไม่ทำแบบนี้จะมีกฎเกณฑ์ไว้ทำไม อีกอย่างผมมองว่าเป็นคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เองด้วยที่พูดอยู่เสมอว่า เราทุกคนต้องเคารพกฎหมายบ้านเมือง แล้วถ้าคุณทำผิดกฎหมายเอง ทำไมคุณถึงไม่เคารพกฎหมาย
ถ้าจำเป็นต้องปรับจริงๆ ควรเอาคนที่ทำผิดกฎหมายออกก่อนเลย รวมถึงคนที่ไม่มีความสามารถ ไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ คนที่โกงบ้านโกงเมืองด้วย ถ้าพูดว่าจะปราบคนโกงแล้วยึดมั่นจะทำตามที่พูดจริง ก็ต้องปลดรองนายกรัฐมนตรี ปลดรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศออกไปก่อน ตามด้วยบุคคลที่ไม่มีความสามารถในการทำงานนั้นๆ คือ พวกทหารทั้งหลายออกไปตาม การปรับปรุงแก้ไขเช่นนี้อาจจะส่งผลดีให้กับรัฐบาลคือ อย่างน้อยก็ยังสามารถทำตามที่ตัวเองประกาศเอาไว้ได้บ้าง และอาจจะส่งผลดีตรงที่สามารถรักษาความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไม่ให้เลวร้ายลงไปมากกว่านี้
ผมมองว่าด้วยความที่ขยะในบ้านมันเยอะ และถ้ามันเยอะมาก เราก็ต้องทำความสะอาดเอาขยะที่มันสกปรกมากๆ ออกไป แต่ถึงแม้ว่าจะทำความสะอาดแล้วมันก็ยังไม่หายสกปรกอยู่ดี ทางที่ดีถ้าจะทำให้หายสกปรกก็ต้องยกเลิกเอารัฐบาลชุดนี้ออกไปก่อน จัดการเลือกตั้งใหม่ขึ้น เพื่อนำรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นมาบริหารแทน และควรที่จะทำแบบนี้เป็นอย่างยิ่ง
ส่วนข้อเสนอแนะหรือทางออก ผมมองว่าคงเสนออะไรให้ไม่ได้ คงไม่สามารถบอกได้ว่าใครเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมอย่างไร ทำได้แค่เสนอแนะตามหลักการเท่านั้น ส่วนการจะปรับแก้ไขอย่างมากที่สุดคือ ควรจะนำเอารัฐบาลชุดนี้ออกไปเลย ที่เสนออาจจะมากเกินไป แต่ถ้าถามข้อเสนอของผมก็คงต้องตอบแบบนี้ แต่หวังว่าการปรับ ครม.ในครั้งนี้อาจจะส่งผลดีต่อประชาชนบ้าง แต่คงคาดหวังมากไม่ได้ เพราะอย่างที่บอกไปว่า บ้านเราขยะมันเยอะมากมันสกปรก ถ้าสามารถตัดอะไรที่มันรกหูรกตาออกไปได้บ้าง มันก็จะดีขึ้น แต่ถ้าถามว่าจะส่งผลดีต่อตัวประชาชนมั้ยนั้น ผมมองว่ามันคงไม่ได้ส่งผลดีอะไรมากมายนัก
พนัส ทัศนียานนท์
อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์
ผมไม่มีทัศนคติที่ดีกับรัฐบาลชุดนี้ พูดตามตรงจะปรับหรือไม่ปรับนั้น ผมมองว่ายังไงก็ไม่ดีขึ้น เพราะตั้งแต่ต้นก็ไม่ดีอยู่แล้ว การปรับ ครม.ก็แค่สร้างภาพ สร้างฐานเสียงให้คนนิยมชมชอบ ส่วนตัวมองไม่ออกว่าเขาจะปรับยังไง แต่ถ้าจะปรับ คิดว่าคงปรับให้เข้ากับสถานการณ์ที่จะมีการเลือกตั้ง ให้ดูเหมือนว่าเป็นรัฐบาลพลเรือนมากขึ้น ต้องเอาทหารออกไป เอาพลเรือนเข้ามามากขึ้นคิดว่าคงทำไม่ได้ เพราะตอนนี้ถูกปิดกั้นไปหมด คนของเขาหรือบรรดาผู้ร่วมก่อการของรัฐบาล คสช.ชุดนี้ ในตอนนี้พวกเขามีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีลอยๆ กันทั้งนั้น แล้วถ้าจะปรับ จะปรับด้วยเหตุอะไร เช่นถ้าจะบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี แต่ GDP มันก็ขึ้นมาตั้ง 4.8 เปอร์เซ็นต์ เป็นผลงานของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ มันก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องปรับเขาออก มองไม่ออกว่าจะปรับไปเพื่ออะไร เว้นแต่แค่สร้างภาพลักษณ์
ถ้าจะมีการปรับโดยนำพลเรือนเข้ามาแทนบ้างหรือไม่ ก็คงมี ฝ่ายที่ต้องใช้พลเรือนจริงๆ แต่ถ้าเข้ามาคงมีผลงานอะไรไม่ได้มากเพราะเข้ามาก็เป็นได้แค่ลูกน้อง อย่างทีมเศรษฐกิจ ก็มีนายสมคิด ด้านคมนาคม ก็มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็นพลเรือนกันอยู่แล้ว ที่น่าจะเปลี่ยนก็มีนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น ฝืนไม่ได้อยู่แล้วจากสถานการณ์นี้ มีความจำเป็นที่ต้องปรับ แต่ผมไม่แน่ใจเพราะจะปรับหรือไม่ปรับมันเป็นเรื่องของเขา
ผมเสนอทางออกคือให้ออกไปให้หมดเลยดีกว่า ให้รีบเลือกตั้งและพวกทหารอย่ามายุ่งอีก นี่ก็เลื่อนมาตั้ง 4 ปี ตอนแรกก็บอกอยู่ไม่นาน ดังนั้นถึงเวลาที่ต้องคืนประชาธิปไตยที่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงได้แล้ว
ว่าที่ ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์
รองประธานกรรมการ หอการค้าไทย
และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคกลาง
หอการค้าไทย
ในช่วงเวลาที่เหลือก่อนจะจัดการเลือกตั้ง ควรจะปรับ ครม.หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของรัฐบาล หากมีการปรับ ครม. สำหรับกระทรวงเศรษฐกิจไม่น่าจะมีปัญหา แต่ประเมินว่ารัฐบาลอาจปรับบางส่วนที่มีปัญหา เช่น กระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงที่มีปัญหาเรื่องการทุจริตภายใน ให้การทำงานคล่องตัวขึ้น เชื่อว่าจะไม่มีผลกับระยะเวลาการทำงาน
การปรับ ครม.ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของรัฐบาล อาจจะมีผลในทางจิตวิทยาก่อนการเลือกตั้ง เชื่อว่ารัฐบาลไม่น่าจะปรับรัฐมนตรีเศรษฐกิจ แต่น่าจะปรับในส่วนที่มีปัญหาเรื่องการทุจริต หรือข้อติดขัดในทางกฎหมาย อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะมีการปรับ ครม.ครั้งใหม่หรือไม่ แต่สิ่งสำคัญที่รัฐบาลต้องขับเคลื่อนคือต้องกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้าและกระจายรายได้ลงไปให้ได้ เนื่องจากขณะนี้คนยังรู้สึกว่าเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามมองว่ารัฐบาลพยายามทำเรื่องนี้มาตลอด ก็เข้าใจ หากสามารถกระจายรายได้เพิ่มการบริโภคภายในประเทศได้ เศรษฐกิจจะขยายตัวดีขึ้นตามลำดับ ปีนี้ทางหอการค้าประเมินว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) จะไม่ต่ำกว่า 4.5%
ธนวรรธน์ พลวิชัย
ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
การปรับ ครม.ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ หาก ครม.ใหม่ภายใต้การสานต่อเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นโยบายไทยแลนด์ 4.0 และขับเคลื่อนตามแผนโรดแมปที่กำหนดไว้ทั้งด้านเศรษฐกิจ การลงทุน ผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษ (อีอีซี) และการเมือง แม้จะมีการปรับรัฐมนตรีเป็นบุคคลที่เป็นที่ยอมรับ รัฐมนตรีที่มีความเข้าใจงานและสานต่อก็จะไม่มีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นหรือส่งผลต่อเศรษฐกิจเชิงลบ ส่วนตัวเชื่อว่าหากมีการปรับ ครม. จะเลือกคนที่ทำงานได้เลย มีแนวคิดและการทำงานที่สอดคล้องกับนโยบายที่รัฐบาลทำไว้ เชื่อว่าไม่กระทบต่อเศรษฐกิจ ตอนนี้เอกชนก็ติดตามว่าจะเป็นอย่างไร เชื่อว่าเป็นการปรับเปลี่ยนก่อนเข้าโหมดการเลือกตั้ง การปรับจึงไม่น่าจะมีผลจิตวิทยาอะไรมากนัก เท่ากับสถานการณ์ในต่างประเทศที่กระทบต่อเศรษฐกิจไทยมากกว่า โดยเฉพาะทิศทางราคาน้ำมัน ค่าบาท และสงครามการค้าโลก โดยเฉพาะนโยบายสหรัฐต่อการกีดกันการค้าโลกที่ยังไม่ชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไรแน่ และยังไม่เห็นความชัดเจนว่าแต่ละประเทศจะตอบโต้สหรัฐอย่างไร เป็นเรื่องกระทบต่อความเชื่อมั่นเอกชน การค้า และการลงทุนมากกว่า การเมืองในประเทศ
กัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์
ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.)
เชื่อว่าการปรับ ครม.ไม่สามารถทำได้ในทันที จำเป็นจะต้องอาศัยระยะเวลาในการพิจารณาสักระยะหนึ่ง จากการฟังสัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการปรับ ครม.นี้เป็นเพียงข่าวลือเท่านั้น ในกระแสข่าวที่ระบุว่า มีรายชื่อของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่จะมีการปรับเปลี่ยนด้วยนั้น ก็คิดว่าที่ผ่านมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นผู้ที่ทำงานดีและมีผลงานดีมาโดยตลอด อีกทั้งมีบทบาททำให้เศรษฐกิจภาพรวมดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงคิดว่าอาจจะไม่มีการปรับ ครม.ดังกล่าว
สุพันธุ์ มงคลสุธี
ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
รัฐบาลก็มีการกำหนดวันเลือกตั้งไว้ชัดเจนแล้ว ส่วนตัวคิดว่าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้ไม่น่าจะช่วยให้ ครม.ใหม่เข้ามาสานงานได้ทันและต่อเนื่อง เพราะเหลือระยะเวลาทำงานเพียงสั้นๆ ก็จะมีการเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่เข้ามาทำงานแล้ว จึงมองว่า ครม.ชุดปัจจุบันยังน่าจะเดินหน้าทำงานต่อไปได้ดี อย่างไรก็ตามนี้มองว่าการเมืองไทยถือเป็นปัจจัยเสี่ยงทางเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะควบคุมให้การเมืองมีเสถียรภาพได้
กลินท์ สารสิน
ประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
กรณีกระแสปรับคณะรัฐมนนตรี (ครม.) ขณะนี้เศรษฐกิจไทยขับเคลื่อนได้เพราะผู้ประกอบการมีการผลิตและการลงทุนในประเทศเป็นปัจจัยหลัก ขณะที่รัฐบาลเป็นเพียงคนคุมกติกา ถ้าเปลี่ยนคนคุม แต่กติกาไม่เปลี่ยนก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
