‘อันวาร์ สาและ’ อัพเดตสถานะ หลังร้าวลึก ปชป. เตรียม 2 ทางออก หากถูกริบตั๋วชิง ส.ส.ปัตตานี
ชื่อของ นายอันวาร์ สาและ กลายเป็น ส.ส.เนื้อหอม มีหลายพรรครุมจีบทันที
เมื่อสถานการณ์ระหว่าง “เขา” ในฐานะ ส.ส.ปัตตานี 4 สมัย ประธานกรรมาธิการการการค้าพาณิชย์ และทรัพย์สินทางปัญญา กับต้นสังกัด “พรรคประชาธิปัตย์” ทำท่าไม่สู้ดี
จากกรณีที่เขาใช้ “เอกสิทธิ” ในฐานะ ส.ส. โหวตสวนมติของพรรคประชาธิปัตย์หลายครั้งตามจุดยืนของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมไปถึงการแสดงทรรศนะหลายครั้ง วิจารณ์รัฐบาลอย่างตรงไปตรงมา สวนทางกับจุดยืนของพรรค
ที่สำคัญ อันวาร์ ยังเป็นผู้ที่ออกมาเรียกร้องให้ประชาธิปัตย์ปฏิรูปตัวเอง จนมีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่า พรรคจะคาดโทษไม่ส่งลง ส.ส.ในสมัยหน้า
กระทั่งล่าสุด มีเหตุการณ์ตอกย้ำข่าวลือดังกล่าว เมื่อเขาไม่ได้รับการจัดสรรที่นั่ง ในวงที่่ นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฐ์ หัวหน้าพรรค ยกทีมรองหัวหน้าพรรคฯ ลงมาปัตตานี เพื่อแก้ปัญหาชาวประมงปัตตานี ที่สมาคมประมงปัตตานี
ปมร้าวตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ถูกถ่างให้ห่างกันมากขึ้นนี่เอง ทำให้มีเสียงเชียร์ให้ นายอันวาร์ ย้ายพรรค
แม้เจ้าตัวยังยืนยันว่าจะขอสู้ที่จะอยู่ในบ้านหลังเดิม ที่ปลุกปั้นให้เขาเป็นนักการเมือง แต่จนถึงขณะนี้สถานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตเดิมของเขากับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังคงไม่มีความแน่นอนต่อไป
“ทีมข่าวภูมิภาค” อัพเดตกับ ส.ส.อันวาร์ ถึงสถานภาพล่าสุดกับ พรรคประชาธิปัตย์
นายอันวาร์ ยอมรับว่า ที่ผ่านมามีพี่น้องหลายคนถามกันมากว่า ระหว่างนี้จะอยู่กับพรรคเดิม หรือจะย้ายพรรคใหม่ เมื่อเห็นข่าวที่ผ่านมา ที่หัวหน้าพรรคและรองหัวหน้าพรรคได้ทำกับผม จนเกิดความรู้สึกบางอย่าง และมีข่าวว่าจะไม่ส่งลงเลือกตั้งครั้งหน้า
“ขอยืนยันกับพี่น้องที่สนับสนุนทุกคนว่า สถานภาพขณะนี้ของยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์
แต่ถ้าพรรคไม่ส่งผมลงจริง คงต้องหาคำมาชี้แจง ที่มีเหตุผลพอว่า ทำไมถึงไม่ส่งผม เพราะที่ผ่านมาได้ทำประโยชน์ และได้ทุ่มเททำหน้าที่ให้กับพื้นที่ตลอดมา สามารถพูดได้ว่า เป็นคนเดียวใน 3 จังหวัดที่ได้รับเลือก ส.ส.สมัยที่ผ่านมา และสามารถกู้ชื่อของพรรคประชาธิปัตย์กลับมาได้ และตอบโจทย์คนในพื้นที่”
แต่ถ้าถึงวันที่พรรคไม่ส่งลงจริงๆ อันวาร์ เผยว่า มี 2 แนวทาง
แนวทางแรก อาจจะหยุดทำหน้าที่ผู้แทนปวงชน หันไปทำธุรกิจอย่างอื่น และทางที่สอง คือต้องไปถามประชาชนว่าต้องการให้ไปอยู่กับใคร พรรคไหน และผมพร้อมยืนหยัด และทำตามที่พี่น้องประชาชนที่เลือกมาเป็นผู้กำหนด เพื่อเลือกเดินไปตามทางเดิน
ระหว่างรอวันนั้นมาถึง อันวาร์ ยังคงเดินหน้าทำหน้าที่ในฐานตัวแทนคนปัตตานีต่อไป
เมื่อถามถึงพื้นที่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันวาร์ มองว่า ในพื้นที่ขณะนี้มีวิกฤตโควิด-19 อย่างหนักปัญหาเรื่องปากท้อง และเรื่องเศรษฐกิจ เป็นสิ่งที่ต้องได้รีบการแก้ไข
อันวาร์บอกว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการ และเริ่มจัดการอบรมสร้างอาชีพแล้วคือ โครงการ YBLS โครงการสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้น้องๆ ทั้งหมด 30 คน ซึ่งสามารถได้ความรู้ประสบการณ์ใหม่ จากการอบรมแบบเข้มข้นจากผู้ประกอบการชั้นนำ บริษัทใหญ่ของเมืองไทย ได้ทำทุกอย่าง ลงมือจริง เป็นหน่วยย่อย unit เล็กๆ ของตนเอง ในระยะ 6 เดือนไปเรียนรู้นั้นเป็นการสร้างงาน และมีรายได้ ลงในพื้นที่ หลังจากนั้นถ้าไม่มีเงินทุนหรือยังไม่พร้อม ผมยังหาทางอยู่ว่าจะช่วยเหลือด้านการลงทุนอย่างไร และโครงการนี้แน่นอนว่า จะต้องดำเนินต่อเป็นรุ่นที่ 2 ที่ 3 ต่อไป
อีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มคนแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในมาเลเซียที่ต้องกลับมาหลังจากปัญหาโควิด กระจัดกระจายเป็นจำนวนมาก และไม่มีงานทำ ซึ่งในกลุ่มนี้มีอยู่เป็นจำนวนเป็นแสนราย คนกลุ่มนี้ก็ควรให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือเรื่องกลุ่มประมงใหญ่ของจังหวัดปัตตานี นราธิวาส เกิดปัญหาจากกฎหมายการออกระเบียบใหม่ของ EUU ซึ่งเกิดผลกระทบอย่างหนัก จะเห็นว่าเรือประมงจอดเรียงรายอยู่เต็มล่องน้ำไปหมด ในกลุ่มนี้ยังมีอาชีพที่เกิดผลกระทบอีกหลายอาชีพ ตั้งแต่แม่ค้า คนทำประมง โรงงานปลากระป๋องที่มีอยู่หลายโรงงาน ต้องปิดตัวลง ในนี้มีคนงานเป็นพันๆ คน ส่งผลต่ออาชีพที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ด้วย ต่อจากนี้ยังต้องรีบประสานทางรัฐกระทรวงพาณิชย์ และส่วนที่เกี่ยวข้องรีบดำเนินการแก้ไขโดยเร่งด่วน
ส่วนเรื่องปัญหาภาคขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ที่ล่าช้าอยู่ เป็นปัญหาผลกระทบกับสินค้าการกระจายสินค้าต่างๆ นั้น อันวาร์ มองว่า แม้จะเพิ่งผ่านการผลิตผลสินค้า ผลไม้ที่เพิ่งหมดไป ไม่ว่า จะเป็นทุเรียน มังคุด เงาะ ลองกอง แต่ที่ผ่านมาก็ได้เห็นปัญหาหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาการขนส่ง
ในฐานะประธานกรรมมาธิการการค้าพาณิชย์และทรัพยสิน ได้แจ้งไปทางรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ว่า ปีนี้รัฐยังไม่ได้ลงไปช่วยเหลือชาวเกษตรกรเลย ในวิกกฤตโควิด ไม่มีพ่อค้า ผู้ประกอบการลงมารับซื้อผลผลิตเลย
“ที่ผ่านๆ มารัฐเคยช่วยเหลือขนส่งทางเครื่องบิน หรือทางรถไฟและอื่นๆ มาแล้ว โดยให้ผู้ประกอบการและเกษตรกรได้ซื้อขายกัน ในปริมาณที่รัฐกำหนดได้ จากการช่วยส่งเสริมในด้านการขนส่ง ไม่ให้มีต้นทุนแบ่งเบาภาระไป”
นายอันวาร์แนะว่า การใช้รถไฟถือว่า มีต้นทุนต่ำ สามารถช่วยเหลือได้ แต่ก็ยังล่าช้า ไม่ได้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรมที่ตามคุยไว้เลย ซึ่งผู้ที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้คือทาง ศอ.บต.และกระทรวงคมนาคม
จึงขอเรียกร้องว่าควรผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจังและเตรียมการล่วงหน้า ไม่ว่าจะทางรถไฟ ด้านเครื่องบิน หรือทางเรือ รัฐควรช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ในภาวะวิกกฤตอย่างนี้ โดยเฉพาะในช่วงเดือน 2 เดือนนี้ควรหาทางช่วยเหลือชาวเกษตรกรให้เห็นความชัดเจนโดยเร็วที่สุดครับ
ให้พี่น้องเกษตรกรได้มองเห็นทางว่า ตัวเขาเองจะเตรียมตัวอย่างไร ได้ทันในอนาคตปีต่อไป
