เจาะกระแสการเมือง กับ ‘ทรงศักดิ์ ทองศรี’

หมายเหตุ : นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ให้สัมภาษณ์กับ ‘มติชน’ ถึงความชัดเจนทางการเมืองของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบ และสถานการณ์ต่างๆของการเมือง


มองอย่างไรเมื่อพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าจะมีความชัดเจนเรื่องอนาคตทางการเมืองในเดือนมิถุนายน

ยังไม่มั่นใจว่าหลังเดือนมิถุนายน พล.อ.ประยุทธ์จะลงเล่นการเมืองตามระบอบหรือไม่ ซึ่งหาก พล.อ.ประยุทธ์ลงเล่นการเมืองในระบอบประชาธิปไตยโดยผ่านพรรคการเมือง ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน จะเป็นความสง่างามและความชอบธรรมทางการเมืองมากกว่า ผมได้ยินมาตลอดว่าเดือนมิถุนายน จะเป็นเดือนที่คสช.เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ อาจหมายถึงการให้ประชาชนสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองได้ ให้ประกาศกันให้ชัดเจนว่าใครอยู่พรรคไหน
อย่างไรก็ดี ยังไม่แน่ใจว่าที่ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าให้รอดูเดือนมิถุนายนนั้น คือให้รอดูอะไร ตอนนี้จึงเหมือนเป็นการเดาใจ พล.อ.ประยุทธ์ และ คสช. ว่า เดือนมิถุนายน จะเป็นเดือนที่ทำให้การเมืองไทยเดินหน้าไปจริงหรือไม่ หรือต้องรออีก ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าพรรคการเมืองทุกพรรคหวังให้ คสช. ปลดล็อกทางการเมือง

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ติดต่อกับบุคคลในพรรคพลังชล ให้มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาฯนายกและกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี เป็นการส่งสัญญาณว่าพรรคพลังชล คงร่วมงานทางการเมืองกับรัฐบาลต่อ และรัฐบาลก็ต้องหาวิธีการที่จะทำให้มีเสียงสนับสนุนไม่น้อยกว่า 25 เสียง ซึ่งคิดเป็น 5 เปอร์เซ็นต์ จึงต้องไปช็อปและติดต่อสายการเมืองที่มีโอกาสได้รับการเลือกตั้งร้อยเปอร์เซนต์ก่อน เช่น กลุ่มพลังชล กลุ่มนครปฐม หลังจากนั้นจึงหาทางว่าทำอย่างไรให้ได้ผู้แทนฯไม่น้อยกว่า 25 คน เพราะเป็นตัวเลขที่สามารถเสนอชื่อนายกฯได้ นี่อาจเป็นความชัดเจนในเดือนมิถุนายน

กรณีที่นายวิวรรธนไชย ณ กาฬสินธุ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักไทย (ทรท.) วิเคราะห์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่รับเป็น 1 ใน 3 บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใด แต่จะเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯโดยอาศัยช่องทางนายกฯคนนอก ตามมาตรา 272 ในบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ 2560

ถ้าให้ผมทำนาย ผมเข้าใจว่าท่านคงลงมาเล่นในการเมืองแบบอยู่ในบัญชีรายชื่อพรรค เพื่อความสง่างาม คงไม่ใช่คนนอก เพราะเป็นเรื่องสุ่มเสี่ยง ประวัติศาสตร์ไทยก็เห็นอยู่แล้วว่าคนที่อยู่ในตำแหน่งนี้แล้วอยู่ๆไปเป็นนายกฯคนนอกต่อ ทำให้เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ไม่รู้ว่าวันนี้ใครคือคนที่คิดสูตรการเมือง หรือตัวท่านเองที่คิด ผมคิดว่าการไปดีลการเมืองกับกลุ่มจังหวัดที่มีโอกาสได้รับการเลือกตั้งเป็นเรื่องปกติ เช่น กลุ่มเมืองชลบุรีนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือกลุ่มสะสมทรัพย์ ถ้าตามที่เป็นข่าวก็ร้อยเปอร์เซนต์

Advertisement

แสดงว่ามั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเลือกเป็น 1 ใน 3 ของบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองใช่หรือไม่

ผมเข้าใจอย่างนั้น เพราะการอยู่ในบัญชีรายชื่อที่พรรคเสนอมา แสดงว่าผ่านการเลือกตั้งจากประชาชนแล้ว ประชาชนเห็นชอบบุคคลแล้ว ก่อนจะให้ตัวแทนของประชาชนไปเลือกอีกครั้งหนึ่ง วิธีนี้ดีกว่าถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯคนนอก โดยใช้เสียงสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)ที่ผ่านการแต่งตั้งจากคสช. ยิ่งไม่สามารถตอบโจทย์ความชอบธรรมได้ ในทางกลับกัน ถ้าอยู่ใน 1 ใน 3 บัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองแล้ว ส.ว. 250 เสียงโหวตให้ จะเป็นความสง่างาม

จุดยืนของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในการร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองใด

ให้สบายใจอย่างหนึ่งว่าหากพรรค ได้รับการเลือกตั้งมีเสียงข้างมาก และพรรคการเมืองต่างๆเห็นพ้องกันว่าให้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามนั้น แต่หากผลการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคภูมิใจไทย มีจำนวน ส.ส. ไม่มากพอ มีพรรคที่มีเสียงมากกว่าและเป็นที่ยอมรับของหลายพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ต้องฟังเสียงส่วนใหญ่ วันนี้พรรคของเราได้เพียงคาดหมายว่าจะทำให้ดีที่สุด ทำอย่างให้ประชาชนให้ความไว้วางใจ และส่งผู้สมัครให้ครบ 350 เขต

วันนี้ทิศทางการเมืองไทยเปลี่ยนไปมาก ตัวเลขของคนที่อายุ 18 ปีที่สามารถออกคะแนนเสียงเลือกตั้งได้เป็นจำนวนที่น่าสนใจ การเมืองในวันนี้ไปอยู่ในโลกโซเชียล จะเห็นได้ว่าพรรคที่ประกาศตัวว่าเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่จะได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดี อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่ประชาชนในโซเชียลมีเดียมากขึ้น อย่างไรก็ดี พรรคการเมืองทุกพรรคก็ต้องเดิน 2 ทางคือ ทำงานในพื้นที่ควบคู่กับการทำงานในโซเชียลมีเดีย ซึ่ง พรรค ภท.มีความพยายามอย่างนั้น และยืนยันว่า ถ้าประชาชนให้การสนับสนุนพรรคการเมืองไหนเป็นเสียงข้างมาก พรรค ภท.ก็ต้องยอมรับเสียงของประชาชน

Advertisement

หากพรรคเพื่อไทย (พท.) ได้รับการเลือกตั้งเป็นเสียงข้างมาก ซึ่งเท่ากับการสะท้อนเสียงของประชาชนแล้ว พรรคภูมิใจไทยจะเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่

การได้เสียงข้างมากนั้นมี 2 ขั้นตอน 1.คือเสียงข้างมากที่มาจากประชาชน 2.เสียงข้างมากจากการโหวตของตัวแทนประชาชน เพราะสุดท้าย รัฐธรรมนูญเขียนว่าการได้มาซึ่งนายกฯก็มาจากการโหวตโดยสภา ไม่ได้เขียนว่าให้พรรคการเมืองที่มีเสียงจากการเลือกตั้งมากที่สุดได้เป็นนายกฯ การฟังเสียงข้างมากต้องฟังเป็นขั้นบันได แต่โดยพื้นฐานในเมื่อใช้การเลือกตั้งเป็นตัวชี้วัด ถ้าเสียงของประชาชนเทไปให้พรรคการเมืองใดเกินกว่า 250 เสียงจาก ส.ส.ทั้งหมดในสภา 500 คน ก็ต้องเป็นนายกฯล้านเปอร์เซ็นต์ ผมว่าเป็นความชอบธรรมทางการเมืองที่พรรคการเมืองต่างๆต้องยอมรับ ถ้าเราเป็นพรรคที่มีเสียงน้อยกว่าก็ต้องสนับสนุนพรรคที่เสียงเกินครึ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าเสียงไม่ถึงจำนวนนั้นก็ต้องไปดูในขั้นตอนที่ 2 ว่าพรรคการเมืองใดจะรวบรวมเสียงของ ส.ส.ในการโหวตเลือกนายกฯได้ ซึ่งก็หมายถึงการต้องไปตามเสียงข้างมาก

ความคืบหน้าการยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ของนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกกลุ่ม 16

ตั้งแต่แรก สมาชิกที่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม 16 มาจากหลายพรรคการเมือง กลุ่ม 16 ไม่ได้เป็นกลุ่มทางนิตินัย เพราะไม่มีการจดทะเบียน เพียงแต่เป็นการร่วมมือเพื่อทำประโยชน์ให้ชาติบ้านเมือง ไม่เคยมีข้อจำกัดว่ากลุ่ม 16 ต้องอยู่พรรคการเมืองเดียวกัน ดังนั้น ทุกคนมีอิสระทางการเมือง วันนี้ถ้าแต่ละคนที่เป็นสมาชิกกลุ่ม 16 จะไปร่วมกิจกรรมกับใครหรือพรรคการเมืองใด ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ที่ผ่านมา เมื่อครั้งนายสุชาตินัดรับประทานอาหารที่บ้านริมน้ำ ผมกับนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทยก็ไปร่วม อย่างไรก็ดี ยอมรับว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญเปิดอิสระให้คนที่เข้าสู่เส้นทางการเมือง ไม่ได้มีข้อจำกัดว่าคนที่สมัครเป็นสมาชิกพรรคแล้วต้องอยู่พรรคนั้นจนพรรคยุบ เพราะตามกฎหมายพรรคการเมือง แม้เป็นสมาชิกตลอดชีพก็ลาออกได้ ไม่มีอะไรเป็นหลัก ทุกอย่างอยู่ที่ใจ

ในวันที่ 1 เมษายนที่พรรคภูมิใจไทยมีการทำบุญก็ยังไม่เห็นข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างนั้น ตระกูลตันเจริญที่อยู่แปดริ้ว ก็เห็นมายืนยันความเป็นสมาชิกตลอดชีพ เช่น ท่านพิเชฐ ตันเจริญ ก็ยังไม่เห็นสัญญาณตรงไหนที่บอกว่าท่านจะไปอยู่ที่อื่น มีแต่ข่าว ในวันเกิดท่านชัย ชิดชอบ ท่านสุชาติก็ให้ความกรุณาไปร่วมงาน ผมได้เจอท่านก็ได้ทักทายกัน โดยหลัก ผมเชื่อว่าท่านจะร่วมงานอยู่กับพรรค เพราะโดยความเป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานกับพรรคมานาน มีความผูกพัน แต่ก็ต้องพูดตรงๆว่า คนที่อยู่เส้นทางการเมืองย่อมเข้าใจว่าเขาต้องหาช่องทางที่อยู่แล้วสามารถทำงานเพื่อบ้านเมืองและประชาชน รวมถึงเป็นพรรคการเมืองที่เป็นความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะท่านสุชาติที่อยู่ในเส้นทางการเมืองมานานแล้ว ผมเชื่อว่าท่านมองการเมืองออก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image