ยิ่งชีพ เสียงสั่นเครือกลางเวที ล้อมวงส.ว.ชุดใหม่ ชี้ผู้สมัครสุดเสียสละ คาใจกติกา ‘แปลก เพี้ยน งง’

ยิ่งชีพ เสียงสั่นกลางเสวนา ขอบคุณว่าที่ผู้สมัคร ส.ว. สุดเสียสละ คาใจ กติกา ‘แปลก เพี้ยน งง’

เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ห้องประชุมชั้น 1 อาคารข่าวสด บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) จัดงานแถลงเปิดตัวแคมเปญ “มติชน : ส.ว.ชุดใหม่ Thailand-Select” ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของสื่อในเครือ ได้แก่ มติชน, มติชนทีวี, มติชนสุดสัปดาห์, ข่าวสด, ศูนย์ข้อมูลมติชน หรือ MIC ร่วมกับกองบรรณาธิการสื่อออนไลน์ Way Magazine และพันธมิตรนักวิชาการชั้นนำจากภาคปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, คณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ และคณะรัฐศาสตร์ ม.เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีทีมงานสื่อ “Khaosod English” ร่วมแปลข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อกระจายสู่สากล

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ เวลา 13.00 น. แขกผู้มีเกียรติจากหลากหลายวงวงการ หลั่งไหลเดินทางมาลงทะเบียนแถลงข่าวแคมเปญ “มติชน : ส.ว.ชุดใหม่ Thailand-Select” อย่างไม่ขาดสาย

อาทิ กลุ่มคอมเมนต์เตเตอร์การเมือง นายอธึกกิต แสวงสุข (ใบตองแห้ง), นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์, นายยิ่งชีพ อัชฌานนท ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw), นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต., นายอธิคม คุณาวุฒิ ผู้ก่อตั้ง เวย์ แม็กกาซีน ในฐานะพาร์ทเนอร์สื่อร่วมแคมเปญ สว.ชุดใหม่ Thailand-Select กับมติชน

Advertisement

บรรยากาศเมื่อเวลา 13.50 – 15.40 น. มีวงเสวนาแลกเปลี่ยนทัศนะภายใต้หัวข้อ : ประวัติศาสตร์การเมืองไทย ‘200 สว.ชุดใหม่’ เลือกกันเอง !? โดยแขกผู้มีเกียรติ ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น ดำเนินรายการโดย นายเอกภัทร์ เชิดธรรมธร และ นายกุลพัทธ์ เพิ่มพูล

ในตอนหนึ่ง นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้อำนวยการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) กล่าวว่า ในคราวสมัยตอนตนเป็นเด็กๆ สมัยวัยรุ่น ในการเลือก ส.ว. ตั้งแต่สมัยแรกของประเทศไทย เราเห็นป้ายจำนวนมาก เป็น 100 ป้าย เป็น 1,000 ป้าย ตามถนนต่างๆ ซึ่งครั้งนี้น่าจะไม่เกิดขึ้น

ตอนที่เราเลือก ส.ส.ทุกครั้ง จะมีทุกเกือบทุกรายการ จะนำผู้สมัครมาร่วมดีเบตบนเวที ไปพูดถึงอนาคต ว่าคนเขาอยากสมัคร เขาเห็นอะไร และใครที่เห็นอนาคตของเขา จะได้ไปเลือกถูก

Advertisement

“ในปี พ.ศ. 2566 การเลือกตั้งสำคัญ ประชาชนเป็นแสนคนออกไปที่คูหาเลือกตั้ง ไปจับตาไปนับคะแนน ว่าเจ้าหน้าทำถูกต้องหรือไม่ หากผิดก็มีการทักท้วง เลือก ส.ว. ครั้งนี้ก็คงน่าจะไม่มีแล้ว

ไม่ว่าความสำคัญของ ส.ว. จะมีมากขนาดไหน ดีไม่ดี ใครครั้งนี้อาจจะสำคัญมากกว่า ส.ส. ด้วยซ้ำ แต่ปัจจุบันนี้บรรยายกาศการมีส่วนร่วมแทบไม่มีเลย พวกเขาไม่รู้เป็นใครบ้าง ผมคิดว่า การเลือก ส.ว. คือการให้ผู้เชี่ยวชาญ ไม่กี่คนที่ไม่รู้ว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ ได้มาร่วมสมัครด้วย”นายยิ่งชีพ กล่าว

นายยิ่งชีพ กล่าวต่อว่า ซึ่งรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนแบบเช่นนี้ และไม่มีที่ไหนเขียนแบบนี้ รัฐธรรมนูญเขียนชัดเจนว่า ส.ว. จะเป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย แต่ตนก็ไม่แน่นใจว่า มีใครที่พยายามทำตัวใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญหรือไม่ ที่มีการออกกฎระเบียบ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ให้ ส.ว. เลือกกันในหมู่เล็กๆ และรู้กันไม่กี่คน ถ้าศาลปกครองไม่ช่วยเรา ก็จะเป็นกระบวนการของกลุ่มเล็กๆ

นายยิ่งชีพ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาเราเห็น กกต. ทำงานมาโดยตลอด เรารู้ว่า งานนี้ไม่ง่ายสำหรับ กกต. เพราะระบบการซับซ้อนนั้นยุ่งยาก ไอลอว์พยายามช่วยงานในการจัดทำเว็ปไซต์ขึ้นมา เพื่อให้คนมีโอกาสได้ประกาศตัว สื่อสาร ทำการบ้านอย่างเท่าเทียมกัน ในสิ่งที่เราทำ ตนมองว่าไม่ได้ผิดอะไร ไม่ได้ผิดต่อกฎหมาย ไม่ได้ผิดต่อศีลธรรม ไม่ได้ผิดต่อความเชื่อ

ในวันนี้ 30 เมษายน ในช่วงเช้า ตนเห็นหลายท่านไปยืนฟ้องต่อศาล และตนเชื่อว่ามันจะกลับมาได้ ถ้ามันกลับมาไม่ได้ ยิ่งเป็นกระบวนการของกลุ่มเล็กๆ ที่นั่งคุยกันเองไม่กี่คน

“เขาพยายามออกแบบระบบออกมา เพื่อเป็นระบบแบบปิดๆ ในวันเลือก ก็เลือกกันแบบปิดๆ ในวันนั้นก็คงยึดเครื่องมือสื่อสาร นั่งแถวตอนลึก ห้ามสื่อสารกัน

ระบบนี้เอื้อให้คนไม่กี่คน คนที่มีอำนาจในการแต่งตั้ง เพื่อให้ความสามารถในการเรียกคนไปแอบประชุมในที่ลับ โดยเฉพาะพี่ๆ ที่ได้มีการประกาศตัวมาแล้ว ก็มีผู้ติดต่อ มีการติดต่อให้ไปทานข้าว ให้ประชุมกัน ให้ไปนั่งกลุ่มไลน์ และหน้าที่ของ กกต. ควรไปตรวจสอบสิ่งเหล่านั้น มากกว่าการที่ห้ามให้พูดต่อที่สาธารณะ อยากให้ทุกคนมีพื้นที่อย่างเท่าเทียมกัน ” นายยิ่งชีพ กล่าว

นายยิ่งชีพ กล่าวต่อว่า วันนี้ดีใจมากที่ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ลงสนามนี้ ด้วยการเห็นความสำคัญ และเป็นสื่อที่ยืนหยัดขึ้นมา ในวันที่เขาอยากให้เราเงียบ ซึ่งเรามีเวลาที่ให้เขาพูดอีกแค่ 11 วัน เท่านั้นเอง เมื่อพระราชกฤษฎีกาบังคับใช้ ทุกอย่างก็จะเงียบลง

“นอกจากสื่อมติชน เราอยากเห็นสื่อมวลชน ทุกท่านทุกสำนัก ร่วมถึงประชาชนที่ลงสมัคร สว. ในครั้งนี้ ที่ช่วยกันกระจายข่าว และส่งเสียงไปให้ไกลที่สุด ก่อนวันที่เราจะรู้สึก เสียใจ เสียดายทีหลังว่า ทำไมเราไม่สนใจเรื่องนี้ก่อน เราอยากเห็นทุกเสียงพูดเรื่องนี้อย่างเต็มที่” นายยิ่งชีพ กล่าว

นายยิ่งชีพ กล่าวต่อว่า เราทราบว่ากติกาครั้งนี้แปลกๆ เพี้ยนๆ งงๆ เรารู้ว่า สว. สำคัญกับประเทศชาติอย่างยิ่ง ทั้งการเดินหน้าสู่รัฐธรรมนูญประชาชน การเลือกตำแหน่งในองค์กร ที่ต้องตรวจสอบอำนาจรัฐ ทั้งการอยู่กฎหมายต่างๆ ดีไม่ดี อาจจะสำคัญ กว่า ส.ส. อีกหลายๆ แง่มุม แต่เรารู้ว่าเขาไม่ได้อยากให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากเท่าไหร่ แต่เลือกไม่ได้ อีกไม่กี่วันก็จะเกิดขึ้น

หลายปีที่ผ่านมา เมื่อพูดถึงการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย เราพูดถึงความหวังของคนรุ่นใหม่ น้องนิสิต นักศึกษา แต่รอบนี้ กติกาชัดเจน ว่าน้องๆ ไม่ได้มีส่วนร่วมมากนัก นอกจากช่วยกันพูด การเลือกครั้งนี้เป็นอำนาจของคนที่สมัครเป็นพี่ๆ ทุกท่าน ที่มา ณ ห้องประชุมแหน่งนี้ ซึ่งอายุ 40 ปีขึ้นไป

“ดังนั้นจึงพูดในนามคนที่อายุไม่ถึง คงมีคนหลายสิบล้านคน อยากเข้าร่วมกระบวนการนี้ แต่ไปไม่ได้ ก็ขอขอบคุณทุกท่าน ที่กำลังทำงานแทนประชาชน ขอบคุณครับ “นายยิ่งชีพกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image