ผู้เขียน | สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน |
---|
ระหว่างนี้ในทุกพื้นที่ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะที่มีถ้ำขนาดใหญ่
ล้วนได้รับคำสั่งจากกรมอุทยานแห่งชาติ ไปจนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ให้สั่งปิดสั่งห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปภายในอย่างเข้มงวดจริงจัง เพิ่มการติดป้ายเตือนป้ายห้ามให้เห็น
เด่นชัด ไปจนถึงสั่งจัดเจ้าหน้าที่ตรวจตราอย่าให้ใครหลงเข้าไปเที่ยวอย่างเด็ดขาด
ตื่นตัวกันยกใหญ่ หลังเหตุการณ์ 13 ชีวิตที่ถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อไม่ให้ซ้ำรอยอีก
คิดดูแล้วกัน แม้จะมีข่าวดี หลังจากทีมนักดำน้ำไปพบเด็กและโค้ชทั้งหมด ในสภาพปลอดภัย แต่ก็ยังมีงานใหญ่ต่อไป คือขั้นตอนการนำทั้ง 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำ ภายใต้เงื่อนไขเวลาถ้าช้าจนเข้าสู่ห้วงที่ฝนตกหนักอีกรอบ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ จะมีสภาพน้ำท่วมสูงอย่างน่ากลัวภายในถ้ำอีก
เหตุการณ์ที่ถ้ำหลวงจึงเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของสังคมไทย โดยเฉพาะการจัดการของกรมอุทยานแห่งชาติ
การกำหนดช่วงเข้าสู่ฤดูมรสุม เพื่อควบคุมเข้มงวด ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวในพื้นที่ที่อันตรายจากฟ้าฝนและน้ำป่าน้ำท่วม นี่แหละประเด็นสำคัญ
เฉพาะกรณีที่ถ้ำหลวง ก็มีกรณีเรื่องป้ายห้ามที่ปักอยู่หน้าถ้ำ ว่าเห็นเด่นชัดขนาดนั้น ทำไมคณะนักบอลหมูป่าจึงไม่สนใจคำเตือน
ครั้นดูรายละเอียดข้อความเขียนเอาไว้ทั้งภาษาไทยและอังกฤษว่า
อันตราย!! ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต เนื่องจากเป็นฤดูน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งจะมีน้ำออกจากถ้ำปริมาณมาก ในระหว่างเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน
อย่างนี้แล้วจะไปโทษคณะหมูป่าได้อย่างไร ในเมื่อวันที่เกิดเหตุนั้นคือ 23 มิถุนายน
แล้วเรื่องราวก็เกิดจากน้ำที่จู่ๆ ท่วมสูงขึ้นมาอย่างพรวดพราดนั่นแหละ ทำให้ทั้งหมดต้องหนีเตลิดลึกเข้าไป
น้ำป่าน้ำที่ทะลักในถ้ำตรงตามป้ายเตือน แต่วันเวลาเกิดขึ้น มาก่อนป้ายเตือน
จึงเป็นเรื่องที่ต้องนำมาทบทวนกัน
ภายใต้สภาพธรรมชาติอันแปรปรวนที่รู้กันทั่วว่า โลกเราเปลี่ยนแปลงไปมาก ฤดูกาลคลาดเคลื่อนไปหมดแล้ว
เฉพาะปีนี้ที่เห็นๆ ก็คือ เดือนเมษายนที่เป็นเดือนร้อนมากสุด ในปีนี้ฝนกระหน่ำจนน้ำท่วม กทม.และหลายจังหวัด
ฝนมาเร็วตั้งแต่เมษายนแล้ว
ดังนั้นการขึ้นป้ายเตือนสำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องระมัดระวังหน้ามรสุม ไม่ว่าจะเป็นถ้ำ เป็นป่าเขา หรือท้องทะเลชายหาดต่างๆ
ต้องไม่ใช่ป้ายรวมเหมือนๆ กันในทุกปี แต่ต้องมากำหนดรายละเอียดตามสภาพความเป็นจริงของแต่ละปี เพื่อให้กำหนดเวลาในการห้ามเข้าสอดคล้องเหมาะสมที่สุด ปลอดภัยต่อชีวิตนักท่องเที่ยวที่สุด
กรมอุทยานแห่งชาติ คงต้องประสานข้อมูลกับกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างละเอียดรอบคอบในทุกๆ ปี
แถมบางพื้นที่บางภาค ก็ไม่ตรงกับสภาพอากาศโดยรวมของประเทศอีกต่างหาก
ปีหน้าฟ้าฝนใหม่ คงต้องลงรายละเอียดในการกำหนดวันเริ่มเข้าฤดูน้ำป่าน้ำท่วม
ยิ่งที่ถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ที่โด่งดังในวันนี้ คงจะกลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนให้ไปเที่ยวชมกันเนืองแน่น หลังจากเหตุการณ์นี้ผ่านพ้นไป
ด้วยมีเรื่องราวมีตำนานขึ้นมาแล้ว
ปีหน้าคงไม่ใช้ป้ายเดิมๆ นี้อีก เพราะฝนฟ้าน้ำหลากไม่ได้เกิดในเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไปอีกแล้วกระมัง