| ผู้เขียน | สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน |
|---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : โดดเดี่ยว
การแก้ไขรัฐธรรมนูญแบบรายมาตรา เพื่อมุ่งแก้ปมจริยธรรม เป็นอันจบแล้ว หลังจากพรรคร่วมรัฐบาลมีท่าทีไม่เห็นด้วย ลงเอยพรรคเพื่อไทยแกนนำรัฐบาลก็ประกาศพักเรื่องนี้แล้ว
ขอไปโฟกัสที่การแก้ปัญหาน้ำท่วม การกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประชาชน ขอไปแจกเงินหมื่นก่อนดีกว่า
ขณะที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.กลาโหม แกนนำคนสำคัญของเพื่อไทย บอกว่าเรื่องนี้จบแล้ว พร้อมกับพับแผนนัดหารือหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลในทันที
เท่ากับว่า จะเหลือเพียงพรรคประชาชน ที่เดินหน้ายื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ รายมาตรา เนื้อหาตัดปมจริยธรรม ลดอำนาจองค์กรอิสระ
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่ภาพที่ปรากฏ จะเห็นได้ว่าพรรคประชาชนโดนโดดเดี่ยวอีกครั้ง
จากที่มีมุมมองในแนวเดียวกันว่า การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ต้องใช้กระบวนการมากมาย จนน่าจะไม่ทันสภาสมัยนี้ ดังนั้นต้องแก้แบบรายมาตรา เน้นไปที่ปมปัญหาเร่งด่วนก่อน
ไปๆ มาๆ พรรคร่วมรัฐบาล ปรับท่าที รอไปแก้แบบทั้งฉบับเลยดีกว่า ทิ้งให้พรรคประชาชนยื่นแก้รายมาตราอย่างโดดเดี่ยว
ทำให้นึกถึงบทสัมภาษณ์พิเศษนายภูมิธรรม ซึ่งเปิดกระทรวงกลาโหม ให้สื่อในเครือมติชน-ข่าวสด ได้พูดคุยในทุกภารกิจความรับผิดชอบของ “บิ๊กอ้วน” รองนายกฯความมั่นคงและรัฐมนตรีกลาโหม
มีคำถามถึงความร่วมมือในหมู่พรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งนายภูมิธรรมมั่นใจอย่างมากว่า ร่วมมือกันได้ด้วยดี ความขัดแย้งแตกแยกไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ และเชื่อว่าจะอยู่ไปได้ครบเทอม
ถามต่อไปว่า หลังการเลือกตั้งครั้งหน้า รัฐบาลขั้วนี้ยังจะจับมือกันต่อไปใช่หรือไม่ คำตอบคือ “ตราบใดที่พรรคประชาชนยังยึดถือกรอบนโยบายในอุดมการณ์ของตนไม่เปลี่ยนแปลง ก็จะโดดเดี่ยวไม่มีใครร่วม”
เจ้าของฉายาบิ๊กอ้วน อธิบายย้อนไปถึงการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งในปี 2566 ว่า ตอนแรกเพื่อไทยอันดับ 2 ก็โหวตให้พรรคก้าวไกลซึ่งมีเสียงอันดับ 1 ตลอด ทั้งที่การเลือกตั้งหนก่อนโน้น เพื่อไทยเป็นอันดับ 1 ก็ถูกช่วงชิงไป แต่เมื่อโหวตให้ก้าวไกลมาจนถึงจุดสุดท้าย ไปต่อไม่ได้ จะให้รอถึง 10 เดือนคงไม่ได้ เพราะประเทศต้องเดินหน้า ทำให้เกิดรัฐบาลที่เพื่อไทยเป็นแกนนำ
“ถ้ายังมีจุดยืนที่แตกต่างกัน เป็นแบบนี้ ยังไงก็ร่วมรัฐบาลไม่ได้” เป็นบทสรุปของนายภูมิธรรม
นอกจากเป็นการย้อนภาพการตั้งรัฐบาลการโหวตนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แล้ว
ยังเป็นการมองไปข้างหน้า ถึงการตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งต่อไปอีกด้วย
ถ้าการเมืองไทยไม่สะดุดล้มคว่ำอะไรอีก การเลือกตั้งครั้งต่อไปที่น่าจะมีในปี 2570
หากพรรคประชาชน ไม่ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย ถ้าไม่สามารถตั้งรัฐบาลเพียงพรรคเดียวได้ ก็คงจะโดนโดดเดี่ยวต่อไป ดังนั้น บรรดาแฟนคลับพรรคส้ม มีแต่ต้องช่วยกันเลือกให้กวาด ส.ส.เกินครึ่งสภาในสมัยหน้าให้ได้
ไม่เช่นนั้น เราก็เห็นภาพการจับขั้วตั้งรัฐบาลหนหน้าได้ไม่ยาก
สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน
