สถานีคิดเลขที่ 12 : ระวังบั่นทอนความเชื่อมั่น

สถานีคิดเลขที่ 12 : ระวังบั่นทอนความเชื่อมั่น

ไม่ว่าเหตุอุกอาจกลางเมืองกรุงยิง “นายลิม กิมยา” อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิตบริเวณตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ย่านบางลำภู ช่วงเย็นวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา

จะสามารถจับกุม นายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม อดีตทหารเรือ ผู้ต้องหาตามหมายจับได้แล้ว

และบทสรุปสุดท้ายของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะโยงไปยังกลุ่มไหน และมีมูลเหตุมาจากอะไร เกี่ยวข้องปมการเมืองหรือไม่

สายตาจากภายนอก ที่มองเข้ามาในประเทศไทย ณ ตอนนี้คงหลีกไม่พ้นความกังวลด้าน “ความปลอดภัย” ของเมืองท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของโลก

ADVERTISMENT

เมืองที่ในปี 2567 มียอดนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลุ 35 ล้านคน สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจกว่า 2.6 ล้านล้านบาท

เพราะก่อนหน้านี้ราว 3-4 วัน ยังมีกรณี “ซิงซิง” ดาราจีนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และได้หายตัวไปจากบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก

หลังจากบินมารับงานแคสติ้งตามข้อมูลที่แฟนสาวออกมาโพสต์ กลายเป็นประเด็นลุกลามใหญ่ในโลกโซเชียลของจีน

ส่งผลต่อภาพลักษณ์และกระทบการท่องเที่ยวของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

จึงเป็นที่มา ทำให้ “สรวงศ์ เทียนทอง” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ออกมาระบุว่า ได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และขอให้สถานทูตช่วย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการปล่อยข่าวที่ประเทศจีน ว่ามาประเทศไทยไม่ปลอดภัย

การที่ฝ่ายไทยได้ประสานช่วยเหลือ พาตัว “ซิงซิง” กลับมายังประเทศไทยได้อย่างปลอดภัย แม้จะสร้าง “ความเชื่อมั่น” ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนได้ แต่ก็ในระดับหนึ่งเท่านั้น

เพราะจากการให้ข้อมูลของซิงซิง พบว่าถูกหลอกไปแคสติ้งในประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อเข้ามาไทย และเดินทางไปประเทศเพื่อนบ้าน ถึงทราบว่าถูกหลอกมาทำอย่างอื่น

จึงเท่ากับว่าประเทศไทยถูกใช้ “เป็นทางผ่าน”

รัฐบาลนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ได้ประกาศนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้แนวคิด “สร้างรายได้ สร้างความสุข สร้างความปลอดภัย”

ให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรการดูแลความปลอดภัยและการอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

แน่นอนว่าทั้ง 2 เหตุการณ์ดังกล่าว ที่มีความอ่อนไหว กระทบต่อความเชื่อมั่นทางด้านการท่องเที่ยวได้ง่าย ยิ่งมีการหยิบยกนำไปขยายความต่อ

การออกมาชี้แจง เพื่อสร้างความกระจ่างของรัฐบาล เป็นเพียงแนวทางหนึ่ง ที่จะเรียก “ความเชื่อมั่น” แต่ก็ช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น

เพราะตราบใดหากต้นตอของปัญหาดังกล่าว ยังไม่ได้รับการแก้ไข

คงหลีกไม่พ้นที่จะเกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ซ้ำอีกได้

โดยภาพรวมประเทศไทย ถือว่ายังมีความปลอดภัยสูงต่อนักท่องเที่ยว

รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้ที่จะเร่งเข้ามาสะสาง

ทั้งปัญหามาเฟียต่างชาติ กลุ่มทุนจีนสีเทาที่โยงใยธุรกิจผิดกฎหมาย อาชญากรรม และแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เพื่อไม่ให้ประเทศไทยถูกใช้เป็นฐานหรือเป็นทางผ่าน

ไม่เช่นนั้น อาจนำไปสู่การบั่นทอนความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทย

สุพัด ทีปะลา