ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
การเลือกตั้งนายก อบจ. และสมาชิก อบจ.ครั้งนี้สนุกสนาน ตื่นเต้น และน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ
ผลการเลือกตั้ง 47 จังหวัดปรากฏออกมาให้เห็นหลังการหย่อนบัตรเลือกตั้งวันที่ 1 กุมภาพันธ์แล้ว
พรรคเพื่อไทยสามารถยึดนายก อบจ.ได้ 10 จังหวัด เครือข่ายภูมิใจไทยได้ 9 จังหวัด ชาติไทยพัฒนา 2 จังหวัด ประชาชาติ 2 จังหวัด กล้าธรรม 2 จังหวัด พรรคประชาชนได้ 1 จังหวัด บ้านใหญ่ 21 จังหวัด
เมื่อเหลียวมองไปที่การเลือกตั้งนายก อบจ. ก่อนหน้านี้ 29 จังหวัด พบว่าพรรคเพื่อไทยกับเครือข่ายภูมิใจไทย กวาดนายก อบจ.มาได้มากที่สุด โดยแต่ละพรรคได้เก้าอี้นายก อบจ. ด้วยจำนวนสูสี
สรุปได้ว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.ครั้งนี้ แต่ละกลุ่มแต่ละพรรคสู้กันยิบตา
ดังนั้น ผู้สมัคร ผู้ช่วยหาเสียง รวมถึงกองเชียร์ทั้งพรรคการเมืองและกลุ่มบุคคล จึงระดมสรรพกำลังมาเพื่อเอาใจโหวตเตอร์ ซึ่งก็คือชาวบ้านที่มีสิทธิเลือกตั้ง
หลังจากวันนี้เป็นต้นไป จึงเป็นโอกาสของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในแต่ละจังหวัดที่จะติดตามการทำงานของนายก อบจ. ที่ได้เลือกเข้ามา
ลักษณะคล้ายๆ กับการเลือกตั้งระดับชาติ คือ ต่อไปคนในจังหวัดจะจับจ้องมองผลงานของนายก อบจ.
เมื่อมีนโยบายหาเสียง ต้องดูว่านายก อบจ.ที่ได้รับเลือกเข้าไปนั้น ทำได้ หรือทำไม่ได้
ยิ่งเมื่อการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ได้แบ่งกลุ่มก้อนชัดเจนว่า เป็นผู้สมัครในนามพรรคการเมือง ผู้สมัครเป็นเครือข่ายของพรรคการเมือง ผู้สมัครเป็นตัวแทนของบ้านใหญ่ในจังหวัด
ต่อไปผลงานที่ปรากฏจะแบ่งแยกให้เห็นประสิทธิภาพการพัฒนาท้องถิ่นว่าตัวแทนจากฝ่ายไหนที่สามารถขับเคลื่อนจังหวัดไปข้างหน้าได้มากน้อยกว่ากัน
ปัจจัยเรื่องความสามารถของนายก อบจ. ปัจจัยเรื่องความเอาใจใส่ของพรรคการเมือง รวมถึงปัจจัยความสนิทชิดเชื้อของบ้านใหญ่ในท้องถิ่นกับคนท้องถิ่น
ปัจจัยไหนที่จะทำให้จังหวัดพัฒนาขึ้นทั้งทางด้านการมีส่วนร่วมทางการเมือง การผลักดันเศรษฐกิจจังหวัดให้เติบโต รวมถึงการแก้ไขปัญหาสังคมที่เกิดขึ้นในจังหวัด
การเลือกตั้งนายก อบจ.และเลือกตั้ง สมาชิก อบจ.ครั้งนี้ แม้จะเสร็จสิ้นจบลงไปแล้วเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แต่ผลจากการเลือกตั้งยังต้องติดตามต่อ
เชื่อว่าการเมืองในหลายจังหวัดจะเพิ่มอุณหภูมิมากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่นายก อบจ.เป็นคนของพรรคหนึ่ง แต่สมาชิก อบจ.ของพรรคนั้นมีจำนวนน้อยเกินไป
นี่ยังไม่รวมการเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับเทศบาลที่จะมีขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ทุกประการที่เกิดขึ้น ทำให้การเมืองท้องถิ่นได้รับความสนใจ สิทธิของประชาชนจากเดิมได้รับการเอาใจใส่เฉพาะเลือกตั้ง ส.ส. แต่คราวนี้กลุ่มการเมืองต้องเอาใจใส่การเลือกตั้งบ่อยขึ้น เพราะมีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นทยอยเกิดขึ้นในปีนี้
แต่ละพรรคแต่ละกลุ่มต้องเอาใจใส่ทุกข์สุขของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง
น่าจะต่อเนื่องไปจนถึงปี 2570 เป็นอย่างน้อย เพราะ ณ ปีนั้นจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.อีกครั้ง
จะว่าไปแล้วการเลือกตั้ง อบจ.ครั้งนี้ น่าจะเป็นโอกาสของคนในแต่ละจังหวัด
เมื่อมีผู้อาสาเข้ามาทำงานก็ต้องตามติดผลงานเป็นระยะๆ
อะไรมีส่วนร่วมได้ก็น่าจะเข้าไป อะไรที่ตรวจสอบได้ก็น่าจะกระทำ
นี่เป็นโอกาสพัฒนาจังหวัด อย่าปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดมือไป
นฤตย์ เสกธีระ