ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 : คืนความปกติ
ไม่ว่ากระบวนการเข้าไปสอบสวนวิธีการได้มาซึ่ง ส.ว.ชุดปัจจุบัน จะมีเหตุผลเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรซ่อนเร้นอยู่
แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ความคลางแคลงใจที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม มีต่อวิธีการหรือเกม “ทางการเมือง” ดังกล่าวนั้นสอดคล้องต้องตรงกับความคลางแคลงใจของประชาชนคนทั่วไปส่วนใหญ่ ที่มีสิทธิเลือกตั้ง ส.ส. มีสิทธิเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ไม่มีส่วนร่วมกับกระบวนการ “เลือก” สมาชิกวุฒิสภาหนล่าสุด
สอดคล้องต้องตรงกับความคลางแคลงใจของสาธารณชน ที่พบเห็นแนวโน้มความเป็นกลุ่มก้อน ความเป็น “สีเดียวกัน” ความเป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภาสูง ซึ่งบังเกิดขึ้นอย่างฉับพลันรวดเร็วหลังเสร็จสิ้น “การเลือกตั้ง ส.ว.” โดยไม่แคร์ข้อครหาหรือเสียงติฉินนินทาใดๆ
พูดอย่างสั้นกระชับ การเข้าไปสอบสวนกระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.ของภาครัฐ จึงถือเป็นการลด-ระบายความคลางแคลงใจในสังคม
และเป็นความพยายามจะคืน “ความปกติ” ให้แก่สังคมการเมืองไทย
ไม่ว่าสังคมไทยจะเคยรู้สึกอย่างไรกับข้าราชการตำรวจชื่อ “พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล” หรือ “อดีตผู้กำกับโจ้” และเคส “คลุมถุงดำ” อันอื้อฉาว
อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ติดตามข่าวสารทั่วไป ต่างรู้สึกสงสัยและตั้งคำถามต่อการเสียชีวิตอันเป็นปริศนาของ “อดีตผู้กำกับโจ้” ระหว่างถูกควบคุมตัวอยู่ในพื้นที่เรือนจำ
แทบทุกคนต่างมองเห็นว่า เรื่องที่เกิดขึ้นคล้ายจะมีความ “ผิดปกติ” “ไม่ชอบมาพากล” และอาจรวมถึง “ความอยุติธรรม” แฝงเร้นอยู่
ดังนั้น จึงย่อมเป็นหน้าที่ของผู้รับผิดชอบโดยตรงอย่างกรมราชทัณฑ์ ซึ่งจะต้องออกมาให้ความกระจ่างชัดต่อสาธารณชนและคืน “ความปกติ” ให้แก่กระบวนการยุติธรรมไทย
ฉันใดก็ฉันนั้น การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ไม่ว่าจะพุ่งเป้าไปยังนายกรัฐมนตรี หรือตรวจสอบการทำงานของกระทรวงต่างๆ ตลอดจนองคาพยพสำคัญอื่นๆ ของพรรคร่วมรัฐบาล ก็ถือเป็น “กลไกปกติ” ของการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
แม้ใน “ความปกติ” นั้น อาจจะมีกระบวนการพลิกแพลงหรือกลเกมต่างๆ ปะปนอยู่บ้าง ไม่ว่าจะเป็น “การเปลี่ยนแผน-พลิกโผ” การ “กระทบชิ่ง” ทางการเมือง หรือการมองหาช่องว่าง-ช่องโหว่ต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าประสงค์ของฝ่ายตน
แต่สิ่งที่ผู้มีอำนาจพึงกระทำ ก็คือ การเปิดโอกาสให้การพลิกแพลง-กลเกมการเมืองถูกๆ ผิดๆ มืดๆ สว่างๆ ขาว ดำ เทาทั้งหลาย ได้มีโอกาสเลื่อนไหลปะทะสังสรรค์อยู่ในพื้นที่อันถูกต้อง เหมาะสม ชอบธรรม ของรัฐสภาหรือสภาผู้แทนราษฎร
อธิบายให้ชัด คือ เราควรเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้เล่น “เกมการเมือง” ของพวกตน ใน “พื้นที่ปกติ” ของระบอบประชาธิปไตย
ในทางตรงกันข้าม การสรรค์สร้างวิธีการมหัศจรรย์พันลึกอันจะทำให้ “กระบวนการตรวจสอบที่เป็นปกติ” ถูกระงับยับยั้ง หรือการปกป้อง “บุคคลทางการเมือง” รายใดรายหนึ่ง
อย่างทะนุถนอมเกินเลย กระทั่งนำไปสู่ “การปิดโอกาส” อันควรเกิดขึ้นอย่างเป็นปกติต่างหาก
ที่จะนำไปสู่ “ความผิดปกติใหม่” ในสังคมการเมืองไทย และก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ความขัดแย้ง วิกฤตศรัทธาตามมาอีกมากมาย
ปราปต์ บุนปาน