ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
การเมืองไทยตอนนี้เหมือนอยู่ในสภาวะ ตะลุมบอน ที่ชุลมุนวุ่นวายสับสนปนเปไปหมด
เมื่อผู้มีอำนาจกลุ่มใหญ่ๆ ในคณะรัฐบาลต่างมี “ชนักปักหลัง” พร้อมๆ กัน
ฝั่งเพื่อไทย กรณีแพทยสภามีมติให้ลงโทษแพทย์ที่มีความเกี่ยวข้องกับเคส ชั้น 14 นับเป็นเรื่องใหญ่
ซึ่งอาจเป็นจุดเริ่มต้นของอะไรอีกหลายอย่าง
ยิ่งเมื่อศาลยกคำร้องขอเดินทางไปประเทศกาตาร์ของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเหตุผลหนึ่งของการเดินทางก็คือการมีโอกาสได้พบปะและเจรจาหารือกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา
สถานการณ์ที่พรรคเพื่อไทยเจอยิ่งดู แปลกๆ
กระนั้นก็ดี พลันที่ปรากฏข่าวคณะกรรมการการ เลือกตั้ง (กกต.) แจ้งข้อกล่าวหาคดี ฮั้วเลือกตั้ง
(ผ่านการผลักดันอย่างแข็งขันของกรมสอบสวนคดีพิเศษ-ดีเอสไอ) กับ 55 ส.ว.สีน้ำเงิน ซึ่งมีภาพลักษณ์และความเคลื่อนไหวอันแนบชิดกับทางพรรคภูมิใจไทย
ก็เท่ากับว่า ปลายหอก-ปลายปืน อีกด้านหนึ่ง ได้พุ่งจ่อไปยังฝ่ายภูมิใจไทยเช่นกัน
ในความชุลมุนแบบนี้ ด้านหนึ่ง ยังมีแง่มุมดีๆ แฝงอยู่
กล่าวคือ นี่เป็นโอกาสที่เรื่องเทาๆ ไม่เคลียร์ และขัดฝืนกับมโนธรรมสำนึกของสามัญชนคนธรรมดาผู้ไร้อำนาจ จะได้รับการชำระสะสางเสียที
พูดอีกแบบ นี่เป็นโอกาสเปลี่ยนเรื่องไม่ถูกต้อง ให้กลับกลายเป็นถูกต้อง
เป็นโอกาสดัดพฤติกรรม ซิกแซกซอกแซก ที่อาศัยช่องว่างของกฎหมายและระบบการเมือง ให้กลับมาเข้ารูปเข้ารอยตามทำนองคลองธรรมปกติ
รวมทั้งเป็นโอกาสสำคัญ ที่จะทำให้สังคมไทยกลับมา เชื่อมั่น-เชื่อถือในระบบการเมือง นักการเมือง และกระบวนการตรวจสอบนักการเมือง ตามวิถีทางประชาธิปไตยอีกครั้งหนึ่ง
ทว่า อีกด้านหนึ่ง สภาวะการมี ชนักปักหลัง ของทุกฝ่าย ก็เกิดขึ้นสอดคล้องกับข่าวคราวการไม่ค่อยลงรอยกันระหว่างสองพรรคการเมืองใหญ่ในรัฐบาล ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา
จนสภาพการณ์เป็นเหมือน สองก๊ก/แก๊ง ที่กำลังเผชิญหน้ากันแบบ ซ่อนอาวุธไว้ในงานเลี้ยงสังสรรค์ มากกว่าจะเป็นสองพรรคร่วมรัฐบาลที่พร้อมใจร่วมผลักดันประเทศชาติไปข้างหน้า
สถานการณ์ ตะลุมบอน ล่าสุดที่เกิดขึ้น จึงยิ่งตอกย้ำความไร้เสถียรภาพทางการเมือง และการขาดฉันทามติร่วมกันของกลุ่มการเมืองที่ได้เข้าถึงอำนาจรัฐในฐานะรัฐบาล
ไปๆ มาๆ รัฐบาล เลยกลายเป็นเวทีของการประลองอำนาจ และการจัดวางสมดุลทางอำนาจระหว่างก๊ก/แก๊ง ที่ยังไม่ลงตัว มากกว่าจะเป็นเวทีในการคิดค้นสร้างสรรค์วาระนโยบายสำคัญๆ ในการบริหารกิจการบ้านเมือง
เรื่องราวทั้งหมดยิ่งดูย่ำแย่ไร้ความหวังหนักขึ้น เมื่อความไร้เสถียรภาพอันเกิดจากเกมการเมืองภายในประเทศ ถูกนำไปจัดวางเทียบเคียงกับปัจจัยใหญ่ๆ ภายนอกประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มจะคุกคามชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยมากขึ้นทุกวัน
อาทิ เรื่องนโยบายเศรษฐกิจของประธานาธิบดีทรัมป์ หรือเรื่องการหาแนวทางบริหารจัดการควบคุม ธุรกิจจีนเทา-ศูนย์เหรียญ เป็นต้น
ปราปต์ บุนปาน