| ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
|---|
การเมืองตอนนี้ ต้อง “ลุ้น” กันตลอดเวลา
โดยเฉพาะบ้าน “ชินวัตร” ตั้งแต่ นายทักษิณ-น.ส.ยิ่งลักษณ์-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
ล่าสุด ก็คือคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด กรณีจำนำข้าว
และรอคิวอยู่ข้างหน้า คือกรณี “ชั้น 14” ซึ่งยากจะคาดหมายถึงผลที่จะเกิดขึ้น
แต่ดูปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่น่าสบายใจนัก
และความไม่น่าสบายใจนี้ น่าจะทำให้ น.ส.แพทองธาร ในฐานะ “ลูก” และ “หลาน” ต้อง “ลุ้น” กับบทบาท “ผู้นำประเทศ” ที่ไม่น่าจะราบรื่นด้วย
เพราะดูเหมือนบทบาททางการเมือง ที่เคยเป็น “ฝ่ายรุก” นั้น
ตอนนี้กลายเป็นฝ่าย “รับ” และมีแนวโน้มไปในทาง “ถอย” ด้วย
บ้านชินวัตร ที่สืบเนื่องไปถึงพรรคเพื่อไทย ซึ่งถูกจัดเป็นขั้ว “แดง” จึงต้อง “ลุ้น” กันหนักอย่างที่ว่า
เช่นเดียวกับ “พรรคภูมิใจไทย” ที่ประกาศตนเป็น “สีน้ำเงิน”
ก็อยู่ในภาวะ “ลุ้น” เช่นกัน
ลุ้นหลังจากที่ “คดีฮั้ว ส.ว.” ถลำลึกเข้ามาพาดพิงถึง “พรรค และแกนนำ” โดยตรงมากเป็นลำดับ
และคาดหมายว่าจะทวีการ “ผูกมัด” มากยิ่งขึ้น
จนอาจต้อง “ลุ้น” และ “สู้” เพื่อไม่ให้ คดีฮั้ว ส.ว.บานปลายนำไปสู่ ประเด็นใหญ่ถึงขนาดการ “ยุบพรรค”
ซึ่งเป็นเรื่องร้ายแรงสำหรับขั้วสีน้ำเงิน ที่เป็นพรรคการเมืองใหญ่ลำดับที่สอง อย่างมาก
เมื่อทั้งขั้วแดง ที่ใหญ่เป็นอันดับหนึ่ง และขั้วสีน้ำเงินที่ใหญ่เป็นอันดับสอง ต่างอยู่ในภาวะต้อง “ลุ้น” กับอนาคตของตนเอง
แน่นอนย่อมนำไปสู่การเจรจา ดิ้นรน ต่อรอง ต่อสู้ อย่างเข้มข้น
และอย่างที่รับรู้กัน การเจรจา ดิ้นรน ต่อรอง ต่อสู้ อย่างเข้มข้นดังกล่าวทั้งขั้วแดงและขั้วน้ำเงิน แม้ประกาศเป็น “มิตร” แต่กลับถูกมองว่าแต่ละฝ่ายเหน็บมีดอยู่ข้างหลังที่พร้อมจะจ้วงแทง “เพื่อลุ้นการอยู่รอด” อยู่ตลอดเวลา
นั่นจึงทำให้ “การเมืองไทย” โดยรวม อยู่ในภาวะต้อง“ลุ้น” เช่นกัน
ลุ้นว่าจะถลำลึกไปสู่ “วิกฤต” (อีก) ขนาดไหน
ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดี สำหรับประเทศโดยรวม ที่ตอนนี้ เผชิญวิกฤตต่างๆ มากมาย
จะรอดพ้นวิกฤตไปได้ จำต้องมีความเป็นเอกภาพในชาติ เพื่อร่วมการแก้ไขปัญหา
แต่สิ่งที่เป็นอยู่ในตอนนี้ ก็คือภาวะไร้เสถียรภาพ โดยเฉพาะ ปีกการเมือง ที่นอกจากไม่อาจร่วมมือแก้ไขปัญหาเท่านั้น
สถานการณ์ยังบีบบังคับให้ “จ้วงแทง” กันเองด้วย
ทำให้ ภาคการเมืองโดยรวม อยู่ในภาวะอ่อนแอ
และทำท่าจะเข้าไปสู่ภาวะ “ติดล็อก” หาทางออกไม่ได้
ภาวะเช่นนี้ ทำให้ บางฝ่าย บางพวก เกิด อาการ “อยากลุ้น” ขึ้นมาอีก
ลุ้นว่า เมื่อ ฝ่าย (พรรค) การเมืองอ่อนแอ แก้ไขอะไรให้บ้านเมือง ไม่ได้
จึงควรหวนคืนกลับไปใช้ วิธีพิเศษ อำนาจพิเศษ กันอีกหรือไม่
ตอนนี้ เราได้ยินนักวิชา “เกิน” ออกมาพูดเรื่อง “การหยุดประชาธิปไตย”
ได้ยินกลุ่มปีกขวา ปีกกลุ่มจารีต ปลุกกระแสอนุรักษนิยม ชาตินิยม ออกมาเป็นทางเลือกในการแก้ไขปัญหาของชาติมากขึ้น
ทั้งที่ เราเพิ่งทบทวน 11 ปีแห่งความสูญเปล่าจากการรัฐประหาร
รัฐประหารที่ทำให้ประเทศติดหล่มและการเมืองอ่อนแอ มาจนถึงวันนี้
จึงไม่ควร “ปลุกผี” ขึ้นมาอีก และประชาธิปไตยอันแท้จริง ยังมีทางออกอีกมากมาย
แต่ความพยายามพลิกฟื้น “วิธีพิเศษ” ก็ไม่เคยจบสิ้น
ยัง “แอบลุ้น” โดยไม่สนใจว่าจะย้อนยุค ล้าหลัง อย่างไรทั้งสิ้น
สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร