สถานีคิดเลขที่ 12 : ระวังโรคแทรก โดย นฤตย์ เสกธีระ

ณ ห้วงเวลานี้ต้องถือว่ารัฐบาลอ่อนแอ เพราะเจอมรสุมหลายลูกและหลายด้านกระหน่ำ

ด้านเศรษฐกิจ ผลการสำรวจความคิดเห็นของนิด้าโพลที่ระบุว่าปัญหาทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนนั้นพอจะเห็นความเดือดร้อนของประชาชนได้พอสมควร

ผลการสำรวจครั้งนี้มีผู้เห็นว่าควรต้องแก้ไขปัญหาที่เผชิญหน้ากับวิกฤตเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนถึง 83.66 เปอร์เซ็นต์

อย่าลืมว่า ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องเป็นเรื่องที่พรรคเพื่อไทยชูในการหาเสียงมาตั้งแต่การเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 2566

แต่ด้วยอุปสรรคนานัปการที่เกิดทั้งในและนอกประเทศ ได้ทำให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้

ADVERTISMENT

สถานการณ์เช่นนี้ ย่อมส่งผลกระทบให้รัฐบาลอ่อนแอลง

ด้านการเมือง การปะทะกันระหว่างคดีชั้น 14 กับคดีฮั้ว ส.ว. ที่บานปลายแล้ว ได้บั่นทอนเสถียรภาพของรัฐบาลไปโดยปริยาย

ความรุนแรงของคดีทำให้ “ทำงานกันไม่สนุก” เหมือนเก่า

สถานการณ์เช่นนี้ก็ทำให้รัฐบาลอ่อนแอลง ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำคือฟื้นฟูรัฐบาลมีความเข้มแข็งขึ้น

ทำให้มีเสถียรภาพ ทำให้มีผลงานโดยแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ

แต่ระหว่างการดำเนินการต้องระวังโรคแทรก และโรคที่น่ากลัวที่สุดของรัฐบาลคือ “คอร์รัปชั่น”

วันนี้รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในเบื้องต้นด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจตามคำเรียกร้อง

งบประมาณ 1.57 แสนล้านบาทกำลังเป็นที่หมายปองจากทุกภาคส่วน

งบเพื่อพัฒนา หากเกิด “โรคแทรก” ขึ้นมา ย่อมส่งผลเสียมากกว่าผลดี

เข้าใจว่า ครม.เองก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ กระทรวงการคลังเองก็มีหลักเกณฑ์ให้พิจารณา ประกอบด้วย

1.โครงการต้องเป็นการลงทุนหรือการใช้จ่าย ที่สามารถกระจายเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เพื่อส่งเสริมและรักษาการจ้างงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาชุมชน การส่งเสริมการท่องเที่ยว และการใช้ประโยชน์ทางเทคโนโลยีในการพัฒนาเศรษฐกิจ

2.เป็นโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพ หรือวางรากฐานเศรษฐกิจให้ประเทศ ซึ่งมีความพร้อมสามารถผูกพันและดำเนินการแล้วเสร็จภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด แต่ต้องไม่กระทบการดำเนินภารกิจปกติของหน่วยงาน ตามที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายปี 2568

3.การจัดซื้อจัดจ้างให้ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อย่างเคร่งครัด ไม่เป็นการแบ่งซื้อ แบ่งจ้าง ไม่แบ่งย่อยโครงการขนาดใหญ่เป็นโครงการขนาดเล็ก

4.กรณีการก่อสร้าง ต้องมีความพร้อมทั้งแบบรูปรายการและพื้นที่ดำเนินการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

5.ควรให้ความสำคัญกับการดำเนินการที่จะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงการดำเนินการในจังหวัดพื้นที่ พื้นที่ รวมถึงความต้องการของภาคเอกชน

6.กรณีเป็นโครงการที่มีการดำเนินการในหลายพื้นที่ ควรคำนึงถึงการกระจายของพื้นที่ดำเนินการ

7.ควรเป็นการดำเนินการที่หน่วยงานรับผิดชอบมีความพร้อมในการบริหารจัดการต่อเนื่อง สอดคล้องกับการพัฒนาที่ยั่งยืน

และ 8.มีความคุ้มค่าในการดำเนินการ

หลักเกณฑ์มีแล้ว แต่จะทำอย่างไรถึงจะเป็นภูมิคุ้มกันโรคแทรกให้ได้

ทำอย่างไรให้เอกชนหรือประชาชนที่สนใจมีส่วนร่วมในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคแทรก

ทำให้ผู้สนใจเข้ามาตรวจสอบโครงการ การใช้งบประมาณและผลที่เกิดขึ้นว่า ตรงตามหลักเกณฑ์ที่วางไว้มากน้อยเพียงใด

นฤตย์ เสกธีระ