สถานีคิดเลขที่ 12 : 3 ทางออก

สถานการณ์ของรัฐบาลภายใต้การนำของ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี ณ เวลานี้ อยู่ในจุดที่ “วิกฤต-สั่นคลอน” มากที่สุดนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมปีที่ผ่านมา

อันเป็นผลพวงจากคลิปเสียงสนทนาของ “นายกฯอิ๊งค์” กับสมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งถูกปล่อยออกมาทางสื่อสังคมออนไลน์ จนกลายเป็นแรงกระเพื่อมกลับมาอย่างหนักหน่วง สั่นคลอนความ “เชื่อมั่น” ของประชาชน

แม้นายกฯอิ๊งค์จะได้ออกมาแถลงยอมรับว่าเป็นคลิปเสียงจริง ได้ชี้แจงในประเด็นที่กล่าวพาดพิงถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าเป็นเชิงเทคนิคการเจรจาเท่านั้น

พร้อมโต้กลับไปยังสมเด็จฯฮุน เซน ว่า “ความต้องการของท่าน จริงๆ แล้ว เป็นความต้องการคะแนนนิยมในประเทศของท่านเอง โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร” แต่ยังมีแรงกดดันจากพรรคการเมือง ฝ่ายค้าน รวมถึงกลุ่มสมาชิกวุฒิสภาให้แสดงความรับผิดชอบ ด้วยการลาออกหรือยุบสภา

ในสถานการณ์อันยากลำบากนี้ของนายกฯแพทองธาร ชินวัตร มี 3 ทางออก ตามครรลอง “ประชาธิปไตย”

ADVERTISMENT

แนวทางที่ 1 “การลาออก” เพื่อเลือกนายกฯคนใหม่ จากบัญชีรายชื่อแคนดิเดตนายกฯที่เหลือของพรรคการเมืองที่มี ส.ส. 25 คนขึ้นไป มีเพียง 5 คนเท่านั้น นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตพรรคภูมิใจไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค แคนดิเดตพรรครวมไทยสร้างชาติ และ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ แคนดิเดตพรรคประชาธิปัตย์

ฟังจากนักวิชาการบางคนแล้วมองว่าการลาออกเพื่อล้างไพ่จัดตั้งรัฐบาลใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย พรรคเพื่อไทยต้องเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯแข่งกับพรรคการเมืองอื่น หากไม่มีฝ่ายใดรวบรวมเสียงข้างมากได้ จะเกิดความชะงักงัน และนำไปสู่ทางตันได้

แนวทางที่ 2 “การยุบสภา” เพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน มาตรา 103 รัฐธรรมนูญกำหนดให้จัดเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน และไม่เกิน 60 วัน ตามกรอบเวลาคาดจะได้รัฐบาลใหม่ช่วงปลายปี 2568 ยังมีข้อห่วงใยว่าจะกระทบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ที่ยังอยู่ในชั้นกรรมาธิการ จะต้องมาเริ่มเสนอกันใหม่ งบประมาณทุกอย่างล่าช้า โครงการของรัฐต้องชะลอ อาจจะยิ่งซ้ำเติมสภาวะเศรษฐกิจ

และแนวทางที่ 3 “การอยู่ต่อ” เดินหน้าปรับคณะรัฐมนตรี เพื่อประคับประคองสถานการณ์ ให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ผ่านพิจารณาของรัฐสภา โดยอาจไม่อยู่ไปจนครบวาระ ยังต้องเผชิญความท้าทายในการบริหารประเทศ เผชิญแรงกดดันจากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย การเผชิญกับนิติสงครามในการยื่นถอดถอนนายกฯ

ในสถานการณ์อันลำบากและวิกฤตเช่นนี้ จึงเป็นการวัดใจว่านายกฯอิ๊งค์จะเลือกทางออกอย่างไร เพื่อให้ประเทศชาติไปต่อได้

สุพัด ทีปะลา