ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
---|
เหตุการณ์ลุงฮุนเซนยืนยันคลิปเจรจากับนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เล่นเอาความเชื่อมั่นของรัฐบาลไทยตกวูบ
วันที่ 18 มิถุนายน ถือเป็นสถานการณ์วิกฤตของนายกฯอิ๊งค์อย่างมิอาจปฏิเสธ
แต่ดูเหมือนทีมงานเข้มแข็งของฝ่ายรัฐบาลจะสามารถปลดชนวนระเบิดได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน แทนที่สถานการณ์จะแย่ลง นายกฯอิ๊งค์กลับสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้
ตั้งแต่ช่วงเช้าที่มี พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ทสส. พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. และตัวแทนเหล่าทัพเข้าประชุม และร่วมยืนสนับสนุนการแถลงข่าวของนายกฯ
ดับกระแสปฏิวัติ ปลุกกระแสไม่ตกเป็นเหยื่อสมเด็จฯฮุน เซน พร้อมประกาศจุดยืนรักษาอธิปไตยประเทศไทย
สถานการณ์ในช่วงบ่ายในวันนั้นยังคุกรุ่น เพราะพรรคร่วมรัฐบาล 3 พรรคมีนัดประชุมตอนเย็น แต่พอผลการประชุมออกมา วิกฤตของรัฐบาลก็คลี่คลาย
ทั้งพรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคชาติไทยพัฒนา ยังร่วมรัฐบาลเพื่อไทย แต่ขอพูดคุยกับนายกฯ
แม้พรรครวมไทยสร้างชาติในคราแรกจะมีเงื่อนไขถึงขั้นขอเปลี่ยนนายกฯ แต่เมื่อมีการพูดคุยกันแล้ว สุดท้ายก็ยินยอม
แม้จะมีพลพรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันเรื่องขอเปลี่ยนตัวนายกฯ แต่ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติได้ออกมาปฏิเสธ ทั้งเรื่องการต่อรองขอตำแหน่งเพิ่ม และขอเปลี่ยนตัวนายกฯ
เป็นสัญญาณดีสำหรับนายกฯอิ๊งค์และพรรคเพื่อไทย
เท่ากับว่าพรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา ผนึกกับพรรคกล้าธรรม พรรคประชาชาติ และพรรคอื่นๆ ที่ไม่มีปัญหามาตั้งแต่ต้น และยังรวมกับกลุ่ม ส.ส.จากพรรคไทยสร้างไทย ทำให้รัฐบาลมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภา
แม้จะขาดพรรคภูมิใจไทยไป 69 เสียง แต่ก็ยังขับเคลื่อนรัฐนาวาไปได้
วันเสาร์-อาทิตย์ นายกฯอิ๊งค์ต้องจัดการโผ ครม.อิ๊งค์ 2 ให้ลงตัว เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนตรวจสอบประวัติและนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ
ทางที่ดีคือทำทุกอย่างให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด เพราะล่าสุด ประธานวุฒิสภาได้ยื่นเรื่องให้ถอดถอนนายกฯอิ๊งค์ และขอให้สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวก่อน
คำร้องดังกล่าวไม่รู้ว่าจะเข้าสู่การพิจารณาเมื่อไหร่ แต่ถ้าจะให้รัฐบาลปลอดภัย กระบวนการปรับ ครม.ควรจะแล้วเสร็จให้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม แม้การแก้วิกฤตเบื้องต้นจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี แต่การบ้านของนายกฯอิ๊งค์และพรรคเพื่อไทย คือการกู้ความเชื่อมั่นกลับมา
กอบกู้ความเชื่อมั่นของประเทศ ความเชื่อมั่นของรัฐบาล และความเชื่อมั่นของนายกฯ
หลายคนมีข้อแนะนำแล้วว่า โอกาสพลิกความเชื่อมั่นต้องเริ่มต้นจากโฉมหน้าของ ครม.อิ๊งค์ 2
เลือกบุคคลที่มีคุณภาพ คนที่เหมาะกับงาน และสถานการณ์ในยามนี้
เพื่อให้รัฐมนตรีไม่ว่าจะมาจากพรรคการเมืองใดสามารถสร้างผลงานให้รัฐบาลได้
แม้ว่าการสร้างผลงานจะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคเหมือนกับการทำงานของรัฐบาลที่ผ่านมา และมีทีท่าว่าอาจจะต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรคใหม่ๆ ที่พร้อมจะเกิดขึ้น
แต่ถ้ารัฐบาลคือความหวังของประเทศ ความเชื่อมั่นก็จะฟื้นกลับคืน พรรคร่วมรัฐบาลก็ได้อานิสงส์
นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่ร่วมคณะ จะภาคภูมิใจในตัวเองมากที่สามารถทำได้
เพียงแต่ว่า ด้วยระยะเวลาที่เหลืออีกประมาณ 2 ปี กับภารกิจอันใหญ่หลวงเช่นนี้ จะสามารถทำได้หรือเปล่า
แต่คิดมากไปก็ใช่ที่ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องทำ
ต้องเดินหน้าทำให้ดีที่สุด ด้วยคุณภาพที่มากที่สุด
หลังจากทำสุดฝีมือแล้ว อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด
นฤตย์ เสกธีระ