มอบถังออกซิเจน – กรณิศ กุหลาบวรรณ, ทศกรณ์ กุหลาบวรรณ ผู้บริหารร้านอาหารเบียร์หิมะและปัญญาซีฟู้ด (เกษตรนวมินทร์) มอบถังออกซิเจนพร้อมอุปกรณ์จำนวน 2 ชุด หน้ากากอนามัย 54,000 ชิ้น และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ 200 ขวด (100 ลิตร) ให้กับกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลราชทัณฑ์ โดยมีศิรสิทธิ์ แดงสด รอง ผอ.ทัณฑสถานโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ รับมอบ ณ ร้านเบียร์หิมะ ประชาชื่น เมื่อเร็วๆ นี้
มอบเครื่องช่วยหายใจ – คณะศิษย์เก่าหลักสูตรวิทยาการประกันภัยระดับสูง (วปส.) รุ่น 2 โดยวิพล
วรเสาหฤท เป็นผู้แทนรุ่น มอบเครื่องช่วยหายใจเพื่อใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และสมบททุนเพื่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นให้กับโรงพยาบาลราชวิถี โดยมี นพ.ไพโรจน์ เครือกาญจนา รอง ผอ.ด้านการแพทย์ รพ.ราชวิถี เป็นผู้แทนรับมอบ ณ รพ.ราชวิถี กรุงเทพมหานคร เมื่อเร็วๆ นี้
หนุนเตียงกระดาษ – สาระ ล่ำซำ กก.ผจก.และ ปธ.จนท.บห., พิตราภรณ์ บุณยรัตพันธุ์ รอง กก.ผจก.อาวุโส บมจ.เมืองไทยประกันชีวิต มอบกล่องและลังกระดาษที่มีสภาพดีที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ให้แก่ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) เพื่อนำไปเข้ากระบวนการรีไซเคิลของ SCGP และแปรรูปให้เป็นเตียงกระดาษและมอบให้กับโรงพยาบาลสนามแห่งต่างๆ ณ เมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็วๆ นี้
ช่วยชุมชน – ธีรพงศ์ จันศิริ ปธ.จนท.บห. บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ส่งมอบผลิตภัณฑ์ซีเล็ค ให้กับ นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา และสุพจน์ วงศ์พรหมท้าว รองอธิบดีกรมพลศึกษา เพื่อสนับสนุนการทำงานของศูนย์แรกรับและส่งต่อผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาคารนิมิบุตร กรมพลศึกษา เมื่อเร็วๆ นี้
เปิดตัว – วิลาสินี ภาณุรัตน์ ปธ.จนท.ฝ่ายการตลาด บจ.อีฟ โรเช่ (ประเทศไทย) จัดงานเอ็กซ์คลูซีฟ
เวิร์กช็อป ผ่านซูม เพื่อเปิดตัว Anti-Age Global สกินแคร์ตัวใหม่ล่าสุด Super Serum Bud Nectar โดยมี พญ.ขวัญจิรา วงศ์เกียรติขจร, สมบัษร ถิระสาโรช, ชุตินันท์ รงคะอำพันธุ์ และโชสิตาว์ ยงรัตนมงคล ร่วมกิจกรรม ณ อีฟ โรเช่ ช็อป ชั้น 2 โซนเอเทรียม ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเร็วๆ นี้
…ทำอะไรไม่ได้ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังแข็งเป๊ก แม้จะเคลื่อนมากดดันให้ ออกไป กันคึกคัก แต่ยังมองไม่เห็นว่าอะไรจะมีพลังพอทำให้สะดุ้งสะเทือน ยังเดินส่ายอาดๆ โชว์ถึง ความมั่นคงของ 3 ป. ได้สบาย เพราะตัวช่วยที่สร้างไว้ยังแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น รัฐธรรมนูญ
ที่ทำให้ ชนะตั้งแต่ในมุ้งในทุกความขัดแย้ง มาถึง กลไกควบคุมอำนาจทุกฝ่าย กระทั่ง 250 ส.ว. ที่ทำให้ อำนาจในรัฐสภา ท่วมท้น ดังนั้นแม้ ความเดือดร้อน จะขยายไปทั่วทุกหัวระแหง ก็เป็นแค่เรื่องของ ประชาชน ไม่เกี่ยวอะไรกับ เครือข่ายอำนาจ
…โจมตีกันหนักหน่วงว่า สืบทอดอำนาจต่อเนื่องมา 7 ปี ไม่ใช่แค่ไม่มีอะไรดีขึ้น แต่ทุกอย่างยิ่งทรุดหนักลง แต่เมื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มาชี้ให้เห็นว่า ช่วง คสช.5 ปี ไม่เกี่ยว ต้องนับตั้งแต่อยู่มาตามรัฐธรรมนูญนี้ แค่ 2 ปี ทุกอย่างก็เป็นไปตามนั้น แม้ผู้คนจะหัวเราะขื่นๆ ในเหตุผลแบบนี้
แค่คำของ บิ๊กป้อม จะเป็นธงให้น้องๆ โฆษก ทั้งหลายนำไปใช้ในการชี้แจง เพื่อชี้ให้เห็นว่า ตามระบบต้องอยู่อีก 2 ปี จึงจะครบวาระ
…หลัง เยาวชนคนรุ่นใหม่ แสดงท่าทีเหมือนถอดใจกับ การสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น หันไปเน้นเชิญชวน ย้ายประเทศกันดีกว่า ทั้งเพื่อ อนาคตที่หวังได้ และ ไม่ต้องมาเสี่ยงภัยที่เกิดขึ้นจากการเคลื่อนไหวเรียกร้อง ขบวนที่ออกมารับลูกต่อ เป็น ผู้นำมวลชน ที่เคยมีบทบาทก่อนหน้านั้น ประสานพลังกันจากกลุ่มคนที่เคยต่างสีเสื้อ จตุพร พรหมพันธุ์-ไพศาล พืชมงคล มาถึงแบบ นิติธร ล้ำเหลือ-ปรีดา
เตียสุวรรณ์-ศิริชัย ไม้งาม-พิชิต ไชยมงคล เชื่อกันว่าอีกไม่นานจะเรียงหน้ากันออกมาเป็นกองทัพ เหตุผลเบื้องหน้าคือ ทุกคนมองว่าประเทศจะไปไม่รอด แต่เบื้องหลังนั้นคาดเดากันว่า ขืนปล่อยไว้ การรักษาอำนาจของกลุ่มผูกขาดจะทำได้ยากขึ้น
…เป็นความชาญฉลาดของ เพื่อไทย ที่เคลื่อนไหวในนาม CARE คิดเคลื่อนไทย ด้วยการหยิบ ทักษิณ ชินวัตร มาอวตารในบทบาท Tony Woodsome เพราะ อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นี้ เก่งในเรื่อง อ่านความต้องการของผู้บริโภค ทำให้แต่ละประเด็นที่หยิบขึ้นมาชี้ให้เห็นเป็น กระแสที่ก่อความฮือฮา แทบทั้งสิ้น อย่างว่า! ขณะที่การบริหารจัดการบ้านเมือง ก่อให้เกิดความกังวล และมีแต่การกลับไปกลับมา สื่อสารให้ประชาชนสับสนในเรื่องที่รับรู้ ก่อให้ สูญเสียความเชื่อมั่น เมื่อ พี่โทนี่ แสดงให้เห็นถึง กึ๋น ในการอ่านความเป็นไปของโลก และโชว์ วิธีบริหารจัดการที่สร้างความน่าเชื่อว่าเป็นไปได้มากกว่า ยิ่งเกิดการเปรียบเทียบที่ทำให้ ความเชื่อมั่นทรุดหนักไปอีก
…ด้วยการตีความ เฟคนิวส์ อย่างเข้มข้น เชื่อว่าอีกไม่นาน ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ในฐานะ รมว.ดีอีเอส คงต้องถูกจัดการให้ตีความ Tony Woodsome ว่าเป็นรายการที่ต้องปิดกั้น เหมือนกับ ผลงานเด็ดของดีอีเอสในยุคสมัยเช่นนี้ แม้ว่าที่ผู้คนอยากเห็นคือ จะพัฒนาประเทศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลให้ก้าวทันโลกได้อย่างไร แต่ความต้องการของประชาชนดูจะไม่ใช่ทางที่รัฐบาลคิดจะเน้น
…แม้จะน่าเห็นว่า รัฐบาลต้องใช้เงินมหาศาล ในการกู้ วิกฤตโควิด ที่เกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน แต่คำถามของ สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เกี่ยวกับ ความโปร่งใส เรื่อง อนุมัติเงินกู้ครั้งใหม่ 700,000 ล้าน เป็นเรื่องที่ต้องสนใจฟัง ด้วย เงินกู้คือภาระลูกหลานในอนาคต จะปล่อยให้ กู้ง่าย ใช้ง่าย ไม่น่าจะใช่ มรดกที่คนรุ่นนี้ส่งต่อให้คนรุ่นหลังต้องรับ
…การบริหารจัดการ โควิด ที่อำนาจทุกอย่างรวบไว้ที่ นายกรัฐมนตรี แต่ ความรับผิดชอบกับมาตรการควบคุม ให้เป็นภาระของจังหวัด โดย ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นแม่งาน ปัญหาค่อยๆ ทยอยเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ภูเก็ต ที่เก็บ ค่าตรวจก่อนเข้าจังหวัด ถึงสถานการณ์กระจายของเชื้อที่ เพชรบุรี น่าจะมีจากจังหวัดอื่นตามมาอีกเรื่อยๆ ด้วย หัวใจของวิกฤต อยู่ที่ การบริหารจัดการวัคซีนผิดพลาด ก่อความอลหม่านไปทุกขั้นตอน แต่ปล่อยให้เกิดกระแส ไม่ฉีดดี หรือฉีดดี เพราะทำเสียจนคนไม่เชื่อใน วัคซีนที่รัฐบาลเลือกให้ จนถึง อยากฉีดแต่ไม่ได้ฉีด เพราะ วัคซีนมาไม่ทันกับที่จำเป็นต้องกระจาย เพราะ ไม่ได้สั่งซื้อไว้แต่ต้น
ชโลทร