คอลัมน์ โลกสองวัย : ซีไรต์เล่มใหม่ :…ของแมวกุหลาบดำ

วันนี้หยุดชดเชยวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เพื่อน้อมถวายความรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ขอเชิญพสกนิกรไทยร่วมกันบริจาคโลหิตอุทิศถวายแด่พระองค์ ที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งแจ้งขาดแคลนเลือดสำรองกรุ๊ป เอ ระดับวิกฤต มาหลายวันแล้ว

บริจาคได้ที่ตึก 72 ปี โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันจันทร์ คือวันนี้ 15 ตุลาคม ถึงวันศุกร์ เวลา 08.30-18.00 น. วันเสาร์ วันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-16.00 น.

ถัดจากนี้ 2 วัน เริ่มงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 43 และงานมหกรรมหนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 23 ตั้งแต่วันพุธที่ 17 ถึงวันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2561 เวลา 10.00-21.00 น. ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ปีนี้สำนักพิมพ์มติชนฉลองวรรณกรรมซีไรต์ ที่รับรางวัลนี้สองครั้งซ้อน จากนวนิยายเรื่องไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต เมื่อปี 2558 และปีนี้ จากนวนิยายเรื่อง พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ โดยผู้เขียนคนเดียวกัน วีรพร นิติประภา

ปีนี้นวนิยายจากสำนักพิมพ์มติชนได้รับเข้าสู่การพิจารณารางวัลซีไรต์ถึง 4 เล่ม ตั้งแต่ ข้ามสมุทร นวนิยายอิงประวัติศาสตร์อยุธยาสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เล่มเดียวจบ โดย วิษณุ เครืองาม นักกฎหมายระดับดอกเตอร์ มือนิติกรที่เป็นทั้งนักอ่านและนักเขียนใช้เวลาเขียนนวนิยายเรื่องนี้จบภายในไม่กี่เดือน ผ่านการพิจารณาในรอบแรก กับนวนิยายอีกเรื่องหนึ่งคือ ชีวิตประเทศ สองเล่มจบ (อาจได้รับพิจารณารางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียนในคราวต่อไป 4 ปีข้างหน้า)

Advertisement

อีกสองเล่มคือ ผุดเกิดมาลาร่ำ จิตรกรนักเขียนที่ว่างเว้นจากพู่กันมาจับปากการ่ายนวนิยายที่มีสำนวนลึกซึ้งงดงามราวจิตรกรรมซึ่งเธอบรรจงวาดลงบนแคนวาส อารยา ราษฎร์จำเริญสุข ที่ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) เพิ่งเอ่ยถึงเมื่อวันก่อน

เล่มที่สาม ชื่อเรื่องหวานแหววระคนเศร้า หยดน้ำหวานในหยาดน้ำตา ตรงไปตรงมา แต่เนื้อหาในนวนิยายเป็นอย่างไร ใครที่คุ้นสำนวนของ อุรุดา โควินท์ ทราบดี สองเล่มนี้ผ่านการพิจารณารอบสุดท้าย

ส่วนเล่มที่ได้รับรางวัลซีไรต์ปีนี้ จากนักเขียนคนเดียวคนเดิมที่ได้รับรางวัลซีไรต์เมื่อ 4 ปีก่อน วีรพร นิติประภา พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ เพียงชื่อเรื่องชวนให้เปิดอ่านตั้งแต่บรรทัดแรกจนบรรทัดสุดท้าย วางไม่ลง จบเรื่องไม่รู้ตัว

Advertisement

ใครที่เคยอ่านนวนิยายเริ่ง ไส้เดือนตาบอดฯ มาแล้ว คงจำได้ว่า วีรพร นิติประภา ขึ้นต้นเรื่องว่า

“ฉันเก็บจำประเทศของฉันในภาพของผืนแผ่นดินอันนุ่มนวล… ไม่ได้แสนสุข สมบูรณ์แบบ และยิ่งใหญ่ในใจใคร เป็นแค่ภาพเล็กๆ นับล้านปะติดปะต่อของชั่วเวลาที่ทุกอย่างผันผ่านเรียบง่าย…อ่อนโยน…”

ตามต่อมาด้วยเหตุการณ์ในห้วงนั้น ห้วงของ “มือตบ ตีนตบ หัวใจตบ นกหวีด ก่อนหน้ากากซีดเผือดยิ้มเยาะไม่เลิกราจะออกมาเพ่นพ่าน…” ไปถึงย่อหน้าสุดท้ายของคำนำผู้เขียน “ฉันเขียนประโยคแรกในวันที่มหานครดิ่งด่ำลงในมืดดำควันไฟและหยาดเลือดไหลนอง…”

ถึงวันนี้ เดือนนี้ ใครยังจำเหตุการณ์ครั้งนั้นได้บ้าง ลองกลับไปอ่าน “ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต” อีกครั้ง ก่อนจะหยิบ “พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ” ซึ่งผู้เขียนว่าไว้ในคำนำว่า

“คุณต้องเคยผ่านชั่วขณะแบบนั้น…ทำไมถึงจะไม่ เต้นระบำเมามันสุดเหวี่ยงจนจบเพลง ทันใดไฟก็สว่างจ้าจนคุณน้ำตาไหล…ได้เวลาบาร์เลิกแล้ว รอใครสักคนโทร.มา…เก็บกำโทรศัพท์กดลงบนหัวใจมาตลอดค่ำ เพื่อจะพบว่าโทรศัพท์ที่ดังตอนเที่ยงคืนเป็นคนเมาโทร.ผิด อ่านนิยายไปจนถึงตอนที่คิดว่าดีที่สุด แล้วพลิกหน้ากระดาษพบว่ามันเป็นหน้าสุดท้าย”

“นี่คือนิยายที่เขียนถึงวินาทีระหว่างคลื่นลูกที่สามและสี่ของสึนามิ… วินาทีอันแสนจะเปราะบางตรงกลางระหว่างความหวัง” นวนิยายรางวัลซีไรต์เล่มล่าสุด

“พุทธศักราชอัสดงกับทรงจำของทรงจำของแมวกุหลาบดำ” ราคา 340 บาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image