What Happened, Miss Simone? วิถีแบบ “นีน่า ซีโมน” มากกว่าความบ้าคลั่ง เพราะเธอคืออัจฉริยะ!

หลายครั้งที่ชมภาพยนตร์สารคดีชีวิตนักดนตรี ศิลปิน มักจะให้ความรู้สึกกินใจ ซาบซึ้งและทึ่งในหลายแง่มุมชีวิตของเขาเหล่านั้น แต่ในหนังสารคดี “What Happened, Miss Simone?” กลับให้อีกความรู้สึกออกมาหลังชมจบลง

หนังที่ถ่ายทอดชีวิตของศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่ง นีน่า ซีโมน ให้ความรู้สึกระหว่างทางการรับชม ที่มีทั้งความขมขื่น นิ่งงัน และเมื่อภาพสุดท้ายของหนังดำมืดลง พร้อมเพลงปิดท้าย “Sinnerman” ความเข้าใจต่อชีวิตศิลปินอย่าง “นีน่า ซีโมน” ก็กระจ่างขึ้นมา พอๆ กับความทรงพลังของเสียงเปียโนที่เธอบรรเลง และลวดลายการร้องที่ให้ความเจ็บปวดแบบซับซ้อนขึ้นมาในทันที

ในความจัดเจนทางทฤษฎีดนตรีเปียโนคลาสสิกของเธอ นีน่า ซีโมน นักร้องนักดนตรีแจ๊ซ/บลูส์/โซล กลับสร้างความ “ลื่นไหลนอกกรอบ” ทางดนตรีแบบที่ยั่วล้อ และ “นอกลู่นอกทาง” กับคนฟังได้ตลอดเวลา

Advertisement

โชว์ของนีน่า ซีโมน นิยมเล่นดนตรีและร้องแบบ “อิมโพรไวส์” ปรับคีย์ให้พลิ้วไหวไปกับดนตรี บางครั้งสร้างทำนองลูกเล่นขึ้นใหม่ในเพลงเดิมจนสร้างรสชาติใหม่ให้คนฟังในคอนเสิร์ตของเธอ ผนวกด้วยเสียงแหบใหญ่แต่กังวานที่เปล่งเสียงมาคำหนึ่ง แต่ให้ความรู้สึกมีหลายตัวโน้ตคลอกันเลยทีเดียว

เพลง “นีน่า ซีโมน” จึงฟังสนุกมาก และยิ่งได้ดูการแสดงสดของเธอ (สามารถหาดูในยูทูบ) นี่คือนักดนตรีที่เป็น “อัจฉริยะ” ในยุคนั้น และเป็นหนึ่งในคนจำพวก “มาก่อนกาล”

Advertisement

ทว่าชีวิตศิลปินคนหนึ่ง ต้องเจ็บปวดถึงขนาดนี้เชียวหรือ?

เด็กผิวดำเกิดในนอร์ท แคโลไรน่า ที่ฝันอยากเป็น “นักเปียโนคลาสสิกผิวสีคนแรกของสหรัฐอเมริกา” ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ชีวิตที่ต้องปากกัดตีนถีบ ทำให้ต้องเลือกหันหน้าสู่เส้นทางศิลปินตามผับบาร์เลี้ยงชีพด้วยฝีมือเปียโนระดับพระกาฬ ก่อนจะประสบความสำเร็จ และเลือกทางเดินแบบ “หักชีวิต” รุ่งโรจน์ของตัวเอง ด้วยการก้าวสู่แนวหน้า “นักสิทธิพลเมือง” เป็นนักดนตรีเพื่อชีวิตที่มีความเกรี้ยวกราดทั้งความคิดและอารมณ์

หนึ่งในเพลงตำนานสิทธิพลเมืองของซีโมน “Mississippi Goddam” ที่เธอแต่งและร้องออกมาอย่างก่นด่าเรียกหาความยุติธรรมให้คนผิวดำผู้ตกเป็นเหยื่อ เธอร้องมันแทบจะในทุกเวทีชุมนุมสิทธิพลเมืองที่เธอขึ้นเวทีร่วมขบวนประท้วง

ต้นธารเพลงเพื่อชีวิตเพลงนี้ กลับทำให้วงการดนตรีสหรัฐแบนและกีดกันเธอ

ในยุคที่คนดำต่อสู้เรียกร้องสิทธิ และเจ็บช้ำพ่ายแพ้ เช่นเดียวกับซีโมน ที่ชีวิตเตลิดพลัดถิ่นไปไกล ย้ายตัวเองไปอยู่ในแอฟริกาใต้ ไลบีเรีย เนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส พร้อมประกาศก้องเกลียดประเทศตัวเอง!

ด้วยวาทะเรียกขานสหรัฐอเมริกาว่า “United Snake Of America”

ความเคียดแค้นจากสมัยที่เธอเข้าร่วมขบวนการเรียกร้องสิทธิคนผิวสีที่ถูกกดขี่ และการไม่เปิดกว้างด้านความคิดของวงการดนตรีในสหรัฐห้วงนั้น

ชัดเจนระดับที่ นีน่า ซีโมน ไม่ขอเหยียบหรือตายในแผ่นดินเกิดอย่างสหรัฐอเมริกา ทำงานดนตรีและตระเวนแสดงสดในยุโรป กระทั่งใช้ชีวิตบั้นปลายสุดท้ายในฝรั่งเศส

เป็นชีวิตที่สุดโต่ง มีตั้งแต่ดีดขึ้นสูงสุด ตกต่ำขีดสุด และกลับมาได้อย่างน่าหลงใหล

ชีวิตของเธอ “ฉูดฉาดแบบของแท้” ก้ำกึ่งระหว่าง “ความบ้าคลั่ง” ควบคุมไม่ได้ เลยเถิด เกรี้ยวกราดแบบเดียวกับดนตรีของตัวเอง แม้จะเรียก “อินเนอร์” มาถึงคนฟังได้มากเพียงใด แต่หลังจากรับรู้ชีวิตของนีน่า ซีโมน เพลงและดนตรีที่มีแรงขับเคลื่อนมหาศาลนี้กลับทำให้เราทั้งเคลิบเคลิ้ม สงสาร เห็นใจ บางจังหวะแทบจะนึกถึงความเจ็บปวดของเธอ แม้จะไม่เท่ากับที่ซีโมนต้องเผชิญกับ “โรคอารมณ์สองขั้ว” ของเธอเองตลอดหลายปี

หนังสารคดีพาไปดูตลอดห้วงชีวิต ที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ขึ้นลงสุดขีดของเธอ

บนเวที “นีน่า ซีโมน” ไม่เคยทำให้ผู้ชมผิดหวัง ความสามารถและตัวตนของเธอ ยังคงเป็นดาวเด่น แต่คนรอบข้าง คนใกล้ตัวมักประหวั่นว่า อารมณ์ศิลปินของเธอนั้นไม่สามารถควบคุมได้เช่นเคย

เป็น “ความบ้าคลั่งและอัจฉริยะ” ของศิลปินที่มีเรื่องราวซับซ้อน สร้างเพลงที่น่าฟัง พร้อมไปกับความเจ็บป่วยทางจิตใจของเธอ

เพลงของซีโมน ต้องแลกกับจิตวิญญาณที่อ่อนไหว ดนตรีที่มาจากจิตวิญญาณกลับสะท้อนบาดแผลทางจิตใจ และความเกลียดชังต่อสังคม ต่อประเทศที่เธอยืนอยู่ จนบางครั้งภาพตรงหน้า นีน่า ซีโมน ประหนึ่งเป็น “นักรบอิสระ” ผู้ฟาดฟันกับทั้งภายในใจของตัวเอง และต่อความไม่เท่าเทียมและเลือกปฏิบัติ

“What Happened, Miss Simone?” เป็นหนังสารคดีที่วาดภาพ “อัจฉริยะที่ทุกข์ทรมาน” แต่ก็งดงามแบบที่ประเมินไม่ได้

เพลง “Sinnerman” หนึ่งในเพลงตำนานของเธอ ดังขึ้นมาในภาพดำมืดปิดท้ายเครดิตหนัง เพลงที่พูดว่า ไม่ว่าคุณจะหนี จะซ่อน หรือพยายามหลบเลี่ยงออกจากตัวตนของตัวเองแค่ไหน ก็ไม่เป็นผล แต่จง “เผชิญหน้ากับจิตวิญญาณของตัวเอง” แม้มันจะบ้าคลั่งแค่ไหน “นีน่า ซีโมน” เองก็เช่นกัน

เพราะชีวิตนี้ ชั่วดีเสมอในตัวคนคนหนึ่งแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image