| ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ซากปรักหักพังของโบราณสถานเมืองสุโขทัย (และที่อื่น) อนุรักษ์ไว้ตามหลักวิชาสากล มีความงามแบบหนึ่ง แต่ชาวบ้านเข้าใจลำบากว่าซากที่เห็นถ้าไม่ผุพังยังสมบูรณ์จะมีหน้าตาอย่างไร?
ถ้ามีภาพสันนิษฐานเติมเต็มตามที่เคยมีเคยเป็น แล้วติดตั้งพร้อมคำอธิบายง่ายๆ สั้นๆ จะช่วยให้ชาวบ้านเข้าใจมากขึ้น เรื่องนี้มีผู้เสนอแนะรัฐบาลหลายยุคหลายสมัยสืบเนื่องราว 50 ปีมาแล้ว เพิ่งทำได้เป็นเบื้องต้นเมื่อไม่นานมานี้มีประโยชน์อย่างยิ่ง
สมัยสุโขทัย เจดีย์อินคัลเลอร์ ของ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.สันติ เล็กสุขุม (สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก ธันวาคม พ.ศ.2561) เป็นภาพสันนิษฐานซากโบราณสถานเมืองสุโขทัย, เมืองศรีสัชนาลัย, เมืองกำแพงเพชร, เมืองพิษณุโลก
แม้ไม่สมบูรณ์ แต่ช่วยผม (และน่าจะคนอื่นอีกไม่น้อย) เข้าใจ แล้วมีจินตนาการต่อยอดออกไปไม่น้อย
ดูเหมือนหลายอย่างไม่ราบรื่น เพราะปัญหาของการจัดหน้าหนังสือไม่เข้าที่และไม่เข้าทาง
“กรุงสุโขทัยราชธานีแห่งแรกของไทย” แม้เป็นเรื่องไม่จริง แต่เป็นประวัติศาสตร์แห่งชาติเพิ่งสร้างใหม่เพื่อสนองการเมืองชาตินิยม ราว 100 ปีมานี้เอง โดยไม่พบหลักฐานรองรับทางวิชาการประวัติศาสตร์โบราณคดี ซึ่ง อ.สันติ เล็กสุขุม ไม่เรียกเป็นราชธานีแห่งแรก โดยบอกว่า “ดินแดนไทยมีราชธานีมาเก่าก่อนราชธานีสุโขทัย” (หน้า 9)
ผมเห็นด้วยว่าก่อนมีเมืองศรีสัชนาลัย สุโขทัย ในดินแดนไทยมีเมืองอื่นๆ นานแล้ว ได้แก่ เมืองสุพรรณภูมิ (สุพรรณบุรี), เมืองอโยธยา ที่ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น กรุงศรีอยุธยา (พระนครศรีอยุธยา)
แต่แล้วไฉน อ.สันติ เล็กสุขุม บอกในบทสรุปท้ายเล่มว่า กรุงศรีอยุธยาเป็น “ราชธานีรุ่นน้อง” (หน้า 362) เท่ากับกรุงสุโขทัยเป็น รุ่นพี่
มีด้วยหรือ โซตัส ทางราชธานีในไทย?
[อันที่จริงคำว่า ราชธานี ก็ไม่มีในสมัยนั้น แต่เป็นสิ่งเพิ่งสร้างแสดงอำนาจเลียนแบบประวัติศาสตร์ยุโรป]
คนเห็นต่าง ไม่ใช่ศัตรู
มองคนเห็นต่างอย่างเป็นมิตร อย่ามองเป็นศัตรู พล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กล่าวให้พร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม 2561 เวลา 09.00 น. จะคัดโดยสรุปอย่างสั้นๆ มาดังนี้
ทุกคนเห็นต่างกันได้ แต่ต้องเป็นมิตรกันจะดีมาก
ขอให้นายกฯ เห็นว่าแม้ฝ่ายค้านเห็นต่าง ก็เห็นต่างอย่างมิตร อย่าเห็นต่างเป็นศัตรูกัน ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์
จะเห็นต่างกับฝ่ายค้านก็โอเค เพราะเห็นต่างกันอยู่แล้ว แต่ต้องเห็นต่างกันอย่างมิตร
ผมอยากให้นายกฯ ทำเป็นตัวอย่างว่าถึงผมเห็นต่างกับคุณ ผมก็เป็นเพื่อนกับคุณ คงจะทำให้ทุกอย่างราบรื่น
อคติและมิจฉาทิฐิ
การศึกษาไทยมีปัญหาก้าวหน้าไม่ทันการเปลี่ยนแปลงของโลกไม่เหมือนเดิม ไม่ได้มีเหตุจากผู้เรียน แต่มาจาก อคติ และ มิจฉาทิฐิ ของผู้สอน ได้แก่ ครูบาอาจารย์ นักวิชาการ ทั้งในมหาวิทยาลัยและในสถานศึกษาต่างๆ
โดยเฉพาะทางประวัติศาสตร์โบราณคดี มีโจ่งแจ้ง มองคนเห็นต่างเป็นศัตรูไปหมด
ขอพึ่งพาบารมี อ.สันติ เล็กสุขุม กรุณาป่าวร้องเทวฤทธิ์ผู้มากด้วยมิจฉาทิฐิเหล่านั้นให้ลดละเลิก จักเป็นพระเดชพระคุณสูงลิ่ว
