ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | จันทร์รอน [email protected] |
เผยแพร่ |
เพื่อนคนหนึ่งซึ่งเข้าสู่วัยปลายของชีวิตเล่าความฝันให้ฟังว่า ทุกวันนี้ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายเลย แค่อยากจะหาทางทำให้ตัวเองมีเงินสัก 1 ล้านบาท
ไม่ใช่ต้องการเงิน แต่ต้องการเรียกการยอมรับจากภรรยากลับมา
เงินล้านบาทสำหรับเพื่อนคนนี้หากเป็นก่อนหน้านั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก
ชีวิตวัยหนุ่มที่อยู่กับวงการพนัน ระดับบ่อนใหญ่ ได้วันละเป็น 10 ล้านบาท ค่าของเงินสำหรับเขาจึงไม่เหมือนคนอื่น ถ้าไม่ใช่ก้อนใหญ่หรือจำนวนมากจริงๆ ไม่มีความหมายอะไร
เพราะเงินสำหรับนักพนันอย่างเขาป็นเหมือนเรื่องราวหนึ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป วันไหนได้มาก็รู้สึกโชคดี เสียไปก็โชคร้าย ชีวิตดำเนินไปเช่นนั้น
ความรู้สึกว่ารับผิดชอบครอบครัวได้ คือสามารถซื้อหาอะไรต่ออะไรที่ภรรยา หรือคนในครอบครัวอยากได้มาให้ในวันที่เขาเรียกว่าโชคดี
แต่ที่สุดชีวิตลงเอย และมีโชคร้ายเป็นตัวกำหนดบั้นปลาย
ถึงวันนี้ที่อายุมากขึ้น ไม่เหลือทุนที่จะเข้าบ่อน อีกทั้งเครดิตไม่มีเหลือ
ทรัพย์สินเกือบทั้งหมดของครอบครัวสูญเสียไปกับบ่อน
โชคดีของเขาเหลือแค่ภรรยายังมีงานทำ พอจะมีรายได้มาอุ้มครอบครัวไว้ไม่ให้ล้มละลายลง
สำหรับตัวเขาจมกับความรู้สึกว่าเป็น “คนไร้ค่า” มายาวนาน
ความรู้สึกนั้นเกิดขึ้นหนักหน่วงเมื่อนึกถึงภรรยา
หลายปีมานี้จึงดิ้นรนที่จะหาทางให้ตัวเองมีเงินสักล้าน สองล้าน โดยความหวังว่าจะกอบกู้ความรู้สึกมีค่าใจความคิดของภรรยาขึ้นมาบ้าง
ทว่าความฝันยังเป็นความฝันต่อเนื่องมานานหลายปี อย่างไม่มีความหวังว่าจะเป็นจริงขึ้นมาได้เลย ขณะที่สามารถวาดโครงสร้างเพื่อจะสานฝันให้เป็นจริงเกิดขึ้นมากมายในความคิด
แต่ยิ่งเล่าความคิดออกไป กลับยิ่งถูกมองว่า ฝันเฟื่องฟุ้งซ่าน แรกๆ เพื่อนฝูงก็ฟัง แต่หลังๆ ไม่ทันเอ่ยปากก็ถูกตัดบทเสียเป็นส่วนใหญ่
“ไม่ต้องการอะไรมาก แต่อยากหาเงินให้แค่สักล้าน เพื่อให้เมียเห็น” คือที่เพื่อนบอก
แต่ก่อนจะตามด้วยเรื่องราวสารพัดโปรเจ็กต์ที่อยู่ในหัวเพื่อนเหมือนเดิม
ผมลองตั้งคำถามกลับมา แน่ใจอย่างไรว่าเมียจะคืนความยอมรับให้หากหาเงินล้านได้
คำตอบคือ “คิดเอาเอง”
ฟังแล้วก็ได้แต่ทบทวนว่า มนุษย์เรามักเป็นอย่างนี้ “ความอยาก ทำให้เกิดความคิดต่อไปเรื่อย จนในที่สุดหลงลืมเสียด้วยซ้ำว่าสิ่งที่อยากได้คืออะไรกันแน่”
เพื่อน “อยากได้การยอมรับจากภรรรยา ทำให้คิดจะหาเงินล้าน คิดโครงการขึ้นมามากมาย เที่ยววิ่งให้วุ่นเพื่อขอความช่วยเหลือจากคนโน้นคนนี้”
บางวันไม่ได้กลับบ้าน ปล่อยให้ภรรยาซึ่งอายุเยอะแล้วอยู่คนเดียว ด้วยเหตุผลว่าจะต้องไปพบคนโน้น ไปทำอย่างนี้เพื่อให้โครงการสำเร็จ
ลืมถามตัวเองไปว่า หากภรรยาไม่ยอมรับ จะใข้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันมา 30 กว่าปีทำไม