คอลัมน์ โลกสองวัย : รายงานตัวครับผม

หายหน้าหายตาไปเดือนหนึ่ง ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ขออนุญาตบรรณาธิการมติชน และบรรณาธิการผู้ดูแลหน้าประชาชื่นไปพักร้อนช่วงปลายร้อนต้นฝนที่วชิรพยาบาล คณะแพทยศาสตร์และพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช คราวนี้ไม่มีกำหนด แต่คุณหมอท่านวินิจฉัยแล้ว ว่าให้ออกมาพักร้อนต่อที่บ้านได้ ไม่ยังงั้นเสียงานเสียการ ประเดี๋ยวท่านผู้อ่านจะลืม “บางกอกเกี้ยน” กับโลกสองวัยกันหมด

สาเหตุต้องไปพักร้อนในโรงพยาบาล เนื่องมาจากอุบัติเหตุอันเกิดจากความซุ่มซ่ามของตัวเองโดยแท้ คือเช้าวันนั้น ต้นเดือนมีนาคม จะเดินเข้าห้องน้ำ ทำความสะอาดสรีระก่อนแต่งกายออกมาทำงานเขียนต้นฉบับเป็นหลัก เอี้ยวตัวหยิบหนังสือพิมพ์ได้กลับเดินหน้าก้าวไม่ดูตาม้าตาเรือ เท้าซ้ายเตะขอบกล่องที่บรรจุของหนักวางบนพื้นหัวมุมอย่างแรง เปรี้ยงเข้าให้ กระเด็นไปโน้น (ตัวครับ ไม่ใช่กล่อง)

ค่อยๆ ลุกขึ้น สำรวจตัวเอง หัวหูไม่เป็นไร เพียงหัวกระแทกลังพลาสติกใส่เสื้อผ้าถากๆ คลำดูรู้ว่าไม่เป็นะไรมาก ส่วนขาแขนไม่บาดเจ็บ ค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้น สำรวจร่างกายอีกครั้ง รู้สึกเจ็บที่ข้างเท้าซ้าย ปลายนิ้วก้อย คล้ายๆ จะซ้น เจ็บแปล๊บๆ พอเดินเขยกได้

จึงแต่งตัวออกไปหาหมอที่นัดดูแลเรื่องหูไว้ก่อนหน้านั้น

Advertisement

หมอกระดูกลองจับๆ บีบๆ ดู สงสัยว่ากระดูกจะแตก ส่งเข้าห้องเอกซเรย์ บ่ายวันนั้น จึงรู้ผลว่ากระดูกบนฝ่าเท้าต่อจากปลายนิ้วก้อย “แตกหักจากกัน !!”

หมอกระดูกดึงปลายผ่าเท้าปลายนิ้วก้อย เจ็บแทบแย่ ขนาดร้องลั่นที่เขาเรียกว่า ร้องเหมือนควายถูกเชือดอย่างไรอย่างงั้น สักสองสามครั้ง

เสร็จแล้วต้องเข้าเฝือกอ่อน ก่อนนัดผ่าตัด!!! ต่อมาอีกสองสัปดาห์ว่ากระดูกจะกลับเข้าที่หรือไม่

Advertisement

เข้าเฝือกอ่อนแล้วทำยังไง ต้องใช้ไม้เท้ายันสองข้างระหว่างเดินน่ะซีครับ

ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) เคยเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ถอยมาชน สะโพกกระแทกพื้นถนน กระดูกกลมต่อกับสะโพกและขาข้างขวาร้าวมาแล้ว เมื่อ 38 ปีก่อน ต้องเข้าโรงพยาบาลกลางผ่าตัดดามเหล็กที่สะโพก กว่าจะหัดเดินด้วยไม้เท้าสองข้างอีก 7 วัน หัดเดินขึ้นบันได เกือบคล่อง จึงออกจากโรงพยาบาลกลับบ้าน

ใช้ไม้ค้ำรักแร้สองข้างเดินพยุงตัวกับขาซ้ายข้างเดียวอีกเกือบปี จึงเลิกใช้ไม้เท้าสองข้าง มาใช้ไม้เท้ามือพยุงข้างเดียวแทนอีกหลายเดือน กว่าจะผ่าตัดเอาเหล็กดามออกอีกปีเศษ

มาคราวนี้ เมื่อเข้าเฝือกอ่อนได้เพียงสองสามวัน หมอให้เปลี่ยนเป็นใช้เฝือกอ่อนที่เรียกว่า “รองเท้าโรบอท” ซึ่งถอดได้เวลานอน หรือเช็ดตัวทำความสะอาดร่างกาย แล้วนัดผ่าตัดอีกสองสัปดาห์ต่อมาปลายเดือนมีนาคม ผ่าตัดงวดนี้ หมอให้นอนโรงพยาบาลรอดูอาการสองสามวัน เนื่องจากข้าพเจ้า (ผู้เขียน) เป็นเบาหวานกับความดันสูง ต้องหยุดยากระตุ้นการสูบฉีดเลือดจากหัวใจขึ้นสมองประเภท แอสไพริน เบบี้ 7 วันล่วงหน้า

ออกจากโรงพยาบาลคราวนี้ หมอเปลี่ยนให้ใช้ “walker” 4 ขาช่วงพยุงการเดินคล่องตัวขึ้น กำชับอย่าใช้เท้าข้างผ่าตัด (ข้างซ้าย) เหยียบพื้นเต็มเท้า ให้ใช้พียงเท้าซ้ายพยุง

สัปดาห์ต่อมา ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ชะล่าใจ คิดเอาเองว่าน่าจะสวมรองเท้า แล้วใช้ไม้เท้ามือพยุงเดินได้จึงสวมรองเท้าหนังคัตชูไปงานวันเกิดข่าวสด วันรุ่งขึ้น นัดหมอตัดไหม เนื่องจากครบสองสัปดาห์ แต่ต้องไปทำความสะอาดแผลทุกวัน กระทั่งพยาบาลห้องทำแผลอนุญาตให้ทำวันเว้นวัน

จากนั้นอีกเพียงสองสัปดาห์ ระหว่างพยาบาลทำแผลบอกว่า ต้องมาทำแผลทุกวันอีกแล้ว แต่ต้องให้หมอตรวจด้วยว่า แผลเริ่มอักเสบขึ้นมาอีก ลูกสาวที่มาดูแล แจ้งกับพยาบาลว่า ขอพบแพทย์บ่ายวันนี้เลยดีกว่า ซึ่งพยาบาลดำเนินการให้ กระทั่งพบหมอทีมผ่าตัดที่ดูแล

เมื่อแพทย์กระดูกเปิดผ้าก๊อซทำแผลดูแผลแล้ว บอกให้ญาติ (ลูกสาว) ว่าต้อง “แอดมิต” วันนี้ ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) มีประชุมสำคัญวันศุกร์ จึงขอเลื่อนนัดเข้าโรงพยาบาล “Admit” วันนั้น ไปอีกสองวัน

เป็นอันตกลง จึงเป็นเหตุที่ต้องหยุดเขียน คอลัมน์ “โลกสองวัย” จากวันนั้นถึงวันนี้ ครับผม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image