คอลัมน์ แท็งก์ความคิด : คำคมจิตรกร

ที่ชั้น 2 ศูนย์การค้าริเวอร์ ซิตี้ แบงค็อก มีนิทรรศการน่าสนใจเกี่ยวกับงานศิลปะ

เดินทางจากต่างประเทศมาจัดแสดงในประเทศไทย

ใช้ชื่องานว่า “From Monet to Kandinsky” มีแสดงจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม

นิทรรศการนี้ไม่ได้แสดงภาพที่รังสรรค์ขึ้นมาใหม่ แต่นำเสนอภาพวาดของศิลปินระดับโลกในรูปแบบใหม่

Advertisement

นั่นคือ Multimedia Exhibition

เป็นการฉายภาพของจิตรกรระดับโลกไปบนผนัง แล้วปล่อยให้ผู้เข้าชมซึมซาบความงาม

การดึงให้ผู้ชมซึมซาบถึงความงามของภาพวาด นอกจากการฉายภาพวาดล้อมรอบผู้ชมแล้ว

Advertisement

ยังคัดสรรบทเพลงคลาสสิกที่ไพเราะมาบรรเลงประกอบ

ที่สำคัญที่น่าจะเป็นหัวใจของการช่วยให้เข้าถึงความงาม คือ การให้ข้อมูลสำคัญก่อนเข้าชม

ข้อมูลที่ให้เป็นประวัติของจิตรกร และบ่งบอกถึงยุคสมัยที่จิตรกรคนนั้นมีชื่อเสียง

สุดท้ายคือการนำเอาถ้อยคำที่จิตรกรคนดังกล่าวเคยพูดไว้

นอกจากนี้ ขณะชมภาพที่นำเสนอบนฝาผนัง ยังปรากฏคำพูดของจิตรกรเจ้าของผลงานเหล่านั้นไปพร้อมๆ กัน

ดูภาพ ฟังเพลงไพเราะ แล้วอ่านข้อมูลสำคัญประกอบ

พริบตาเดียว RCB Galleria ก็กลายเป็นสวรรค์บนดิน สร้างความสุขให้เกิดขึ้นแก่ผู้ชม

ภาพที่นำเสนอครั้งนี้คัดเลือกมาจากจิตรกรชั้นนำ 16 คน

มีทั้งจิตรกรที่อยู่ในยุคอิมเพรสชั่นนิสม์ อย่าง โคลด โมเนต์ (Claude Monet) หรือ แอดการ์ เดอกา (Edgar Degas) หรือ ปีแยร์-โอกุสต์ เรอนัวร์ (Pierre August Renoir) ที่วาดภาพจากสิ่งที่เห็น

เห็นแสงตามหลักวิทยาศาสตร์ที่แบ่งเป็น ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง

มีทั้งจิตรกรในยุคโพสต์อิมเพรสชั่นนิสม์ อย่าง อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก (Henri Toulouse-Lautrec) หรือ วินเซนต์ แวน โก๊ะ (Vincent Van Gogh) หรือ ปอล โกแก็ง (Paul Gauguin)

และจิตรกรในยุคนีโอ-อิมเพรสชั่นนิสม์ อย่าง ปอล เซซาน (Paul Signac) ที่ถ่ายทอดภาพออกมาเป็นจุดๆ

จิตรกรกลุ่มนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่จิตรกรรุ่นต่อไป พัฒนากลายเป็นยุคสมัยใหม่ๆ

ทั้งยุคเอ็กซ์เพรสชั่นนิสม์ ที่มีจิตรกรอย่าง เอ็ดเวิร์ด มุงค์ (Edward Munch) หรือ อเมดีโอ โมดิลยานิ (Amedeo Modigliani) หรือ วาชิลี คันดินสกี (Wassily Kandinsky) หรือ พอล คลี (Paul Klee)

ทั้งจิตรกรในกลุ่มคิวบิส์ม อย่าง ฆวน กริส (Juan Gris) จิตรกรแบบอาร์ต นูโว สัญลักษณ์นิยม อย่าง กุสตาฟ คลินท์ (Gustav Klimt)

รวมถึงจิตรกรในศิลปะนามธรรมหรือแอ็บสแตร็ก อย่าง พีท มอนเดรียน (Piet Mondrian)

ผลงานแต่ละชิ้นของจิตรกรแต่ละคนมีความแตกต่าง และมีความโดดเด่น

ความบันเทิงนอกจากภาพที่เคลื่อนไหวอยู่บนฝาผนังแล้ว ยังมีคำคมของบรรดาจิตรกรชื่อดังที่ถ่ายทอดออกมา

ช่วยตอบคำถามว่าเขาคิดอะไรเกี่ยวกับศิลปะ มีมุมมองอย่างไรกับชีวิต

ยกตัวอย่าง โคลด โมเนต์ บอกว่า “ผมสามารถวาดเพียงสิ่งที่ผมเห็น”

แอดการ์ เดอกา เสนอว่า “ศิลปะไม่ใช่สิ่งที่คุณเห็น แต่เป็นสิ่งที่คุณทำให้คนมองเห็น”

ขณะที่ วาชิลี คันดินสกี บอกว่า “ไม่มีกฎข้อบังคับในศิลปะ เพราะศิลปะคืออิสรภาพ”

หรือมุมมองแห่งการเริ่มต้นที่ วาชิลี คันดิสกี ระบุว่า “ทุกสิ่งสรรพล้วนเริ่มต้นจากจุดๆ หนึ่ง”

พอล คลี เห็นว่า “ศิลปะไม่ได้สร้างสรรค์สิ่งที่มองเห็นได้ขึ้นมาใหม่ แต่ทำให้เรามองเห็นสิ่งเหล่านั้นต่างหาก”

และ “ศิลปะไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่สร้างขึ้นมาสำหรับทุกคน”

ส่วน กุสตาฟ คลินท์ นั้นมองว่า “ศิลปะคือเส้นที่รายล้อมรอบความคิดของคุณ”

ยังมี พีท มอนเดรียน ที่อธิบายศิลปะนามธรรม หรือแอ็บสแตร็ก

“ศิลปะนามธรรมไม่ใช่การสรรค์สร้างขึ้นมาจากความจริงอย่างอื่น แต่เป็นการมองเห็นความจริงอย่างแท้จริง”

ทางด้าน แวน โก๊ะ บอกว่า “ไม่มีอะไรเป็นศิลปะที่แท้จริงได้มากไปกว่าการรักผู้คน”

ผิดกับ เอ็ดเวิร์ด มุงค์ ที่ชีวิตตกอยู่ในความทุกข์ จึงพลิกวิกฤตเป็นโอกาส โดยนำความทุกข์นั้นมาสร้างผลงาน

“ตั้งแต่ผมจำความได้ ผมต้องทนทุกข์ทรมานจากความวิตกกังวลอย่างมาก ซึ่งผมพยายามแสดงในงานศิลปะ หากปราศจากความกังวลและความเจ็บป่วย ผมคงเป็นเหมือนเรือที่ปราศจากหางเสือ”

สำหรับมุมมองเกี่ยวกับชีวิตออกมา

อ็องรี เดอ ตูลูซ-โลแทร็ก บอกว่า “สิ่งที่ดีเยี่ยมที่สุดที่คุณจะได้เรียนรู้คือการมอบความรักและได้รับความรักกลับมา”

ขณะที่ อามาดิโอ โมดิกลิอานี มองไปถึงความฝัน

“พันธกิจในชีวิต คือการปกปักรักษาความฝัน”

คำคมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นความคิด และทำให้ก่อเกิดความงามขึ้นขณะชมภาพ ท่ามกลางบทเพลงที่ไพเราะ

เป็นความงาม ที่สร้างความสุขสงบ

สงบทางตาจากภาพ สงบทางโสตจากบทเพลง

และสงบทางใจจากการซึมซาบความงามจากภาพ เพลง และข้อคิดคำคมที่กลั่นมาจากประสบการณ์จริงในชีวิตจิตรกร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image