สุจิตต์ วงษ์เทศ : ไทยเลียนแบบพม่า ประชาธิปไตยปลอมปน

กิจกรรมปลุกระดมจงเกลียดจงชังพม่า เป็นประวัติศาสตร์บาดหมางสร้างบาดแผลให้ชังเพื่อนบ้าน ควรเลิกได้แล้ว (ภาพจาก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดอ่างทอง https://angthong.mots.go.th/news_view.php?nid=708)

ประชาธิปไตยปลอมปน ต้องยอมจำนนฝ่ายทหารรักษาอำนาจสำคัญไว้ เป็นงานบัญชาของเผด็จการไทยเลียนแบบเผด็จการพม่า พบคำอธิบายง่ายๆ สั้นๆ จากผู้รู้ ดังนี้

“ประชาธิปไตยไทยขณะนี้ใกล้เคียงพม่ามากที่สุด

พม่าปกครองแบบเผด็จการมากว่า 50 ปี แม้จะยอมปล่อยมือให้เป็นประชาธิปไตย มีการเลือกตั้ง แต่ไม่เต็มใบ ฝ่ายทหารยังรักษาอำนาจไว้ส่วนหนึ่ง คือ การแต่งตั้งสมาชิก 2 สภา สภาละ 25% และสงวนเก้าอี้ 3 รัฐมนตรีสำคัญไว้ ได้แก่ รัฐมนตรีกลาโหม มหาดไทย และความมั่นคง

สมาชิก 25% ของสภาที่ทหารแต่งตั้ง นอกจากจะมีอำนาจตามปกติแล้ว ยังมีอำนาจพิเศษ คือยับยั้งการแก้ไขรัฐธรรมมูญ

Advertisement

เพราะฉะนั้นพรรคอองซาน ซูจี แม้จะชนะเลือกตั้งท่วมท้นทั้งสองสภา แต่แก้ไขรัญธรรมมูญไม่สำเร็จ ซูจีก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีไม่ได้

ประชาธิปไตยไทยจึงเหมือนกับพม่ามากกว่าประเทศใดในเอเชีย”

[บทนำ ไทยรัฐ ฉบับวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2562 หน้า 3]

Advertisement

เลียนแบบไม่รบกัน

ไทยรบพม่า เป็นข้อความครอบงำสังคมไทยให้มีอคติว่าพม่าเป็นศัตรูทางประวัติศาสตร์ จึงมีกิจกรรมปลุกใจให้ไทยเกลียดพม่าอย่างต่อเนื่องยาวนานจนทุกวันนี้

พม่าไม่ได้รบไทย ในประวัติศาสตร์ไทยรบพม่า เพราะพม่าไม่มีสำนึกว่าไทยเป็นศัตรูทางประวัติศาสตร์ จึงไม่มีกิจกรรมปลุกใจให้พม่าเกลียดไทย ส่วนที่มีสงครามต่อกัน นั่นเป็นเรื่องของพระเจ้าแผ่นดินอังวะหรือหงสาวดี รบกับพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา (ไม่ใช่ประชาชนพม่ายาตราทัพรบประชาชนไทย)

เมื่อไทยเลียนแบบพม่าเรื่องประชาธิปไตยปลอมปน ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วควรเลียนแบบพม่าไม่ได้รบไทย ว่าไทยไม่รบพม่า แล้วเลิกกิจกรรมปลุกใจไทยเกลียดพม่า

ความขัดแย้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ-สังคม จนเกิดสงครามเป็นเรื่องปกติในรัฐจารีตทั่วโลก แต่ไม่ฉวยยกแสดงยั่วยุปลุกปั่นคนชังกันอย่างที่ชอบประพฤติทุกวันนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image