คอลัมน์ โลกสองวัย : ปาฏิหาริย์!!! มีจริง

วันนี้ พรุ่งนี้ เป็นวันสิ้นเดือน ที่มนุษย์เงินเดือนรอคอย ได้มากได้น้อยก็ต้องคอย แม้หลายแห่งจะกำหนดออกเงินเดือนก่อนหน้านี้ เป็นวันที่ 28 หรือ 29 ก็ตาม ทั้งบางแห่งเงินเดือนออก 2 ครั้ง คืองวดกลางเดือน วันที่ 15 และวันที่ 30-31 ของเดือน แต่ส่วนใหญ่มักออกวันสิ้นเดือนคือวันที่ 30 หรือ 31

เขาบอกว่า วันสิ้นเดือน หรือวันเงินเดือนออก เป็นวันที่มนุษย์เงินเดือนทั้งชอบใจและไม่ชอบใจด้วยเหตุสองสามประการ ผู้ที่ใช้จ่ายเงินเดือนล่วงหน้า หรือเบิกเงินเดือนมาใช้จ่ายก่อน ทุกวันนี้คงหายาก มีแต่ว่าเบิกจากเงินเดือนล่วงหน้าผ่านเอทีเอ็มมีแน่นอน หรืออาจกู้เงินจากแคชเชียร์มาก่อน วันเงินเดือนออกให้หัก ณ ที่จ่ายได้

ทุกวันนี้ระบบจ่ายเงินผ่านเข้าบัญชีธนาคารส่วนใหญ่ ทั้งส่วนใหญ่ยังผ่านระบบอะไรต่อมิอะไร เช่นระบบ e ทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ยังไม่สันทัด และยังไม่ใช้วิธีนั้น คงใช้วิธีใหม่ขึ้นมาหน่อยหนึ่ง คือเงินเดือนและเงินพิเศษอื่นที่ได้รับจากบริษัทเข้าบัญชีเงินออมทรัพย์ ถึงสิ้นเดือนใช้บัตรเอทีเอ็มไป “กด” ออกมา ไม่ทั้งหมด เหลือติดบัญชีไว้บ้าง พอเป็นกระสาย หรือเบิกออกมาใช้จ่ายเฉพาะช่วงนั้น เป็นต้น

วันนี้ ผู้ที่เป็นหนี้ “นอกระบบ” น่าจะยังคงให้เจ้าหนี้เก็บบัตรเอทีเอ็ม ไว้ด้วยตัวเอง ถึงเวลาเงินเดือนออกจึงไปกดออกตามจำนวนเงินที่ตกลงกัน คือหักเป็นงวดๆ ไม่รู้ว่าเงินต้นหมดเมื่อไหร่ รู้แต่ว่าให้หมด หรือหมดแล้ว “กู้” ต่อ

Advertisement

ถึงวันสิ้นเดือนทีหนึ่ง หากลูกหนี้ไม่ให้เจ้าหนี้ถือบัตรเอทีเอ็มไว้ ต้องมารอหน้าตู้เอทีเอ็ม ให้ลูกหนี้มา “กด” เงินคืนเจ้าหนี้ แล้วเก็บไว้ใช้ส่วนตัว ตามแต่จะตกลงกัน

ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ชอบเปิดอ่าน “ไลน์” ซึ่งมีทั้งเรื่องจริงและเรื่องไม่จริง ข้าพเจ้า (ผู้เขียน) ไม่ค่อยถือสา

บางเรื่องเป็นลักษณะนิยาย บางเรื่องมีลักษณะนิทาน บางเรื่องเป็นเรื่องเล่า รู้อะไรนำมาเล่าให้ฟัง สนุกสนาน เฮฮาไปตามเรื่อง บางเรื่องเหมือนจริงและผู้รู้นำมาเพิ่มเติมขึ้น ทำให้เรื่องน่าสนใจ เช่นเรื่องนี้

Advertisement

ชื่อว่า “ปาฏิหาริย์มีจริง” ท้ายเรื่องบอกที่มา “fb Mongkhonrata Sukhasvasdi”

เรื่องเกิดขึ้นในวันขึ้นปีใหม่ เจ้าของเรื่องบอกว่า มีรายการจับสลากเช่นเดียวกับทุกปี กฎในการจับสลากคือ พนักงานแต่ละคนจะมอบเงินคนละ 200 บาท เป็นกองทุน ซึ่งบริษัทมีพนักงาน 300 คน จะมีกองทุนรวม 60,000 บาท สำหรับผู้โชคดีที่จับสลากขึ้นมา จะได้รับเงินทั้งหมดกลับบ้าน

ทั้งบรรยากาศในงานเลี้ยง ซึ่งจะมีการจับสลาก ต่างคนต่างมีความหวังด้วยกันทั้งสิ้น ทุกคนต้องเขียนชื่อตัวเองลงในสลาก ให้ผู้ที่เป็นหัวหน้างานจับสลากขึ้นมา เป็นชื่อใคร คนนั้นจะได้รับรางวัล

พนักงานหนุ่มคนหนึ่งลังเลว่าจะเขียนชื่อตัวเองดี หรือเขียนชื่อแม่บ้านที่รู้มาว่า เธอกลุ้มใจที่ลูกชายป่วย อยู่ระหว่างรอผ่าตัด แต่เธอมีเงินไม่พอ และโอกาสที่จะจับสลากชื่อเธอเลือนลางมาก ชื่อตั้ง 300 ชื่อ

ที่สุด พนักงานหนุ่มตัดสินใจเขียนชื่อแม่บ้านลงในสลาก อย่างน้อย แม่บ้านมีสลาก 2 แผ่นจาก 300 แผ่น

แล้วช่วงเวลาสำคัญและตื่นเต้นมาถึง เมื่อผู้จัดการซึ่งจะเป็นผู้จับสลากให้ พนักงานหนุ่มอธิษฐานในใจว่าขอให้แม่บ้านทำความสะอาดได้รางวัลด้วยเถอะ เชื่อว่าแม่บ้านคงอธิษฐานเช่นเดียวกันหนุ่มคนนั้น แม้ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

ในที่สุด (ครับ ไม่ต้องเดา) ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นจริง ผู้ได้รับการจับฉลากขึ้นมาคือชื่อของแม่บ้านทำความสะอาดคนนั้นจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นชิ้นที่เธอเขียน หรือชิ้นที่หนุ่มเขียน

เสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังขึ้นทั่วสำนักงาน แม่บ้านทำความสะอาดขึ้นไปรับเงินทุนก้อนนั้นด้วยใจระทึก มือไม้สั่นไปหมด เธอกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ณ เวลานั้น กล่าวคำขอบคุณด้วยเสียงสั่นเครือ

“ฉันโชคดีจริงๆ เงินก้อนนี้คงช่วยให้ความเดือดร้อนของฉันและลูกชายได้มากเลยค่ะ”

…เมื่องานเลี้ยงเลิกรา พนักงานหนุ่มคนนั้นยังคิดเรื่องปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นไม่หยุด ก่อนตัดสินใจเดินไปที่กล่องจับสลาก แล้วลองหยิบใบสลากขึ้นมาใบหนึ่ง คลี่ออกดูชื่อ เป็นชื่อของแม่บ้านคนนั้น !!!

เขาชักประหลาดใจ จึงหยิบสลากขึ้นมาอีกใบและอีกใบ เปิดดูเป็นชื่อของแม่บ้านเหมือนกัน แต่ลายมือแตกต่างกันทั้งสิ้น พนักงานหนุ่มถึงกับน้ำตาซึม เข้าใจได้ทันทีว่า ปาฏิหาริย์มีจริง เพียงแต่มิได้หล่นมาจากฟ้า เป็นปาฏิหาริย์ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเอง … เราต้องรู้จักรักเพื่อนร่วมงาน เห็นใจซึ่งกันและกัน สังคมจึงเป็นสุข และ…เราเป็นสุขด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image