คอลัมน์ แท็งก์ความคิด : อัจฉริยะต้องสร้าง

เอสซีจีชวนไปดูภาพยนตร์ทรงคุณค่า โปรเม “อัจฉริยะ/ต้?ง/สร้าง” ที่โรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน

มี นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เป็นประธานกล่าวเปิด

มี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (อทช.) ร่วมในพิธีมอบ “บ้านปลา” ให้นายกสมาคมประมงพื้นบ้าน จังหวัดระยอง

มีการสัมภาษณ์พิเศษ “โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล” ซึ่งอยู่ที่ประเทศแคนาดาก่อนจะชมภาพยนตร์

Advertisement

วันที่ไปชมภาพยนตร์คือวันที่ 14 สิงหาคม แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในโรงหนังตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้บอกเล่าเรื่องราวของ “โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล”

และ “โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล” พี่สาว

ทั้งคู่เป็นนักกอล์ฟสาวชาวไทยที่เติบโตจนไปยืนอยู่แถวหน้าของโลก

ภาพยนตร์เรื่องนี้ตอบคำถามที่ว่าทำไมสาวไทย 2 คนจึงก้าวไปยืนอยู่ในอันดับต้นของวงการกอล์ฟระดับโลกได้

ค้นประวัติจากโต๊ะข่าวกีฬามติชน พบว่า โปรเมและโปรโม ต่างมีความโดดเด่นในกีฬากอล์ฟอย่างสูง

โปรเม เป็นนักกอล์ฟคนแรกของไทยที่คว้าแชมป์กอล์ฟอาชีพในแอลพีจีเอทัวร์ เมื่อปี 2016

เป็นผู้คว้าแชมป์ในรายการเมเจอร์บริติช วีเมนส์ โอเพ่น

ได้รับรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยม 2 สมัย คือปี 2016 และ 2018

ส่วน โปรโม พี่สาวนั้นได้แชมป์แอลพีจี เมื่อปี 2018

ทั้งคู่ยืนเด่นเป็นสง่าในอันดับนักกอล์ฟหญิงของโลก

กลายเป็นพี่น้องคู่ขวัญที่เอาดีด้านกอล์ฟได้ในห้วงเวลาร่วมสมัย

เธอทั้งคู่ก้าวมาสู่จุดนี้ได้อย่างไร? เชิญไปชมภาพยนตร์ “โปรเม อัจฉริยะต้?งสร้าง”

ภาพยนตร์เรื่องนี้มี คริสซี่-กฤษณ์สิรี สุขสวัสดิ์ รับทเป็นโปรเม ปริม-อัจฉรียา โพธิพิพิธธนากร แสดงเป็นโปรโม

มี ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ รับบทเป็นคุณพ่อสมบูรณ์ จุฑานุกาล ซึ่งเป็นพ่อของโปรเมและโปรโม

มี หัทยา วงศ์กระจ่าง รับบทแม่เปิ้ล-นฤมล ติวัฒนาสุข แม่อันเป็นที่รักของโปรเมและโปรโม

ภาพยนตร์เริ่มต้นจากฉากการแข่งขันในรายการ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 2013 ที่โปรเมเกือบจะได้เแชมป์

แต่เธอก้าวไปไม่ถึงฝันในครั้งนั้น เพราะพัตพลาดหลุมที่ 18 หรือหลุมสุดท้าย

จากนั้นภาพยนตร์ได้ย้อนกลับไปสู่อดีต แล้วเริ่มต้นเล่าเรื่องของโปรเม และโปรโม

ใครที่ไม่เชี่ยวชาญกฎกติกาการเล่นกอล์ฟ ไม่ต้องกังวลว่า ดูหนังแล้วไม่เข้าใจกติกากอล์ฟ เพราะเนื้อเรื่องมีฉากสอนกติกากอล์ฟให้ทราบคร่าวๆ

เป็นการให้ความรู้เพื่อเพิ่มอรรถรสในการดูได้อย่างดี

คือ ไม่มากไป และไม่น้อยไป

เนื้อหาของภาพยนตร์ มองมุมหนึ่งอาจจะเป็นเรื่องหนัก เพราะแต่ละฉากสร้างปมปัญหาให้ผู้ชมตัดสินใจอยู่ภายใน

ถูกหรือผิด ควรหรือไม่ สุดโต่งไปไหม อะไรทำนองนี้

โดยเฉพาะวิธีการเลี้ยงดูและบ่มเพาะที่พ่อคนหนึ่งมีต่อลูกสาว 2 คน

ฉากหนึ่ง ตัวละครที่เป็นแคดดี้ประจำตัวโปรเม ได้ถามโปรเมว่า What really do you want ?

เป็นคำถามที่โปรเมต้องตอบ เพราะนี่คือเป้าหมายที่โปเมต้องเลือก

จริงๆ แล้วคำถามนี้เป็นคำถามที่ทุกคนในโลกใบนี้ต้องตอบกับตัวเอง

ตอบคำถามให้ตัวเองว่าจริงๆ แล้วคุณต้องการอะไร

คำถามนี้เป็นเพียงจุดจุดหนึ่งในอีกหลายๆ จุดในภาพยนตร์ที่ชวนให้คิด

สำหรับภาพรวมของภาพยนตร์ที่สร้างความประทับใจในการชม คือ จิตใจที่เข้มแข็งของโปรเมและโปรโม

มีความอดทน สามารถดำรงอยู่ และก้าวต่อไปสู่ความสำเร็จได้

เมื่อพ่อบังคับให้ต้องฝึก ก็สามารถอยู่ในสภาพที่เข้มงวดนั้นได้

เมื่อเผชิญหน้ากับความสะเทือนใจ ก็สามารถดำรงอยู่อย่างอดทน

เมื่อบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจนต้องหยุดการแข่งขัน ก็มุมานะที่จะฟื้นฟู

และหวนคืนสู่ความสำเร็จอีกครั้ง

เมื่อถึงเวลาที่ต้องเป็นอิสระ ก็ไม่ลังเลที่จะปลดแอกตัวเองออกจากพันธนาการ

และพร้อมเผชิญกับความลำบากที่เกิดขึ้น

สุดท้ายคือความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับการให้อภัย

ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วกระตุ้นความทรงจำถึงถ้อยคำที่เคยได้ยิน

อย่ามองแค่ความสำเร็จของผู้คนที่อยู่เบื้องหน้า แต่ให้ศึกษาชีวิตของเขาในเบื้องหลังว่าอะไรถึงทำให้สำเร็จ

เพราะทุกๆ ความสำเร็จต้องผ่านความล้มเหลวมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

คนที่ประสบความสำเร็จต้องผ่านประสบการณ์ต่างๆ มาอย่างอดทน

ตอกย้ำแนวคิดที่ว่าความสำเร็จจะเกิดขึ้นด้วยการลงมือทำ

รวมถึงความเป็นอัจฉริยะที่เดิมคิดว่าเป็นไปตามพระพรหมลิขิต

แต่เมื่อชมภาพยนตร์เรื่องนี้จบจะพบว่าเราสามารถลิขิตชีวิตตัวเอง

ทุกอย่างสามารถสร้างได้ด้วยมือเรา

แม้แต่ความเป็น “อัจฉริยะ” ก็ยัง “ต้องสร้าง” ขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเราเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image