ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
“ไทย ไม่เหมือนใครในโลก” ตามประวัติศาสตร์บาดหมางสร้างบาดแผลของเผด็จการทหารในไทย ถ้าไม่ลดละเลิก แล้วยอมรับความจริงว่าไทยไม่ต่างจากอุษาคเนย์เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่แยกไม่ได้จากอุษาคเนย์ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะ “เชื่อมไทย กว้างไกล เชื่อมโลก” อย่างราบรื่น
อิมพอสซิเบิล
“การพัฒนาเชิงพื้นที่ คือ การดึงศักยภาพของแต่ละพื้นที่ออกมาให้ได้ เพราะหลายเรื่องประเทศไทยมีอยู่เฉพาะตัว ทั้งด้านเกษตร, ธรรมชาติ, กีฬา, ศิลปวัฒนธรรม”
“เมื่อดึงออกมาแล้วสร้างมูลค่าเพิ่มให้ได้ เช่น การทำออกมาเป็นสินค้าโอท็อป หรือการท่องเที่ยวเมืองหลักเมืองรอง แล้วไปเชื่อมโยงกับประเทศรอบๆ บ้านให้ได้”
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวเปิดประชุมและปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “พัฒนาพื้นที่ไทย : เชื่อมไทย กว้างไกล เชื่อมโลก จัดโดยสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)
ตอนเช้าวันพุธที่ 18 กันยายน 2562 (ไทยรัฐ ฉบับวันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน 2562 หน้า 8)
“การท่องเที่ยวเมืองหลักเมืองรองแล้วไปเชื่อมโยงกับประเทศรอบๆ บ้าน” ตามที่นายกฯ ประยุทธ์พูด แต่ทางปฏิบัติจะเป็นจริงได้ยาก หรือเป็นไปไม่ได้เลยตราบที่เผด็จการทหารมีอำนาจ
เพราะเผด็จการทหารชู “ประวัติศาสตร์บาดหมางสร้างบาดแผล” กับเพื่อนบ้านรอบๆ (อันเป็นสิ่งที่เสกสรรปั้นแต่งขึ้นเองโดยคนชั้นนำสมัยก่อนๆอย่างไม่พบหลักฐานใดๆ สนับสนุน) แล้วไม่ยอมแก้ไขตามหลักฐานวิชาการประวัติศาสตร์โบราณคดีอันเป็นที่รับรู้ทั่วโลก (ยกเว้นเผด็จการทหารในไทย) ว่าไทยกับอุษาคเนย์มีความเป็นมาร่วมกันหลายพันปีมาแล้วอย่างแยกจากกันมิได้
แต่ประวัติศาสตร์บาดหมางสร้างบาดแผลของเผด็จการทหารตอกย้ำว่า “ไทยไม่เหมือนใครในโลก” ซึ่งเท่ากับ “ยกตนข่มท่าน” แยกไทยอยู่โดดเดี่ยวไม่เกี่ยวดองเพื่อนบ้านเพชรในมือลิง
เพชรในมือลิง
“ไทยเป็นประเทศที่ได้เปรียบเชิงภูมิรัฐศาสตร์ หรือฮวงจุ้ยดี ตั้งอยู่ศูนย์กลางของภูมิภาค แม้มีการเปลี่ยนแปลงในโลก เช่น จีนมีเส้นทางสายไหมใหม่ ไทยก็ได้ประโยชน์ด้วย”
“แต่ก็ต้องเสริมโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อให้เกิด game changer หรือตัวเปลี่ยนเกมเพื่อใช้ประโยชน์จากภูมิรัฐศาสตร์ให้ได้เปรียบมากขึ้น”
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวในที่ประชุมพัฒนาพื้นที่ไทยฯ
นอกจากเสริมโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ตามที่เลขาฯ สศช. บอกแล้ว ยังต้องปรับและเปลี่ยนความรู้พื้นฐานทางประวัติศาสตร์ด้วย โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ไทยเป็นส่วนหนึ่งที่แยกไม่ได้จากประวัติศาสตร์อุษาคเนย์ (หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
ถ้าไม่ปรับและไม่เปลี่ยนความรู้พื้นฐานทางประวัติศาสตร์ ความได้เปรียบเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของไทยก็งั้นๆ เหมือนของดีมีอยู่ แต่ไม่รู้จักใช้ของดี ดังคำกลอนเก่าว่า “เพชรดีมีค่าราคายิ่ง อยู่กับลิงจะรู้ค่าราคาหรือ”