ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | บางกอกเกี้ยน [email protected] |
เผยแพร่ |
นําเรื่อง “70 ปีแห่งความพากเพียรของประชาชาติจีน จีน-ไทย จับมือก้าวสู่ยุคสมัยใหม่” บางส่วนมาให้น้องหนูได้อ่าน เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีวันชาติจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 และเนื่องในโอกาสที่สาธารณรัฐประชาชนจีนถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์ระดับสูงสุดสำหรับชาวต่างประเทศแด่สมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นการเชิดชูและยกย่องที่พระบรมวงศานุวงศ์ของไทยส่งเสริมความสัมพันธ์จีน-ไทย มาเป็นระยะเวลายาวนาน ทั้งเป็นการ “รู้เขารู้เรา” พร้อมกันไป
อีกประการหนึ่งข้าพเจ้า (ผู้เขียน) เคยไปประเทศจีน เมื่อครั้งจีนเพิ่งเปิดประเทศใหม่ๆ ได้รับเชิญจาก องค์การสื่อสารมวลชนนครหลวงแห่งปักกิ่ง ผ่านสำนักข่าวซินหัวเชิญนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยผ่านสามสมาคมฯ ระหว่างวันที่ 20 กันยายน- 8 ตุลาคม 2521 และมีโอกาสร่วมงานวันชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนค่ำวันที่ 30 กันยายน 2521 ณ มหาศาลาประชาชนจีน ในกรุงปักกิ่ง
คณะที่ได้รับเชิญประกอบด้วย สมบูรณ์ วรพงษ์ นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หัวหน้าคณะ กำแหง ภริตานนท์ เลขาธิการสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ชอบ มณีน้อย นายกสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ รองหัวหน้าคณะ วิทยา ตัณฑสุทธิ์ เลขาธิการสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยฯ เจน จำรัสศิลป์ กรรมการสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย และข้าพเจ้า (ผู้เขียน) รองเลขาธิการสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย รวม 6 คน
สาธารณรัฐประชาชนจีนปีนั้น ครบรอบ 29 ปี ล่ามบอกว่า ปีหน้า ครบ 30 ปี จึงจะจัดงานฉลองวันชาติที่ยิ่งใหญ่ ช่วงค่ำวันนี้ (30 กันยายน) จะพาคณะพวกเราไปร่วมงานฉลองวันชาติที่ศาลามหาประชาชน
เนื่องจากบัตรเชิญของคณะเรามี 10 ใบ รวมล่ามและหัวหน้าฝ่ายของซินหัว พอดีกับที่นั่ง “โต๊ะจีน”
ศาลามหาประชาชนจีน อยู่ด้านหนึ่งของจตุรัสเทียนอันเหมิน ตรงข้ามพระราชวัง เมื่อถึงหน้ามหาศาลาประชาชนจีน ในห้องเป็นโถงกว้างใหญ่ ไม่มีเสาตรงกลาง ด้านหน้าเป็นเวที ในบริเวณตั้งโต๊ะอาหาร บนโต๊ะวางจานชามอาหารเต็มหมด หน้าเก้าอี้บนโต๊ะมีชื่อแต่ละคนวางไว้ให้ทราบว่าใครนั่งตรงไหน
สถานที่แห่งนี้ใช้ในงานเลี้ยงสำคัญ โดยเฉพาะแขกของรัฐบาลจีนระดับผู้นำประเทศ และใช้เป็นที่ประชุมสภาประชาชน เป็นที่ประชุมสมาชิกพรรคประจำปี และใช้เป็นที่รับรองแขกรัฐบาลเมื่อเข้าพบปะผู้นำจีน โดยแบ่งออกเป็นหลายห้อง
อาหารทุกอย่างวางพร้อมไว้บนโต๊ะ มีกระดาษแก้วคลุม ครั้นได้เวลา 19.30 น. วงโยทวาธิตของกองทัพปลดแอกบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ รับประธาน ฮว่า โก๊ะ เฟิ่ง ทุกคนยืนต้อนรับพร้อมปรบมือเข้าจังหวะเพลง เมื่อประธาน ฮว่า โก๊ะ เฟิ่ง เข้าสู่ที่นั่ง โต๊ะยาวด้านหน้าสุดของห้อง เสียงเพลงชาติจีนใหม่ดังกระหึ่มขึ้นด้วยท่วงทำนองเร้าใจในเนื้อเพลง
เหล้าเหมาไถ กับไวน์แดงอย่างดี บรรจงรินลงในแก้วก้านสูงขนาดเล็ก บริกรชายหญิงคุมโต๊ะจำนวนหนึ่งทำหน้าที่แข็งขัน ใบหน้าเรียบเฉย แต่ไม่เฉยเมย หลังรินเหล้าก็ถามว่า เอาเบียร์หรือน้ำส้มล้างคอ แล้วรินใส่แก้วให้ตามนั้น
แสงไฟเจิดจ้าส่องสว่าง ประธานฮว่าเดินขึ้นไปบนแท่นกล่าวคำปราศรัย ช่างภาพทั้งจากสถานีโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ของจีนทำหน้าที่คล่องแคล่ว คำปราศรัยพิมพ์เป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษแจกไปตามโต๊ะ ก่อนการปราศรัยจะเริ่ม
เสียงประธานฮว่าพูดดังไปทั่วบริเวณนั้น สลับกับเสียงปรบมือเป็นครั้งคราวเมื่อย้ำถึงเจตนารมณ์ของจีนที่จะเดินตามลัทธิมาร์ก-เลนิน และความคิดประธานเหมา ย้ำถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของประเทศในโลกที่สาม-ตัวแทนรัฐบาลจากโลกที่สามปรบมือพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะชนชาติผิวใด….
แล้วประธานฮว่าก็ขอเชิญชวนให้ทุกคนดื่มเพื่อความสามัคคีของประชาชนทั่วโลก
บริกรรินเหมาไถอีกครั้งและอีกครั้ง เสียง “กันเปย” ดังในแต่ละโต๊ะ