คอลัมน์ โลกสองวัย : ย้อนรำลึกวันชาติจีน 41 ปี ณ ศาลามหาประชาชน

นําเรื่อง “70 ปีแห่งความพากเพียรของประชาชาติจีน จีน-ไทย จับมือก้าวสู่ยุคสมัยใหม่” บางส่วนมาให้น้องหนูได้อ่าน เนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปีวันชาติจีน เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 และเนื่องในโอกาสที่สาธารณรัฐประชาชนจีนถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์ระดับสูงสุดสำหรับชาวต่างประเทศแด่สมเด็จพระกนิษฐา ธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นการเชิดชูและยกย่องที่พระบรมวงศานุวงศ์ของไทยส่งเสริมความสัมพันธ์จีน-ไทย มาเป็นระยะเวลายาวนาน ทั้งเป็นการ “รู้เขารู้เรา” พร้อมกันไป

อีกประการหนึ่งข้าพเจ้า (ผู้เขียน) เคยไปประเทศจีน เมื่อครั้งจีนเพิ่งเปิดประเทศใหม่ๆ ได้รับเชิญจาก องค์การสื่อสารมวลชนนครหลวงแห่งปักกิ่ง ผ่านสำนักข่าวซินหัวเชิญนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยผ่านสามสมาคมฯ ระหว่างวันที่ 20 กันยายน- 8 ตุลาคม 2521 และมีโอกาสร่วมงานวันชาติสาธารณรัฐประชาชนจีนค่ำวันที่ 30 กันยายน 2521 ณ มหาศาลาประชาชนจีน ในกรุงปักกิ่ง

คณะที่ได้รับเชิญประกอบด้วย สมบูรณ์ วรพงษ์ นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หัวหน้าคณะ กำแหง ภริตานนท์ เลขาธิการสมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ชอบ มณีน้อย นายกสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ รองหัวหน้าคณะ วิทยา ตัณฑสุทธิ์ เลขาธิการสมาคมหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยฯ เจน จำรัสศิลป์ กรรมการสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย และข้าพเจ้า (ผู้เขียน) รองเลขาธิการสมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย รวม 6 คน

สาธารณรัฐประชาชนจีนปีนั้น ครบรอบ 29 ปี ล่ามบอกว่า ปีหน้า ครบ 30 ปี จึงจะจัดงานฉลองวันชาติที่ยิ่งใหญ่ ช่วงค่ำวันนี้ (30 กันยายน) จะพาคณะพวกเราไปร่วมงานฉลองวันชาติที่ศาลามหาประชาชน

Advertisement

เนื่องจากบัตรเชิญของคณะเรามี 10 ใบ รวมล่ามและหัวหน้าฝ่ายของซินหัว พอดีกับที่นั่ง “โต๊ะจีน”

ศาลามหาประชาชนจีน อยู่ด้านหนึ่งของจตุรัสเทียนอันเหมิน ตรงข้ามพระราชวัง เมื่อถึงหน้ามหาศาลาประชาชนจีน ในห้องเป็นโถงกว้างใหญ่ ไม่มีเสาตรงกลาง ด้านหน้าเป็นเวที ในบริเวณตั้งโต๊ะอาหาร บนโต๊ะวางจานชามอาหารเต็มหมด หน้าเก้าอี้บนโต๊ะมีชื่อแต่ละคนวางไว้ให้ทราบว่าใครนั่งตรงไหน

สถานที่แห่งนี้ใช้ในงานเลี้ยงสำคัญ โดยเฉพาะแขกของรัฐบาลจีนระดับผู้นำประเทศ และใช้เป็นที่ประชุมสภาประชาชน เป็นที่ประชุมสมาชิกพรรคประจำปี และใช้เป็นที่รับรองแขกรัฐบาลเมื่อเข้าพบปะผู้นำจีน โดยแบ่งออกเป็นหลายห้อง

อาหารทุกอย่างวางพร้อมไว้บนโต๊ะ มีกระดาษแก้วคลุม ครั้นได้เวลา 19.30 น. วงโยทวาธิตของกองทัพปลดแอกบรรเลงเพลงมหาฤกษ์ รับประธาน ฮว่า โก๊ะ เฟิ่ง ทุกคนยืนต้อนรับพร้อมปรบมือเข้าจังหวะเพลง เมื่อประธาน ฮว่า โก๊ะ เฟิ่ง เข้าสู่ที่นั่ง โต๊ะยาวด้านหน้าสุดของห้อง เสียงเพลงชาติจีนใหม่ดังกระหึ่มขึ้นด้วยท่วงทำนองเร้าใจในเนื้อเพลง

เหล้าเหมาไถ กับไวน์แดงอย่างดี บรรจงรินลงในแก้วก้านสูงขนาดเล็ก บริกรชายหญิงคุมโต๊ะจำนวนหนึ่งทำหน้าที่แข็งขัน ใบหน้าเรียบเฉย แต่ไม่เฉยเมย หลังรินเหล้าก็ถามว่า เอาเบียร์หรือน้ำส้มล้างคอ แล้วรินใส่แก้วให้ตามนั้น

แสงไฟเจิดจ้าส่องสว่าง ประธานฮว่าเดินขึ้นไปบนแท่นกล่าวคำปราศรัย ช่างภาพทั้งจากสถานีโทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ของจีนทำหน้าที่คล่องแคล่ว คำปราศรัยพิมพ์เป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษแจกไปตามโต๊ะ ก่อนการปราศรัยจะเริ่ม

เสียงประธานฮว่าพูดดังไปทั่วบริเวณนั้น สลับกับเสียงปรบมือเป็นครั้งคราวเมื่อย้ำถึงเจตนารมณ์ของจีนที่จะเดินตามลัทธิมาร์ก-เลนิน และความคิดประธานเหมา ย้ำถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของประเทศในโลกที่สาม-ตัวแทนรัฐบาลจากโลกที่สามปรบมือพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะชนชาติผิวใด….

แล้วประธานฮว่าก็ขอเชิญชวนให้ทุกคนดื่มเพื่อความสามัคคีของประชาชนทั่วโลก

บริกรรินเหมาไถอีกครั้งและอีกครั้ง เสียง “กันเปย” ดังในแต่ละโต๊ะ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image