| ที่มา | เสาร์ประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | เมตตา ทับทิม [email protected] |
| เผยแพร่ |
อย่างนี้ก็ได้ด้วยเหรอ!
กระทรวงการคลังลุกขึ้นมาทำพีอาร์กลางวันแสกๆ ว่าด้วยโครงการ “บ้านในฝัน รับปีใหม่”
และคงกลัวผู้บริโภคจะจำไม่ได้ ก็เลยเลือกวันชาติลาซาด้า เอิ่ม หมายถึงวันที่ 11.11 (อ่านว่าวันที่ 11 พฤศจิกายน) แถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ
ขออนุญาตเอ่ยนาม “ชาญกฤช เดชวิทักษ์” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี
คำว่าตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี สื่อสายทำเนียบอธิบายว่าหมายถึงอีกจิ๊ดเดียวก็ได้เป็นรัฐมนตรีเต็มตัว
ทั่นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี (ปฏิบัติหน้าที่กระทรวงการคลัง)
ชื่อตำแหน่งยุคดิจิทัลเขาเขียนมาอย่างนี้จิงจิง มีคนสะกิดถามว่าทำไมไม่เขียนให้กระชับๆ ว่าตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลังไปเลยล่ะ (ฮา)
“ผู้ช่วย รมต. ชาญกฤช” มีการเรียกประชุม 3 นายกสมาคมวงการเรียลเอสเตทเมืองไทย ประกอบด้วยสมาคมคอนโด สมาคมบ้านจัดสรร และสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย
แถลงข่าวแคมเปญบ้านในฝัน รับปีใหม่ โดยมี 3 นายกพร้อมทั้งกรรมการสมาคมยกแผง ยืนเรียงแถลงข่าวราวกับเป็นวอลล์เปเปอร์ เพราะคนเยอะมว้าก
สาระสำคัญบ้านในฝัน รับปีใหม่ ซื้อปุ๊บ โอนปั๊บ รับทันที 3 สิทธิพิเศษ
เรื่องแรก กู้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. ดอกเบี้ยพิเศษ 2.5% เรื่องที่สอง ฟรีค่าโอน+ค่าจดจำนอง เรื่องที่สาม รับส่วนลดอลังการ (จากโครงการ)
อ่านข่าวตอนแรกยังคิดว่าตัวเองตาฝาด ผู้ช่วย รมต.คลังให้สัมภาษณ์ว่า ภายใต้แคมเปญนี้ คนไทยทั่วประเทศจะได้เลือกซื้อที่อยู่อาศัยจากราคาแพงก็จะมีราคาถูกลง
เพราะโครงการใด บ้าน-คอนโดหลังไหนราคา 3.5-4 ล้านบาท ก็จะลดราคาเหลือไม่เกิน 3 ล้านบาท ถ้าเป็นเรื่องจริงเท่ากับลดทันที 20-25%
จุดที่ต้องคำนึงอยู่ที่ช่วงเวลา เพราะภายใต้แคมเปญนี้ มีเวลาให้ผู้บริโภคเลือกซื้อเลือกช้อป 11 พฤศจิกายน-31 ธันวาคม 2562
แปลว่าจะต้องเป็นที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จแล้ว พร้อมเข้าอยู่แล้ว เพราะซื้อปุ๊บต้องโอนปั๊บ หรือต้องโอนก่อน 31 ธันวาคม 2562
เรื่องนี้ทำการบ้านมาให้ตามระเบียบ เพราะอยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน
คำตอบสำเร็จรูป เดาได้ไม่ยาก …ไม่มี้ ไม่มีคับ (เสียงสูงระดับ 10) เป็นคำตอบจากเจ้าของโครงการหลายบริษัท
อย่างมาก บ้าน-คอนโดราคา 3.1-3.2 ล้าน พอจะกล้อมแกล้มกดราคาลงมาได้บ้าง แต่ความคาดหวัง 3.5-4 ล้านแล้วให้ลดราคาทีละ 5 แสนถึง 1 ล้าน คิดในแง่ต้นทุนพัฒนาโครงการ ไม่น่าจะทำได้
มาถึงตรงนี้ เราต้องหันกลับมาทำความเข้าใจว่าทำไมต้องเป็นบ้านราคาไม่เกิน 3 ล้าน
ประเด็นมีอยู่ว่า คณะรัฐมนตรีเพิ่งมีมติให้ออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 เพราะปีนี้ยอดขายยอดโอนเจอศึกหนักจาก LTV-loan to value หรือมาตรการบังคับเก็บเงินดาวน์แพงของแบงก์ชาติ
ของที่เคยขายดีในปี 2561 ปีนี้แป้กเพราะคนไม่มีปัญญากู้เงินแบงก์มาซื้อ ซัพพลายเหลือบานตะไท
รัฐบาลก็เลยช่วยด้วยการสั่งให้กรมที่ดินลดค่าโอน+ค่าจดจำนอง 3% เหลือ 0.01% จากล้านละ 3 หมื่น เหลือล้านละ 300 บาท สำหรับการซื้อที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
ถ้าซื้อราคา 1 ล้าน ประหยัดเกือบ 3 หมื่น ถ้าซื้อราคา 2 ล้าน ประหยัดเกือบ 6 หมื่น และถ้าซื้อราคา 3 ล้าน ประหยัดค่าภาษีเกือบ 9 หมื่น
เท่านั้นไม่พอ รัฐบาลยังสั่งให้ ธอส. ตั้งวงเงินกู้ 50,000 ล้านบาท ปล่อยกู้ 2.5% อีกด้วย
เห็นแมะ หน้าตามาตรการเหมือนกันเปี๊ยบกับโครงการบ้านในฝัน รับปีใหม่
ถ้าจะมี diffentiate หรือมีความแตกต่างอยู่บ้าง น่าจะอยู่ตรงที่โครงการบ้านในฝัน รับปีใหม่ ใช้ชั้นเชิงของความเป็นนักพีอาร์ประกาศเปรี้ยงปร้างว่าภายใต้โครงการนี้ บ้าน-คอนโดจะลดราคาลงมา
เหตุผลกำปั้นทุบดินเพราะสิทธิประโยชน์กำหนดเพดานราคาไว้ไม่เกิน 3 ล้านบาท
ในขณะที่ราคา 3 ล้านบาทเพราะรัฐบาลมีเหตุผลว่าเป็นกลุ่มกำลังซื้อผู้มีรายได้น้อย-ปานกลาง ซึ่งรัฐบาลสมควรดูแล
ไม่อยากจะบอกเล้ยว่า การดูแลต้องใช้เงินภาษีมาอุดหนุนอยู่ข้างหลัง เช่น ชดเชยให้ ธอส. 1,200 ล้าน เพื่อทำเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ 2.5%
เพราะฉะนั้น มาตรการรัฐรอบนี้ มีคุณประโยชน์แท้จริงสำหรับที่อยู่อาศัยราคาต่ำ 3 ล้าน แต่ไม่สามารถฝืนแรงโน้มถ่วงทำให้ราคา 3.5-4 ล้านลดลงมาฮวบฮาบ
อย่างไรก็ตาม ถ้าไปเจอโครงการไหนเขาโฆษณาว่าของเดิมราคา 4 ล้านแล้วลดเหลือ 3 ล้าน
ขอใช้ verb to เดาว่า ของเดิมราคา 2-3 ล้านนี่แหละ แต่พอจะยัดเข้าแคมเปญบ้านในฝันของกระทรวงคลังก็เลยบวกเพิ่มให้เป็น 4 ล้าน แล้วค่อยบอกว่าลดราคาลงมาแว้ว
วิน-วินเกม โครงการก็ได้ขาย คลังก็ได้หน้าได้พีอาร์ (ฮา)
