แท็งก์ความคิด : ‘ทำ’ระหว่าง‘รอ’ : โดย นฤตย์ เสกธีระ

เพิ่งชมภาพยนตร์ชุดเกาหลีชื่อ “Chocolate” จบไปหมาดๆ

ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดย ยุนกียอน, ฮาจีวอน, จางซูฮอง, เตียวยุและมินจินวูยอง

ออกอากาศไปเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว ใน JTBC และจบตอนที่ 16 ซึ่งเป็นตอนสุดท้ายเมื่อมกราคมปีนี้

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นหนังโรแมนติก พระเอกเป็นหมอ นางเอกเป็นเชฟ

Advertisement

ทั้งสองคนเป็นรักแรกพบ แต่ต้องแยกย้ายจากกันตั้งแต่เด็ก กว่าจะมาพบกันอีกครั้งก็ตอนโตแล้ว

ระหว่างเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เกิดเหตุการณ์แย่ๆ ขึ้นในชีวิตมากมาย

สุดท้ายทั้งพระเอก และนางเอก มาพบกันที่โรงพยาบาล และมาใช้ชีวิตกันที่ศูนย์พักพิงผู้ป่วยที่ไม่มีทางรักษา

Advertisement

ผู้ป่วยรอวันสุดท้ายของตัวเองซึ่งไม่รู้ว่าจะมาถึงเมื่อไหร่

ใครหลายคนที่ได้ชมภาพยนตร์ซีรีส์เรื่องนี้ คงทราบว่ามีหลากหลายไอเดียให้ได้คิด

และมีบทภาพยนตร์หลายตอนที่ฟังแล้วน่าประทับใจ

หนึ่งในความประทับใจจากการชมภาพยนตร์นี้คือการใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าระหว่างการรอคอย

เมื่อชีวิตทราบว่าตัวเองเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้

ชีวิตที่เหลืออยู่คือรอความตาย

การใช้เวลาที่เหลืออยู่มีความสำคัญ

การยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น การจัดการตัวเองให้พร้อมก่อนเดินทางไกลไปอีกภพนั้นมีความสำคัญ

ชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วเห็นการจัดการชีวิตในช่วงบั้นปลายของแต่ละคน

การรอคอยในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่รอความตายเท่านั้น

ยังมีการรออื่นๆ อีกมากมาย

ลูกรอเจอมารดาที่หนีไปตั้งแต่เด็ก ชายหนุ่มรอเวลาสารภาพรักกับสาวที่หมายปอง สามีภรรยาที่มีเรื่องขัดแย้งรอเวลาการให้อภัย พ่อรอพบลูกที่ไม่ได้พบหน้ากันมานาน เป็นต้น

ดูไปดูมา รับรู้ได้ว่า การรอคอยแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ

แบบแรกคือ การรอคอยตามธรรมชาติ อาทิ เกิดแล้วต้องรอวันเวลาที่เข้าสู่ความตาย

เด็กต้องเจริญวัย กลายเป็นผู้ใหญ่ในที่สุด

เมื่อทำงานใหม่ๆ ทุกคนเป็นพนักงานแรกเข้า แต่สุดท้ายต้องเกษียณไปตามวัย

เช่นเดียวกับกาลเวลา

เมื่อดวงตะวันขึ้น หากต้องการรอให้ถึงค่ำ ต้องรอจนกว่าตะวันจะตก

เมื่อฤดูร้อนมาถึง ถ้าต้องการให้ถึงหน้าฝน ต้องรอไปอีกระยะ

เป็นต้น

ส่วนรอแบบที่สอง คือ การรอคอยสิ่งที่ตัวเองต้องการ อาทิ รอคอยความสำเร็จ รอเวลาที่จะได้พบคนรัก และรออื่นๆ อีกมากมาย

หากเป็นการรอคอยในแบบแรก ซึ่งมีธรรมชาติเป็นตัวกำหนด ไม่มีใครไปบังคับแข็งขืนได้

การรอแบบนี้ ต้องใช้เวลานาน ระหว่างที่รอ เราควรจะทำอะไรกันดี

ควรจะอยู่เฉยๆ ปล่อยให้เวลาผ่านพ้นไป

จากเกิดแล้วตาย จากเช้าแล้วเย็น จากฤดูร้อนไปฤดูฝน และฤดูหนาว

เราจะปล่อยลมหายใจทิ้งไปวันๆ กระนั้นหรือ ?

หรือเราควรสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ให้เกิดขึ้น

ในภาพยนตร์เรื่องนี้ นางเอกได้ใช้เวลาระหว่างรอไปในทางสร้างสรรค์

เธอต่อสู้ชีวิต เอาชนะอุปสรรค และผลักดันตัวเองจนบรรลุเป้าหมาย

แต่ก็มีเหมือนกัน ที่บางคนใช้เวลาระหว่างรอ ไปทำในสิ่งที่ไม่สมควร

เช่น น้องชายของนางเอกในภาพยนตร์ที่ชม เขาใช้เวลาระหว่างรอไปในทางร้าย

กลายเป็นพวกหลอกลวง และชอบก่อเรื่องวุ่นวาย

พฤติกรรมดังกล่าว ทำให้ผู้ชมเห็นความแตกต่างระหว่างการทำความดีกับไม่ดี

สุดท้ายภาพยนตร์เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่า การใช้เวลาระหว่างรอด้วยการสร้างสรรค์นั้นมีคุณค่ามากกว่า

เกิดเป็นคุณค่าแก่ผู้อื่น แล้วย้อนมาทำให้ตัวเองมีคุณค่า

เมื่อถึงเวลาที่รอคอย ไม่ว่าจะเป็นเวลาที่ต้องจากไปอีกภพ หรือเวลาใดๆ ที่ธรรมชาติกำหนด

พฤติกรรมที่กระทำในระหว่างรอจะเป็นเครื่องบ่งชี้คุณค่าของคนคนนั้น

สำหรับการรอแบบที่สอง คือ รอความสำเร็จ รอความร่ำรวย รอชื่อเสียงเกียรติภูมิ

ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในการศึกษา ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในวิชาชีพ

ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในเรื่องใดๆ

การรอในแบบนี้ มีข้อแนะนำว่า ไม่ต้องเสียเวลาในการรอ เพราะรอเท่าไหร่ก็ไม่บรรลุเป้าหมาย

มีทางเดียวเท่านั้นที่จะไปถึงที่หมายได้ คือ ต้องลงมือทำทันที

หากต้องการประสบความสำเร็จในการศึกษา ต้องอ่านหนังสือ และเติมทักษะชีวิต

ถ้าต้องการสำเร็จในวิชาชีพ ต้องสั่งสมความรู้ พัฒนาความสามารถ สร้างสรรค์ผลงาน ผลิตนวัตกรรมออกมา

สรุปได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นการรอแบบแรก คือมีธรรมชาติเป็นปัจจัย หรือรอแบบที่สองคือมีความปรารถนาเป็นจุดมุ่งหมาย

ระหว่างการรอคอย สิ่งที่พึงกระทำ คือ ทำในสิ่งที่สร้างสรรค์

ผลงานที่สร้างสรรค์ ทำให้มีคุณค่า และคุณค่าที่มีจะย้อนกลับไปส่งเสริมผู้กระทำ

บั้นปลายชีวิตของคนประพฤติดี ย่อมมีคุณค่าต่อครอบครัว และมิตรสหาย

ผลสุดท้ายของการขยันขันแข็ง ย่อมส่งผลต่อการเรียน และการงาน

คิดไปคิดมา ชีวิตทุกชีวิตที่เกิด ล้วนอยู่ในห้วงเวลาของการรอคอย

คุณค่าของคนจะมีหรือไม่มี ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานี้

ช่วงเวลาที่ต้องคิดและต้องทำ

คิดว่าจะทำอะไรที่สร้างสรรค์ ในช่วงที่ชีวิตอยู่ระหว่างการรอ

คิดได้แล้ว ลงมือทำ

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image