ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สุจิตต์ วงษ์เทศ |
เผยแพร่ |
หน้าแล้งมีประเพณีขอฝนในอีสานด้วยการฟังเทศน์มหาชาติ ขณะนี้ทุกวัดกำหนด “บุญผะเหวด” ในช่วงเวลาเดียวกันของเดือนมีนาคม
เทศน์มหาชาติเป็นทำนองลีลาเสียงโหยหวนและเล่นลูกคอ ไม่มีในอินเดียและลังกา แต่เป็นประเพณีพื้นเมืองในท้องถิ่นอุษาคเนย์
ย้อนอ่าน : สุจิตต์ วงษ์เทศ : ‘บุญผะเหวด’ เทศน์มหาชาติ ไม่มีในอินเดียและลังกา
ช้างขอฝนในพระเวสสันดร
ในอีสาน “บุญผะเหวด” คือ เทศน์มหาชาติ ถูกกำหนดโดยจารีต “ฮีตสิบสอง” ให้มีในเดือนสี่ (ทางจันทรคติ) ตรงกับปฏิทินสากลราวเดือนมีนาคมซึ่งเป็นช่วงเริ่มหน้าแล้ง
นอกจากมีขึ้นตามจารีตประเพณีทางพุทธศาสนาเพื่ออานิสงส์ตามความเชื่อแล้ว ยังมีความหมายแฝงเพื่อขอฝน เมื่อดูจากชาดกเรื่องเวสสันดรเกี่ยวข้องกับช้างขอฝน
“ปัจจัยนาเคนทร์” เป็นชื่อช้างคู่บารมีพระเวสสันดร มีอภินิหารถ้ายืนช้างอยู่บ้านเมืองใด บ้านเมืองนั้นจะมีฝนตกต้องตามฤดูกาล บันดาลความอุดมสมบูรณ์ในพืชพันธุ์ว่านยาข้าวปลาอาหาร
“เจ้าคุณพิพิธ” (พระราชวิจิตรปฏิภาณวัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ) เขียนเล่าไว้ในหนังสือ มหาชาติ : มหาเวสสันดรชาดก ฉบับทรงเครื่อง (สำนักพิมพ์ธรรมสภา พิมพ์เผยแพร่ ไม่บอกปีที่พิมพ์) จะคัดมาดังนี้
“เมืองกลิงคราษฐ์เกิดวิบัติ ข้าวยากหมากแพง ฝนแล้งไม่ตกทั่วประเทศ ข้าวกล้าตาย ประชาชนยากแค้นแสนสาหัส อดข้าวจนซูบผอม ถึงแม้ว่าพระเจ้ากลิงคราชจะทรงรักษาศีลอุโบสถครบกำหนดเจ็ดวัน ฝนก็ยังไม่ตก พระเจ้ากลิงคราชได้ยินกิตติศัพท์ของพญาช้างปัจจัยนาเคนทร์ ที่เมื่อคนขึ้นขับขี่ไปสู่พื้นที่ใด พื้นที่นั้นจะมีฝนตกลงมา จึงจัดให้พราหมณ์ผู้ฉลาดแปดคนไปขอพญาช้างปัจจัยนาเคนทร์ ณ โรงทานกรุงสีพี
วันนั้น พระเวสสันดรเมื่อตื่นบรรทม ทรงสรงน้ำ ทรงเครื่องสำหรับกษัตริย์ แล้วทรงพญาช้างพร้อมทวยหาญ เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงทาน เพื่อแจกสิ่งของแก่ยาจกโดยมิได้เลือกหน้า
พราหมณ์เมืองกลิงคราษฐ์ผู้ฉลาดรู้อุบาย จึงเริ่มต้นตัวยการประณมนิ้วมือขึ้นเหนือเศียรเกล้า แล้วร้องถวายชัย พระโพธิสัตว์จึงตรัสปราศรัยถามไถ่ว่าพราหมณ์ปรารถนาสิ่งใด เมื่อพราหมณ์ทูลขอพญาช้างปัจจัยนาเคนทร์ เพื่อแก้ปัญหาฝนไม่ตกตามฤดูกาล เกิดข้าวยากหมากแพง
พระเวสสันดรจึงหลั่งอุทกธาราให้ตกลงเหนือมือพราหมณ์ ตั้งพระทัยไว้ให้งามดังดวงแก้ว แล้วออกวาจาพระราชทานพญาช้างพร้อมเครื่องประดับทั้งหมดแก่พราหมณ์ เพื่อพระโพธิญาณในอนาคต
พราหมณ์เมื่อได้รับพระราชทานพญาช้างแล้วก็ขึ้นขับขี่ออกนอกเมือง ประชาชนกรุงสีพีมองเห็นต่างกรูเกรียวเข้ามาถาม พราหมณ์ตอบว่าท้าวเธอประสาทให้”
เทศน์มหาชาติมีเดือนไหนก็ได้
เทศน์มหาชาติเวสสันดรคนฟังทั้ง 13 กัณฑ์ จบในวันเดียวจะได้อานิสงส์หลายอย่าง เป็นอุดมคติพุทธศาสนาที่สั่งสมความเชื่อสืบต่อมานานแล้วรับรู้กันทั่วไป
ดั้งเดิมมิได้กำหนดว่าเทศน์มหาชาติมีเมื่อไร? วันไหน? เดือนไหน? แต่ละวัดแต่ละชุมชนร่วมกันกำหนดนัดหมายเมื่อพร้อม เช่น วัดป่าเลยไลยก์ เมืองสุพรรณ ในขุนช้างขุนแผน กำหนดมีเทศน์มหาชาติในเดือนสิบ (ราวสิงหาคม-กันยายน)
แต่โดยทั่วไปสมัยต่อมาจนปัจจุบัน วัดในภาคกลางมักจัดให้มีเทศน์มหาชาติหลังออกพรรษาและหลังเสร็จงานทอดกฐิน ซึ่งมีน้ำท่าข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ จะเห็นว่าต่างจากอีสาน