| ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | ติสตู [email protected] |
| เผยแพร่ |
เป็นซีรีส์สารคดีที่กำลังกระแสดีอยู่ในสหรัฐอเมริกาขณะนี้ “The Last Dance” เรื่องราวของนักกีฬาบาสเกตบอลระดับตำนานมือหนึ่งของโลก “ไมเคิล จอร์แดน” กับทีม “ชิคาโกบูลส์” ผลงานสารคดีโดยทีมงาน ESPN ที่รวบรวมฟุตเทจเก่าหายากมาร้อยเรียงร่วมกับการตั้งกล้องสัมภาษณ์ “ไมเคิล จอร์แดน” ที่ปัจจุบันอายุ 57 ปี ไปจนถึงเพื่อนร่วมทีมดาวดังที่กอดคอกันเป็นดรีมทีมในยุค 90 มาด้วยกัน ทั้ง “สก๊อตตี้ พิพเพน” และ “เดนนิส ร็อดแมน” ไปจนถึงโค้ชผู้กุมหัวใจทีมอย่าง “ฟิล แจ๊กสัน” เรื่อยไปถึงการตั้งกล้องสัมภาษณ์ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องราวตลอด 13 ปี ที่ “ไมเคิล จอร์แดน” เล่นให้กับทีมชิคาโกบูลส์จนสามารถพาทีมคว้าแชมป์บาสเกตบอลเอ็นบีเอได้ 6 สมัย
“The Last Dance” เปิดเรื่องด้วยช่วงเวลาที่ “ไมเคิล จอร์แดน” มาถึงจุดสำคัญในชีวิต นั่นคือการลงเล่นให้กับชิคาโกบูลส์ ในฤดูกาลแข่งขันเอ็นบีเอปี 1997/1998 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของเขาก่อนอำลาวงการ ซึ่งขณะนั้น ไมเคิล จอร์แดน พาชิคาโกบูลส์คว้าแชมป์เอ็นบีเอมาแล้ว 5 สมัย และในปีสุดท้ายของเขา จอร์แดนก็มุ่งหวังจะพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้อีกครั้งก่อนจะปิดท้ายอำลาอาชีพนักกีฬาบาสเกตบอล
สารคดีใช้การเล่าเรื่องสลับไทม์ไลน์ไปมา ย้อนกลับไปยังวัยเด็ก และวัยรุ่นของจอร์แดน รวมทั้ง “จุดเริ่มต้น” ของการเป็นนักกีฬาบาสเกตบอล พาดผ่านมาถึงยุคที่ ไมเคิล จอร์แดน อยู่ในช่วงท้ายของนักบาสเกตบอลอาชีพกับสถานการณ์ที่น่ากระอักกระอ่วนใจเมื่อผู้บริหารและเจ้าของทีมชิคาโกบูลส์ต้องพิจารณาถึงการ “สร้างทีมใหม่” ด้วยการล้างไพ่ตั้งแต่เปลี่ยนตัวโค้ชที่เป็นหนึ่งในหัวใจความสำเร็จของทีมอย่าง “ฟิล แจ๊กสัน” ขณะที่อีกปัจจัยสำคัญคือบรรดานักกีฬาบาสเกตบอลในทีมที่แม้จะเป็นตัวทำเกมเพิ่มแต้ม เล่นเป็นทีมเวิร์กได้ดีเยี่ยม แต่ในด้านหนึ่งพวกเขาถูกมองว่าเริ่มมีอายุมากขึ้น
ซีรีส์สารคดีจะพาย้อนเวลาไปดูช่วงเวลาสุดดราม่าระหว่างการแข่งขันในฤดูกาล 1997/1998 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของทั้งไมเคิล จอร์แดน และฟิล แจ๊กสัน ซึ่งโดยปกติรู้กันในทีมว่า “ฟิล” มักจะคิดชื่อ “ธีม” ในการแข่งขันทุกฤดูกาล
ในเมื่อปี 1998 คือการทำงานร่วมกันครั้งสุดท้ายก่อนที่จะแยกย้าย
เขาจึงได้ตั้งชื่อธีมปีสุดท้ายนั้นว่า “The Last Dance” หรือ “การเต้นรำครั้งสุดท้าย”
…สนุกกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะมันกำลังจะจบแล้ว…
แต่ก่อนจะถึงจุดจบนั้น…ใน The Last Dance ได้พาเราย้อนทวนเข็มนาฬิกาไปยังจุดเริ่มต้นของไมเคิล จอร์แดน นักกีฬาบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยที่ได้รับการคัดตัวเข้าทีมชิคาโก บูลส์ในปี 1984 และเริ่มถูกจับตามากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ทำให้เราเห็นถึงวินัยการฝึกซ้อมอย่างเคร่งครัดจนพัฒนาให้เขามีทักษะเฉพาะตัวสูงมากในเกม รวมทั้งการเป็นคนที่ดูแลรักษาสุขภาพตัวเองอย่างดี จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ท่ากระโดดดังก์ (Dunk) ลูกลงห่วงที่ถูกขนานนามว่า “แอร์วอล์ก” (Airwalk) ของเขาต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกายระดับไหน
โลกจดจำเขาด้วยท่า “แอร์วอล์ก” เป็นภาพที่เขาวิ่งจากอีกด้านของสนามกระโดดลอยตัวสูงเท่าแป้นบาสขณะที่สองขาก้าวสลับราวกับกำลังเดินในอากาศ มือก็พาลูกบอลยัดลงห่วงอย่างสุดสวย…กลายเป็นภาพจำอันเป็นโลโก้ของเขามาตลอด
แต่ก่อนจะบอกว่านี่คือพรสวรรค์ของมนุษย์คนหนึ่ง อันที่จริงสมัยมัธยมเขาไปคัดตัวนักกีฬาบาสฯไม่ผ่าน แต่ความเป็นคนไม่ยอมแพ้ทำให้เขาฝึกฝนอย่างหนักจนได้เป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของมหาวิทยาลัยในที่สุด
พ่อของจอร์แดนเคยเล่าคาแร็กเตอร์ของลูกชายไว้ว่า ถ้าลองบอกว่าเรื่องนั้นเรื่องนี้จอร์แดนทำไม่ได้…เขาจะพยายามจนทำได้สำเร็จและทำได้ดีในที่สุด
…ไมเคิล จอร์แดน ผู้ชอบการแข่งขัน ความท้าทาย และเป็นนักพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งนี่เป็นดีเอ็นเอที่ส่งผลให้เขาเป็นนักกีฬาบาสฯในทีมชิคาโกบูลส์ที่มีพลังกายพลังใจตลอดเกม แม้แต้มในเกมตกเป็นรองถูกทีมคู่แข่งทิ้งห่าง แต่จอร์แดนจะพยายามทำให้เพื่อนร่วมทีมมีแรงฮึดสู้อยู่เสมอ เมื่อเกมยังไม่จบ…เราจะต้องไม่ยอมแพ้
ย้อนอ่าน : นักบาสโหวต ‘ไมเคิล จอร์แดน’ เจ๋งสุดตลอดกาล – ‘เจมส์’ ที่ 2 – ‘เลเกอร์ส’ ติดเพียบ
ซีรีส์ “The Last Dance” ใช้วิธีเล่าคู่ขนานในแบบไทม์ไลน์สลับกับช่วงเวลาใกล้อำลาทีมชิคาโกบูลส์ของเขาในปี 1998 ขณะที่เนื้อเรื่องได้สอดแทรกให้เห็นความเป็นดรีมทีมของโค้ช ฟิล แจ๊กสัน และกลุ่มนักบาสฯในทีมอย่าง “สก๊อตตี้ พิพเพน” ผู้เล่นที่ดีที่สุดอันดับสองในทีมรองจากจอร์แดน และ “เดนนิส ร็อดแมน” ตัวรับและนักทำรีบาวด์ ซึ่งสารคดีจะพาเราไปสัมผัสเรื่องราวความเป็นมาชีวิตวัยเด็กของทั้งพิพเพน และร็อดแมนก่อนจะมาถึงจุดสูงสุด เล่าถึงปัญหาต่างๆ ที่ต้องเผชิญขณะอยู่ชิคาโกบูลส์ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปในเส้นทางแต่ละคน “พิพเพน” ถูกขายไปอยู่ทีมฮุสตัน ร็อกเก็ตส์ ร็อดแมน ไปเฉิดฉายต่อที่แอลเอ เลเกอร์ส และฟิล แจ๊กสัน ยุติบทบาทกับทีม
สารคดียังเสมือนหนึ่งพาย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของทีมชิคาโกบูลส์ใน “ทศวรรษ 90” ที่โด่งดังระดับโลก ซึ่งเป็นยุคทองยุคเดียวกับไมเคิล จอร์แดน นั่นเอง เพราะแชมป์เอ็นบีเอทั้ง 6 สมัย (ค.ศ.1991,1992,1993,1996,1997,1998) ล้วนเกิดขึ้นในยุคของจอร์แดนที่อยู่กับชิคาโกบูลส์ตลอด 13 ปี
ตัวเขายังมีพลังระดับกระตุ้นความคึกคักให้ชาวชิคาโก เพราะในคืนแข่งขันตั๋วจะขายหมดเกลี้ยงทุกเกม จอร์แดนเองยังถูกสื่อให้
นิยามถึงความเป็นหนุ่มน้อยจากนอร์ทแคโรไลนาผู้ทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างหนักจนประสบความสำเร็จได้สังกัดทีมในเมืองใหญ่ และยังทำให้ชิคาโกกลายเป็นจุดสนใจของโลก เป็นเมืองใหญ่ที่มีความพิเศษจากทีมชิคาโกบูลส์
เขาคือหนึ่งในความภูมิใจของสหรัฐอเมริกาประจำยุค 90
“The Last Dance” เป็นซีรีส์สารคดีที่มีทั้งหมด 10 ตอน ปัจจุบันกำลังทยอยออกอากาศสัปดาห์ละ 2 ตอน (ออกอากาศครั้งแรก 19 เมษายนที่ผ่านมา) ทาง ESPN และ Netflix ยอดชมเฉลี่ย 2 ตอนแรก อยู่ที่ 6.1 ล้านวิว ถือเป็นซีรีส์ชั้นดีสำหรับผู้ชื่นชอบกีฬาเกมยัดห่วง เพราะเราจะได้เห็นฟุตเทจเก่าหายากของจอร์แดนและเพื่อนร่วมทีม โดยเฉพาะช่วงเตรียมพร้อมสำหรับฤดูกาลปี 1997/1998 ที่ไมเคิล จอร์แดน และทีมชิคาโก
บูลส์อนุญาตให้ทีมงาน ESPN ได้ติดตามถ่ายทำเขาและทีมตลอดทั้งปี
“The Last Dance” จึงถือเป็น “บันทึกเหตุการณ์สำคัญ” ของ “ไมเคิล จอร์แดน” ผู้ถูกขนานนามให้เป็นผู้เล่นที่เก่งกาจและโด่งดังที่สุดในยุค ตลอดจนเพื่อนในทีม และหัวใจสำคัญของทีมอย่างโค้ช ฟิล แจ๊กสัน
พวกเขาคือทีมที่ดีที่สุดในทศวรรษ 90 อย่างแท้จริง
