| ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | นฤตย์ เสกธีระ [email protected] |
| เผยแพร่ |
หลายเดือนที่ผ่านมา เมื่อสถานการณ์โควิด-19 แผ่คลุมพื้นที่ทั่วโลก สถานการณ์การท่องเที่ยวทุกแห่งเข้ามุมอับ
การล็อกดาวน์เพื่อความปลอดโรค ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก
การท่องเที่ยวเป็นอัมพาต รายได้ที่เคยได้จากการท่องเที่ยวตกวูบ
พิษโควิดทำให้ทุกภาคส่วนได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน
ทั้งร้านค้า ไกด์ ผู้ประกอบการทัวร์ ธุรกิจขนส่งทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ รวมไปถึงจีดีพีของประเทศ
ทุกอย่างหัวทิ่มต่ำลงไป
เมื่อสัปดาห์ก่อน ในงานสัมมนาของมติชน ได้จัดเรื่อง “ปลุกไทยเที่ยวไทย ปลุกเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้า” ได้ฟัง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงวิทยากรในวงเสวนาแล้ว รู้สึกว่าการท่องเที่ยวของไทยยังมีความหวัง
โดยเฉพาะในช่วงการปาฐกถาพิเศษของนายพิพัฒน์ ใครได้ฟังก็คงมองเห็นโอกาสของการท่องเที่ยวไทย
ไม่ใช่โอกาสที่จะกอบโกยเงินทองเข้ากระเป๋าตัวเอง หากแต่เป็นโอกาสที่จะประกอบอาชีพการท่องเที่ยวได้อย่างยั่งยืน
ประเด็นที่น่าสนใจคือการวางมาตรฐานของการท่องเที่ยว
ในระดับรัฐได้กำหนดให้การท่องเที่ยววิถีใหม่อยู่ในมาตรฐาน SHA
SHA หรือ Amazing Thailand Safety & Health Administration
มาตรฐานนี้เปิดให้ธุรกิจ 10 หมวด สมัครเข้าร่วม
ประกอบด้วย 1.ภัตตาคาร/ร้านอาหาร 2.โรงแรม/ที่พัก และสถานที่จัดประชุม 3.นันทนาการและสถานที่ท่องเที่ยว 4.ยานพาหนะ 5.บริษัทนำเที่ยว
6.สุขภาพและความงาม 7.ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า 8.กีฬาเพื่อการท่องเที่ยว 9.โรงละคร โรงมหรสพและการจัดกิจกรรม และ 10.ร้านค้าของที่ระลึกและร้านค้าอื่นๆ
หากธุรกิจที่อยู่ใน 10 หมวดนี้ ร้านใดมีป้ายมาตรฐาน SHA ประดับอยู่ ขอให้มั่นใจว่าธุรกิจนั้นปลอดภัยจากโควิด
มาตรฐาน SHA จึงเป็นมาตรฐานทางสาธารณสุข
เป็นมาตรฐานที่ปกติแล้วทุกธุรกิจและทุกบริการควรจะมีอยู่แล้ว
การได้นำเอามาตรฐานนี้มาใช้กับธุรกิจหรือกิจการ ณ เวลานี้ จึงถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการด้วย
เพราะว่าใครๆ ก็ต้องการจะท่องเที่ยวและใช้บริการที่ปลอดพ้นจากโรค
นอกจากมาตรฐานระดับชาติที่ใช้มาตรฐาน SHA แล้ว ยังมีข้อเสนอแนะจากนายพิพัฒน์ในเรื่องอื่นๆ อีก
อาทิ ราคาสินค้า นายพิพัฒน์ชื่นชมสตรีทฟู้ด
เพราะสตรีทฟู้ดได้สร้างมิติการขายที่ไม่สนใจว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติ
ราคาที่ขายอยู่ในระดับเดียวกัน
ราคาที่ขายในระดับเดียวกันทำให้ลูกค้ารู้สึกเป็นธรรม
ยิ่งเมื่อเสริมกับรสชาติที่อร่อย และสามารถหารับประทานได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ยิ่งทำให้ชาวต่างชาติถูกใจ มาแล้วก็อยากมาอีก
อืม ฟังถึงตรงนี้ คิดถึงความยั่งยืน
ถ้าธุรกิจเหล่านั้นประกอบการด้วยความเป็นธรรม มีจุดขายจุดเด่นจากสินค้าและบริการ
การทำมาหากินย่อมจะยั่งยืนกว่า คิดเอาเปรียบชั่วประเดี๋ยวประด๋าวด้วยการโก่งราคาชาวต่างชาติ
ดังนั้น ถ้าทุกกิจการร้านค้าสามารถให้ความเป็นธรรมแก่ลูกค้า
ไม่ทำให้ชาวต่างชาติรู้สึกถูกเอาเปรียบ
การค้าและธุรกิจนั้นก็จะยั่งยืน
เรื่องความยั่งยืนนี้ นายพิพัฒน์ยกตัวอย่างอื่นๆ ที่ไทยมีและดีงาม
ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี อัตลักษณ์ของอาหาร
สิ่งเหล่านี้คนไทยต้องรักษาเอาไว้ อย่าไปทำลาย
ไม่ว่าจะเป็นวนอุทยาน โบราณสถานต่างๆ ที่เปิดให้ท่องเที่ยว ต้องช่วยกันรักษาให้เสื่อมสภาพช้าที่สุด
ทุกอย่างเหล่านี้ ถือเป็นมรดกที่บรรพบุรุษของไทยมอบมาให้คนรุ่นนี้
ดังนั้น คนรุ่นนี้จึงสมควรจะรักษาเอาไว้เพื่อมอบให้แก่คนรุ่นต่อๆ ไป
หากมองจากมุมมองของนายพิพัฒน์ จะเห็นได้ว่า การท่องเที่ยวไทยมีโอกาสเสมอ
ในห้วงเวลาที่กำลังรอชาวต่างชาติมาเยือน ทุกธุรกิจสามารถตระเตรียมตัวกันได้
สมาคม องค์กร หรือเครือข่ายธุรกิจท่องเที่ยวที่มีอยู่ สามารถปลุกให้สมาชิกมองเห็นความยั่งยืนของการท่องเที่ยว
ยั่งยืนด้วยราคาที่เป็นธรรม ยั่งยืนด้วยคุณภาพของสินค้า
ยั่งยืนด้วยคุณภาพของการบริการ
ขณะที่หน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่น เอกชน ที่อยู่นอกเหนือกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวก็มีโอกาส
ท้องถิ่นใดมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น “มรดกจากบรรพบุรุษ” ก็ดูแลรักษาเอาไว้ เพื่อขยายเป็นอัตลักษณ์ของท้องถิ่น
หน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นกรมอุทยาน กรมศิลปากร และอื่นๆ
สามารถปกป้องรักษาป่าเขาลำเนาไพร วัดวาอารม โบราณสถาน เพื่อให้เป็น “ขุมทรัพย์” ของการท่องเที่ยวได้ต่อไป
ที่สำคัญที่สุดคือภาคประชาชน เพราะประชาชนอยู่ในทุกพื้นที่
ถ้าประชาชนในท้องถิ่นรู้จัก “ของดี” ในท้องถิ่น และรักษาเอาไว้
ถ้าประชาชนในจังหวัดรู้จัก “อัตลักษณ์” ของจังหวัดตัวเอง
และถ้าประชาชนในประเทศเห็นความสำคัญของแหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทย
การท่องเที่ยวก็จะกลายเป็นโอกาสของทุกคน
คนได้พักผ่อน ธุรกิจและประเทศได้สตางค์
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวก็ได้รับการปกปักรักษา
เป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน
ดังนั้น ในห้วงเวลาที่สถานการณ์โควิด-19 ยังแผลงฤทธิ์ ทุกคนล้วนมีโอกาส
ปรับตัวให้เข้ากับมาตรการ SHA ปรับปรุงราคาให้เป็นธรรม
และปรับการท่องเที่ยวไทยให้กลายเป็นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน
