คอลัมน์ เล่าเรื่องหนัง : The Neighbor’s Window บนความธรรมดาก็คือความสุข

ภาพประกอบ Youtube Video / marshallcurry

The Neighbor’s Window เป็นภาพยนตร์สั้นความยาว 20 นาที ที่มีพลังและส่งแรงฉุกคิดถึงคนดูจนคว้ารางวัลออสการ์สาขา Best Live Action Short Film หรือภาพยนตร์เหตุการณ์สั้นยอดเยี่ยมในปี 2020

โทนหนังของ The Neighbor’s Window อาจจะดูคล้ายหนังดังคลาสสิกปี 1954 ของอัลเฟร็ด ฮิทชค็อก อย่าง Rear Window แต่นั่นเป็นหนังแนวระทึกขวัญ ที่เล่นกับความอยากรู้อยากเห็นแอบส่องดูคนอื่นจนกลายเป็นหาเรื่องใส่ตัว สำหรับ The Neighbor’s Window เป็นหนังสั้นที่ให้ความรู้สึกละมุนละไมนุ่มนวล แม้เนื้อหาจะเกี่ยวกับการแอบถ้ำมองส่องชาวบ้านก็ตามที แต่หนังใช้รูปแบบการเล่าเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวที่ชวนอบอุ่นขึ้นมาในตอนจบ

หนังเล่าเรื่องของครอบครัวชนชั้นกลางในนครนิวยอร์กครอบครัวหนึ่งที่มีพ่อแม่ และลูกเล็กๆ อีก 3 คน “เจค็อบ” และ “แอลลี่” ซึ่งเผอิญหน้าต่างอพาร์ตเมนต์ในห้องนั่งเล่นของพวกเขา ไปได้องศาตรงทิศกับมุมหน้าต่างอพาร์ตเมนต์ของห้องๆ หนึ่งในอาคารตรงข้ามกันพอดี ซึ่งเจ้าของห้องเป็นคู่หนุ่มสาววัยยี่สิบกว่า พวกเขาดูเป็นคู่หนุ่มสาวที่มีชีวิตคู่สุดแสนโรแมนติก มีความสุข รอยยิ้ม มีกันและกัน

ชีวิตหนุ่มสาวห้องตรงข้ามตึก จึงกลายเป็นหัวข้อสนทนาของคู่สามีภรรยาในอีกฟากตึก “เจค็อบ” และ “แอลลี่” มักจะฆ่าเวลาเล็กๆ น้อยๆ แต่ละวันแอบส่องห้องตรงข้ามจากนั่งดูด้วยระยะสายตา พัฒนามาเป็นการใช้กล้องส่องทางไกล

Advertisement

สามีภรรยาเริ่มเสพติดกับการตามติดชีวิตคู่รักหนุ่มสาวตรงหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขาต่างสัมผัสและรู้สึกได้ว่า คู่รักห้องตรงข้ามมีพลังและชีวิตชีวา เมื่อมองกลับมาที่คู่ของตัวเองช่างแตกต่างเหลือเกิน พวกเขาเหมือนจะใช้ชีวิตวนเวียนตามภาระหน้าที่ของสามีภรรยา และการทำหน้าที่พ่อและแม่ไปแต่ละวันแต่ละคืน

“แอลลี่” บอกกับสามีว่า เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่สดใสวัยสาวอีกต่อไปแล้ว เธอรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา และดูจะโมโหง่าย มีความไม่พอใจการกระทำของสามีบ่อยครั้ง

Advertisement

แน่นอนความรู้สึกลึกๆ ก่อตัวขึ้น เมื่อ “แอลลี่” เห็นกิจกรรมคู่รักห้องตรงข้าม ตั้งแต่จัดปาร์ตี้ การตื่นมากินข้าวมื้อสายด้วยกันในวันหยุด ไปจนถึงเรื่องราวส่วนตัวมากๆ การได้มองเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามด้วยความอิจฉาเบาๆ ชวนให้ “แอลลี่” ยิ่งทดท้อเมื่อมองที่ชีวิตในฝั่งห้องเธอเอง ทั้งยังรู้สึกหงุดหงิดเบาๆ กับความชิลดูสบายอกสบายใจของสามี ทั้งที่เธอกลับรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการเลี้ยงลูกตลอดเวลา

หนังมีฉากธรรมดาที่สื่อถึงหลายครอบครัวที่เผชิญสถานการณ์เดียวกันได้ดี เมื่อ “แอลลี่” ที่ดูพะรุงพะรังพาลูกน้อยวัยกำลังซนสองคนไปเที่ยวสวนสัตว์ พร้อมยังต้องอุ้มกระเตงลูกคนเล็กไปด้วย กลับบ้านมาหงุดหงิดเจอสามี ใช้เวลาว่างอย่างสบายใจพร้อมกับส่องห้องตรงข้ามไปด้วย

เมื่อการแอบจ้องมองห้องตรงข้ามของคู่สามีภรรยาดำเนินต่อไปจากวันกลายเป็นเดือนและแรมปี จนถูกเปรียบเปรยว่า “เหมือนกำลังดูอุบัติเหตุรถยนต์จนไม่ละสายตา แต่เอาล่ะ…มันดูจะเป็นอุบัติเหตุรถยนต์ที่ออกจะมีเสน่ห์เลยทีเดียว” แอลลี่ ยอมรับกับสามี

แต่ใช่ว่าภาพที่ดูราวกับความฝันตรงหน้าจะเป็นความสุขตลอดกาล เมื่อวันหนึ่ง “แอลลี่” สังเกตถึงความผิดปกติของคู่รักหนุ่มสาวห้องตรงข้าม และเธอก็ต้องประหลาดใจปนตกใจ เมื่อฝ่ายชายล้มป่วยและเสียชีวิตลงในห้องนอนนั่นเอง ก่อนที่หนังจะคลี่คลายให้ “แอลลี่” ได้มีโอกาสพูดคุยกับภรรยาสาวม่ายว่า แท้จริงแล้ว หนุ่มสาวคู่นั้นก็แอบลอบส่องมองชีวิตครอบครัวของ “แอลลี่” เช่นกัน และพวกเขาก็พบว่า ครอบครัวของ “แอลลี่” นั้น น่ารักเพียงใด ทั้งคู่ต่างรู้สึกอมยิ้มและถวิลหาชีวิตครอบครัวพ่อแม่ลูกที่แม้จะอลหม่าน แต่นั่นก็เป็นชีวิตที่งดงามในมุมมองพวกเขาเช่นกัน

“The Neighbor’s Window” ได้แรงบันดาลใจดัดแปลงมาจากเรื่องจริงที่ถูกเล่าไว้ในรายการพอดแคสต์ที่เกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตและความรัก ด้วยวิธีดำเนินเรื่องที่มีเนื้อหาที่เรียบง่ายถ่ายทอดชีวิตคนชั้นกลางในเมือง ไม่ดราม่า ไม่พยายามฉุดรั้งอารมณ์คนดู เป็นความนิ่งๆ ที่เราค่อยๆ สะกดรอยตาม 20 นาทีนั้น ก่อนจะรู้ตัวว่านี่ช่างเป็นเรื่องราวหนังสั้นที่ให้เรากลับมาคิดอะไรได้อีกต่างๆ นานา

โดยเฉพาะครอบครัวชนชั้นกลางที่กำลังเผชิญภาวะเฉกเช่นครอบครัวมากมายทั่วโลก พวกเขามีทั้งความรับผิดชอบที่ปฏิเสธไม่ได้ ภาระหน้าที่ ความต้องการของตัวเองที่ได้รับการตอบสนองไม่เต็มที่ โดยเฉพาะตัว “แอลลี่” ผู้เป็นทั้งภรรยาและคุณแม่ลูกเล็กๆ 3 คน ที่มีทั้งความเครียดและความเหนื่อยล้าที่ผุดพรายมาแต่ละช่วงเวลา จนผู้คนในเมืองมากมายรู้สึกโหยหาอะไรบางอย่างที่ก็ไม่แน่ใจนักว่า สิ่งนั้นคืออะไร และมักจะมองถึงชีวิตคนอื่นนั้นน่าสนุก และน่าอิจฉาเพียงใด แต่หากมองไปในเนื้อแท้ ใช่ว่าภาพที่เห็นตรงหน้าจะเป็นความจริงที่เราได้รู้จากการมองเห็นแต่เพียงอย่างเดียว

เพราะความสุขของคนเรานั้นไม่เท่ากัน การเพ่งจ้องไปยังชีวิตคนอื่นจนลืมตระหนักถึงความสุขที่ตัวเองก็อาจจะมีอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้ใส่ใจ หรือเลือกจะมองผ่านด้วยความคุ้นชิน

…กระนั้น The Neighbor’s Window คือเรื่องราวที่ถ่ายสะท้อนให้เห็นว่า…บนความธรรมดานั้น ก็คือความสุขอย่างหนึ่งได้เช่นกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image