
สุจิตต์ วงษ์เทศ : ความ “ไม่ไทย” ของหมอลำ และ “ลิซ่า”
- ความ “ไม่ไทย”
ของหมอลำ และ “ลิซ่า”
ความสำเร็จระดับโลกของ “ลิซ่า” มาจากความ “ไม่ไทย” ถ้า
ไม่ออกจากความเป็นไทยก็ต้องอยู่ใต้ระบบอุปถัมภ์ของอำนาจนิยมรวมศูนย์จนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดเห็นโลกกว้างกว่ากะลา
ความ “ไม่ไทย” มีหลักฐานอย่างดีที่หมอลำ “โกอินเตอร์” เพราะหลุดออกจากความเป็นไทย พบหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดี
มีเต็มไปหมด
- หมอลำ “ไม่ไทย”
หมอลำเป็นการแสดง “ไม่ไทย” ในอีสาน ที่ปรับตนกลมกลืนวัฒนธรรมป๊อป แล้วได้รับความนิยมกว้างขวางมากทั้งในไทยและในระดับสากล โดยมีพัฒนาการเก่าแก่จากการละเล่นในพิธีกรรมถึงการแสดงเป็นมหรสพ
ความเป็นมาของหมอลำมียาวนานจากการละเล่นขับลำทำขวัญของคนกลุ่มที่พูดภาษาไท-ไตหลายพันปีแล้ว ครั้นต่อมาได้ปรับเปลี่ยนดัดแปลงเป็นการแสดงมหรสพสืบเนื่องถึงปัจจุบัน
ต้นตอหมอลำมีรากเหง้าเก่าแก่ จึงมีลักษณะเสรี และมีความฉับไวต่อการปรับเปลี่ยนตนเองเพื่อความทันสมัยและแข็งแรงอยู่รอดในโลกไม่เหมือนเดิม
ลักษณะเสรีอย่าง “ไม่ไทย” ของหมอลำมีเหตุจากปลอดการครอบงำของวัฒนธรรมความเป็นไทยลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพราะดินแดนที่ราบสูงอีสานอยู่นอกอำนาจรัฐใหญ่ และถูกทอดทิ้งหลายร้อยปีจากศูนย์กลาง ส่งผลให้คนภาคกลางเหมารวมคนอีสานเป็นลาวไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นไทย ถึงขนาดตำราเรียนของกระทรวงศึกษาธิการเคยมีบทที่ว่าด้วยภาคอีสานไม่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมภาคกลางลุ่มน้ำเจ้าพระยา แต่ต่อมาถูกต่อต้านจนต้องยกออกไป
หมอลำมีลักษณะเสรีและฉับไวต่อการปรับตัว เพราะบริเวณอีสานที่ราบสูงปลอดจากการครอบงำของความเป็นไทยในภาคกลาง ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ชาวอีสานประกอบด้วยคนหลายเผ่าพันธุ์และหลายวัฒนธรรม นับถือศาสนาอีสานซึ่งมีศาสนาผีเป็นแกนสำคัญแล้วผสมกับพุทธ, พราหมณ์แบบพื้นเมือง โดยตั้งหลักแหล่งกระจัดกระจายตามลุ่มน้ำและแหล่งน้ำ เช่น หนอง บึง บุ่ง ทาม ฯลฯ
ที่ราบสูงอีสานเป็นแอ่งอารยธรรมเก่าแก่ของอุษาคเนย์ ซึ่งมีผู้คนหนาแน่น และมีทรัพยากรมั่งคั่งด้วยเหล็กและเกลือสินเธาว์มากกว่า 3,000 ปีมาแล้ว ทั้งเคยมีรัฐใหญ่หลายรัฐบริเวณลุ่มน้ำมูลและชี แต่ร่วงโรยแล้วลดความสำคัญลงเมื่อเศรษฐกิจ-การเมืองเปลี่ยนไปราว 700-800 ปีมาแล้ว ทำให้ผู้คนดั้งเดิมของรัฐเหล่านั้นโยกย้ายไปเป็นประชากรของรัฐใหญ่แถบที่ราบลุ่ม เช่น ภาคกลาง ลุ่มน้ำเจ้าพระยา, โตนเลสาบของกัมพูชา
หลังจากนั้นมีคนจากสองฝั่งโขง ซึ่งส่วนมากเป็นกลุ่มคนในวัฒนธรรมลาวจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงโยกย้ายเข้ามาแทนที่ โดยเลือกทำเลตั้งหลักแหล่งแห่งหนใหม่เป็นบ้านเล็กเมืองน้อยกระจายตามแหล่งน้ำ แล้วขยายตัวเติบโตเป็นชาวอีสานสืบเนื่องหมอลำจนทุกวันนี้เข้าสู่วัฒนธรรมป๊อปอย่างสมภาคภูมิ
[ยกเว้นเมืองนครราชสีมา บริเวณลุ่มน้ำมูลตอนต้นน้ำ เพราะไม่ลาว และไม่นิยมหมอลำ แต่อยู่ในวัฒนธรรมภาคกลาง ลุ่มน้ำเจ้าพระยา นิยมเพลงโคราชในประเพณีเดียวกับเพลงฉ่อย, เพลงพาดควาย (ขอบเขตพื้นที่เมืองนครราชสีมาสมัยโบราณสิ้นสุดที่เมืองพิมาย พ้นจากนั้นออกไปเป็นพื้นที่ของลาว พบหลักฐานไม่น้อย เช่น นิราศหนองคาย ว่าพ้นเมืองพิมายมีลำน้ำเป็นเส้นแบ่งเขตแดน เมื่อข้ามไปก็เข้าเขตเมืองลาว มีกลอนนิราศกำกับว่า “สิ้นเขตแดนพิมายเมืองชำเลืองแล เข้าแขวงแควเมืองลาวชาวอารัญ”)]
เศรษฐกิจสร้างสรรค์จะสำเร็จได้ต้องมีระบบการศึกษากล้าคิดต่าง, แหกคอก, นอกครู, ไม่อยู่ตายซากในความเป็นไทยที่ถูกเสกสรรปั้นแต่งจากชนชั้นนำ