ที่มา | อาทิตย์สุขสรรค์ มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | จันทร์รอน |
เผยแพร่ |
ช่วงเปลี่ยนผ่านระหว่างปีเก่า สู่ปีใหม่ บรรยากาศดูจะเหมาะกับการตั้งสติทบทวนชีวิต ด้วยกระแสแวดล้อมในสังคมนำพาให้เป็นเช่นนั้น
ผู้คนทั้งโลกส่วนใหญ่ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันด้วย อารมณ์ และความคิดไปในทางชักชวนกันลืมเรื่องราวร้ายๆ จะทำเรื่องดีๆ และให้ความหวังกันและกันว่าชีวิตที่ดำเนินต่อไปจะมีแต่เรื่องดีงาม ชวนให้เบิกบาน
เพราะมนุษย์เราอยู่ด้วยความคิด เมื่อมีความหวังมากระตุ้นให้คิดไปในทางรื่นรมย์ อารมณ์ย่อมเข้าสู่ความสุข
อย่างไรก็ตามสำหรับชีวิตที่เข้าถึงวัยสู่สติทบทวนทิศทางที่ก้าวต่อไป
ด้วยคำถามที่ว่า เป้าหมายที่แท้จริงของชีวิตคืออะไรกันแน่
ในเรื่องนี้คำตอบจากประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบันยังไม่เปลี่ยนแปลง คือคล้ายกับว่ามีอยู่ 2 ทางให้เลือกเดิน
ทางหนึ่ง สะสมความสำเร็จเพื่อขยายความภาคภูมิใจในตัวเองให้กว้างใหญ่ขึ้นไป ด้วยการแสวงหา ทรัพย์สินเงินทอง ยศถาบรรดาศักดิ์ ความยอมรับนับถือศรัทธา และสิ่งอำนวยความสะดวกให้ชีวิตมีความสบาย
คนส่วนใหญ่เลือกที่จะเดินไปในวิถีนี้ แต่ละคนต่างมุ่งขยายอาณาจักรของตัวเองไม่รู้หยุดหย่อน สะสมสมบัติพัสถาน ชื่อเสียงเกียรติยศ เครื่องใช้ไม้สอยสารพัดเท่าที่โลกจะคิดผลิตขึ้นมาได้ เลยไปถึงความอวดโอ่ในยี่ห้อของทรัพย์สินที่ขึ้นชื่อในความเหนือกว่า แพงกว่า หรืออะไรสักอย่างที่ทำให้รู้สึกมากกว่าคนอื่นๆ
ชีวิตมีความสุขกับความมากกว่าเหล่านี้
ความสุขอยู่ที่การเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเพื่อนร่วมสังคม เพื่อนร่วมโลก
หากรู้สึกได้ว่ามากกว่าก็มีความสุข แต่หากรู้สึกกว่าน้อยกว่าเมื่อไรแรงกระตุ้นให้ต้องดิ้นรนจะเกิดขึ้นก่อให้เกิดความเคร่งเครียด ที่สร้างความโกรธแค้นบ้าง น้อยเนื้อต่ำใจบ้าง
ชีวิตส่วนใหญ่เคลื่อนไปในวิถีนี้
คำพรปีใหม่ส่วนใหญ่จึงไปในทาง ให้ร่ำรวย ให้ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ให้มีคนรักใคร่ สรรเสริญ
ในอีกหนทางหนึ่ง กลับเหมือนเดินสวนทางสู่ตรงกันข้าม
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ถือเอาการกลับคืนสู่ “จิตเดิมแท้” เป็นเป้าหมาย
“จิตเดิมแท้” อันหมายถึงจิตที่ว่างจากการยึดติดกับอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดทั้งหลาย ทั้งสิ้น เป็นจิตที่ไม่ถูกควบคุมบัญชาการด้วยความอยากใดๆ
ในหนทางนี้ ข้าวของเงินทอง ยศถาบรรดาศักดิ์ คำสรรเสริญนินทา หรือความสะดวกสบายทั้งหลายเป็นเพียงสิ่งสมมุติ เป็นเพียงมายา ที่ย้อมจิต
และจิตที่ถูกย้อมนั้นจะถูกบังคับบงการให้กำหนดความคิด คำพูด และการกระทำไปตามความอยากได้ใครมีทั้งหลาย เป็นจิตที่ถูกควบคุม
ดังนั้นหนทางที่เดินในสู่ “จิตที่ไม่ถูกบงการ” จึงต้องสละ ละวาง ทุกสิ่งทุกอย่างที่จะส่งผลให้จิตถูกควบคุม บงการ
ในโลกที่ถูกครอบไว้ด้วยลัทธิบริโภคนิยม
ผู้ที่เลือกเดินในหนทางนี้มีไม่มากนัก
แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าสังเกตดูในช่วงหลัง แนวทางเช่นนี้เริ่มพูดถึงกันกว้างขวาง และลึกซึ้งขึ้นในโลกของทุนนิยมเสรี ที่แสวงหากันไม่รู้จบรู้สิ้น
เป็นหนทางที่ ผู้คนในโลกปัจจุบันเริ่มที่จะเรียนรู้มากขึ้น
คล้ายว่าวิถีมนุษย์มีอยู่ 2 หนทางที่เดินสวนกันอยู่นี้
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางการแสวงหา
มีเค้าลางไม่น้อยว่า ผู้คนเริ่มเห็นอีกหนทางหนึ่ง
เป็นวิถีที่เชื่อมของหนทางข้างต้นเข้าด้วยกัน
ยังคงแสดงหา ทรัพย์สินเงินทอง เกียรติยศชื่อเสียง และความสะดวกสบาย แต่วางกำหนดใจให้ว่างจากการยึดติดในสิ่งเหล่านั้น
มี แต่ปล่อยวางความมีนั้นเสีย
มนุษย์เป็นสัตว์โลกที่เคลื่อนไปในความคิดของตัวเอง
ดูเหมือนว่าตราบใดยังมี่ชีวิตจะต้องคิดไปเรื่อย
จิตที่ว่างจากความคิด จึงไม่ค่อยเห็นว่าจะเกิดขึ้นได้
ปีใหม่นี้จะเลือกพรแบบไหนไว้เป็นหลักการดำเนินชีวิต ลองพิจารณาดู