คอลัมน์ ฟรีสไตล์เรื่องบ้าน บ้าน : ดินเนอร์ อิน เดอะ สกาย

Cielo Sky Bar & Restaurant

ดินเนอร์ อิน เดอะ สกาย มาแล้วจ้า

วันนี้ชวนคุยหัวข้อไลฟ์สไตล์แบบมันส์ มันส์ แถมจ่ายแพงอีกต่างหาก

เรื่องนี้ต้นตำรับมาจากประเทศเบลเยียม ทำไปทำมาระบาดไป 45 ประเทศแล้ว ในทวีปเอเชียด้วยกันประเทศแรกที่ทำคือมาเลเซียเมื่อปีที่แล้ว ต้นปีนี้มาเปิดบริการในเมืองไทย

รอบปฐมฤกษ์เปิดตัวเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา มีรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวฯ คุณวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รับเชิญเป็นแขกวีไอพี สร้างขวัญและกำลังใจให้กับแขกเหรื่อที่เหลือว่าปลอดภัยแน่นอน (ฮา)

Advertisement

เรามาทำความรู้จักดินเนอร์ อิน เดอะ สกายกันเถอะ

dinner in the sky เป็นบริการร้านอาหารแนวใหม่ ชื่อยี่ห้อให้ความหมายตรงตัวอยู่แล้วว่าเป็นอาหารมื้อเย็น ไฮไลต์อยู่ที่แขกต้องนั่งล้อมวงรับประทานบนความสูง 40-50 เมตรจากพื้นดิน เทียบเท่าความสูงตึก 12 ชั้น

เป็นความแปลก ผสมกลิ่นอายแอดเวนเจอร์นิดๆ ทำให้โลกโซเชียลบอกต่อกันมาว่าเป็นดินเนอร์มื้อพิสดาร

Advertisement

คำถามแรกเลยคือปลอดภัยหรือปล่าวว้า… ขาจะสั่นไหมเนี่ย…

จับพลัดจับผลูได้รับตั๋วเชิญมา 1 ใบในรอบสื่อมวลชน มีโอกาสผ่านประสบการณ์จริง เออแฮะ ไม่ได้น่าหวาดเสียวอย่างที่คิด

ตอนอยู่บนอากาศไม่ทันได้รู้สึกวาบหวิวเพราะเก้าอี้และโต๊ะอาหารที่นั่งรับประทานกล่าวได้ว่าค่อนข้างนิ่ง ใกล้เคียงกับอยู่บนพื้นดิน ที่สำคัญคืออาหารอร่อยมาก เสิร์ฟ 4 คอร์สในเวลา 1 ชั่วโมงแค่นั่งดูเชฟปรุง+จัดจานก็เพลินแล้ว

ชุดโต๊ะอาหารลอยฟ้าผลิตจากประเทศต้นทางแล้วนำเข้ามาประกอบเป็นชิ้นเดียวกันในเมืองไทย ราคา 6 ล้านบาท บรรจุเก้าอี้ 22 ที่นั่ง (ขอบคุณข้อมูลจากคุณเปิ้ล ทีมงานดินเนอร์ อิน เดอะ สกาย ไทยแลนด์)

น้ำหนักบรรทุกน่าจะเหลือเฟือ วิธีการคือใช้เครนยกขึ้นไปลอยอยู่บนฟ้า คาพาซิตี้หรือความสามารถในการยกอยู่ที่น้ำหนัก 200 ตัน ชุดโต๊ะอาหารน้ำหนักไม่เกิน 4 ตัน

เมื่อบวกกับน้ำหนักคน แบ่งเป็นลูกค้า 22 คน เชฟ 1 คน ผู้ช่วยเชฟ 2 คน ซีเคียวริตี้การ์ดหรือพนักงานอำนวยความปลอดภัย 2 คน รวมทั้งหมด 27 คน คำนวณเผื่อๆ ไว้เลยว่าอีก 3 ตัน หรือ 3,000 กิโลกรัม

เบ็ดเสร็จน้ำหนักที่ยกแต่ละครั้งประมาณ 7 ตัน ในขณะที่ความสามารถของเครนยกได้ 200 ตัน โห เกือบ 30 เท่าเลยมั้ง

ในด้านเวลา กำหนดวันละ 2 รอบ เริ่มจากรอบซันเซ็ต (sun set) หรือรอบพระอาทิตย์อัสดง เวลา 18.00 น. รอบสองเรียกว่าซิตี้ไลท์ส (city lights) หรือรอบเพลิดเพลินแสงสียามราตรี เวลา 19.30 น.

แต่ละรอบใช้เวลา 60 นาที มีเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการเคลียร์โต๊ะ จัดจานและอาหารชุดใหม่สำหรับรอบสอง เบื้องหลังการเตรียมงานจึงใช้เชฟ 3 คน แบ่งเป็น 2 คน ขึ้นบัญชาการมื้อดินเนอร์ลอยฟ้า 2 รอบ กับเชฟอีก 1 คนเตรียมอาหารอยู่บนพื้นดินสำหรับเสิร์ฟรอบ 1 ทุ่มครึ่ง

ในด้านค่าใช้จ่าย มี 2 ราคา แบ่งเป็นวันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) หัวละ 4,990 บาท แปลว่าจ่าย 5,000 ทอนมาสิบบาท ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ขยับเป็นหัวละ 5,390 บาท พูดอีกทีก็หัวละ 5,400 เพราะทอนมาสิบบาท

เงื่อนไขลูกค้าไม่ถึงกับฟรีสไตล์ แอบมีข้อจำกัดนิดหน่อย กล่าวคือ อายุเริ่มต้น 8 ขวบ กรณีไม่ถึง 15 ปี (8-15 ปี) ต้องมีหนังสือยินยอมจากผู้ปกครอง

ส่วนผู้ใหญ่ไม่จำกัดอายุ ขึ้นกับสังขาร อุ๊ย หมายถึงต้องไม่มีโรคประจำตัวที่ไม่สามารถขึ้นที่สูง เช่น โรคกลัวความสูง โรคหัวใจ รวมไปถึงหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นข้อห้ามเด็ดขาด

ขั้นตอนปฏิบัติก่อนขึ้นประทับบั้นท้ายบนเก้าอี้เขาจะให้เซ็นเอกสารว่าไม่มีโรคเหล่านี้จริงๆ (ถ้ามีต้องรับผิดชอบตัวเองเพราะถือว่าปกปิดข้อมูล)

ส่วนการจองที่นั่งต้องทำบุ๊กกิ้งบนออนไลน์เท่านั้น www.dinnerinthesky.co.th ไม่ว่าจะมาเดี่ยวๆ หรือเป็นหมู่คณะ

อีกเรื่องที่เขาฝากป่าวประกาศก็คือมีเวลาแค่ 2 เดือน ตั้งแต่วันนี้จนถึง 28 กุมภาพันธ์ 2561 เท่านั้น พิกัดที่ตั้งอยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 22 กับ 24 ตัวเก้าอี้สามารถหมุนซ้ายหมุนขวาได้ 180 องศา

ไหนๆ ก็ไหนๆ แอบกระซิบวิธีเลือกมุมที่นั่ง ทีมงานบอกว่านั่งหันหลังให้ห้างเอ็มโพเรียมวิวแจ่มสุดสุดเพราะหันหน้าเข้าหาเมือง เป็นวิวตึกสูงสวยๆ แบบ 180 องศาหรือพานอรามาวิว

พาคนรู้ใจไปเปิดประสบการณ์ร่วมกัน แนะนำเลย ขอบอก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image