คอลัมน์ เดินไปในเงาฝัน : ตู้เปลี่ยนขยะเป็นเงิน

ในชีวิตการทำงาน หากมีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศเมื่อไหร่ ถือมีโชควาสนาอย่างยิ่ง เพราะลำพังเอง คงไม่มีเงินมากพอที่จะเดินทางด้วยตัวเอง

ภาษาอังกฤษก็งูๆ ปลาๆ

สถานที่ต่างๆ ก็รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง

เพราะฉะนั้น ปีหนึ่งๆ จึงเฝ้ารอว่าเมื่อไหร่หนอบุญจะหล่นทับ บางครั้งผ่านไป 2-3 ปี ถึงจะหล่นทับสักที แต่ก็เป็นหมายข่าวในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน

Advertisement

มีญี่ปุ่นบ้างประปราย

แต่สำหรับยุโรปไม่ต้องพูดถึง นานๆ จะวนเวียนมาสักครั้ง แต่อย่างที่บอกแหละ ถ้าเขาไม่เชิญมา เราก็คงไม่มีโอกาส เพราะการเดินทางไปต่างประเทศใช้เงินสูงมาก

แต่ถ้ามีโอกาสจริงๆ ผมจะใช้เวลาทุกนาทีให้คุ้มค่าอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเดินถ่ายรูปสถานที่ต่างๆ อย่างที่ตัวเองชอบ เดินชมพิพิธภัณฑ์ เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์ของประเทศนั้นๆ เดินชมปราสาท โบสถ์ หรือไม่ก็เดินสำรวจบ้านเรือน ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า

Advertisement

เมื่อยมากก็นั่งจิบกาแฟดูชีวิตผู้คน

เข้าร้านหนังสือ

ร้านถ่ายรูป

และอื่นๆ อีกมากมายเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวย

แม้แต่ยามค่ำคืน ผมก็ไม่ชอบที่จะนอน แต่กลับไปนั่งตามผับ คลับ บาร์ เพื่อหาสุนทรียรสให้ตัวเอง เหตุผลที่ทำอย่างนี้ไม่มีอะไรมาก

แค่อยากใช้ทุกวินาทีให้คุ้มค่ามากที่สุด

เพราะเราไม่ได้มาบ่อยๆ

อีกอย่างผมชอบคิดว่าโอกาสดีๆ อย่างนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับชีวิตบ่อยครั้งนัก ดังนั้น เมื่อมีโอกาสไป ผมจึงเลือกที่จะเดิน เดิน เดิน และก็เดิน เดิน เดิน

เหมือนอย่างครั้งหนึ่งนานมากแล้ว ผมมีโอกาสไปเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ผมก็ใช้วิธีอย่างที่เล่าให้ฟังนี้บริหารชีวิตตัวเอง

เพียงแต่เยอรมนีในวันนั้นกับเยอรมนีในวันนี้แตกต่างกัน

โดยเฉพาะเรื่องการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอย่างที่ทุกคนทราบกันประเทศนี้มีนิกเนมว่า “เมืองเบียร์” ดังนั้น ผู้คนในเมืองนี้จึงชอบดื่มเบียร์กันมาก

ทั้งยังมีหลากหลายยี่ห้อ

สำคัญไปกว่านั้นคำว่า “เบียร์” ถูกกว่า “น้ำ” เป็นเรื่องจริง ผู้คนของเขาจึงนิยมดื่มเบียร์แทนน้ำ และเบียร์ของเขานอกจากจะมีกระป๋อง

ยังมีเป็นขวดด้วย

ผลเช่นนี้ จึงทำให้กระป๋องเบียร์ และขวดเบียร์กลายเป็นขยะเกลื่อนเมือง จนทำให้ผู้บริหารประเทศต้องคิดหาทางออกว่าจะแก้กับปัญหากับเรื่องนี้อย่างไรดี

เพราะบ้านเขาไม่เหมือนบ้านเราที่มีซาเล้งคอยเก็บขยะไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่า เพื่อนำไปแปรรูปอีกครั้งหนึ่ง แต่เขากลับใช้วิธีบริหารจัดการด้วยการให้ประชาชนภายในประเทศทำการคัดแยกขยะด้วยตนเอง

ผมไม่รู้ว่าวิธีการบริหารจัดการในเรื่องเหล่านี้มีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน แต่เชื่อแน่ว่าน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะล่าสุดผมทราบข่าวว่าเมือง

แฟรงก์เฟิร์ตมีวิธีกำจัดขยะรูปแบบใหม่

ด้วยการติดตั้งตู้เปลี่ยนขยะเป็นเงิน โดยให้ประชาชนนำขวด หรือกระป๋องเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ที่มีสัญลักษณ์สำหรับใส่ตู้ชนิดนี้ ทั้งยังมีราคากำหนดอยู่ด้านหลังว่าถ้านำขวด หรือกระป๋องไปใส่ตู้เปลี่ยนขยะเป็นเงินแล้วจะได้เงินกลับมาเท่าไหร่

ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 0.25 ยูโร

หรือประมาณ 10 บาท/1 ขวด

ตู้เปลี่ยนขยะเป็นเงินไม่เพียงจะตั้งอยู่ตามห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต และแหล่งชุมชนต่างๆ หากตู้เปลี่ยนขยะเป็นเงินยังตั้งอยู่บริเวณสนามบิน

แฟรงก์เฟิร์ตด้วย

ตู้นี้รับขยะไม่อั้น

ใส่ขวด หรือกระป๋องลงไปปุ๊บ ตู้จะแจ้งให้ทราบทันทีว่าตอนนี้คุณมีเงินเท่าไหร่แล้ว จากนั้น ถ้าเราไม่อยากได้เงิน ยังสามารถบริจาคให้กับองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรต่างๆ ได้อีกด้วย

หรือถ้าเราอยากได้เงิน เรากดปุ่มรับเงิน สลิปกระดาษจะออกมา เราก็นำสลิปที่บอกจำนวนเงินทั้งหมดไปให้แคชเชียร์ เขาก็จะให้เงินสดกับเรา

ผมว่าเป็นไอเดียที่ดี

และยังไม่เห็นในประเทศอื่นๆ

เพราะไม่เพียงเป็นการกำจัดขยะที่ถูกต้อง ยังเป็นแรงจูงใจให้ผู้คนอยากเก็บขยะมาใส่ตู้ด้วย เพื่อจะได้นำขยะเหล่านั้นไปรีไซเคิลในการนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง

แต่อย่างว่าแหละประเทศเขาไม่เหมือนกับประเทศเรา เพราะบ้านเขาไม่มีอาชีพซาเล้งเพื่อแปรรูปขยะเป็นเงิน แต่ตอนนี้ทราบข่าวว่านักเรียนไทยบางส่วนเริ่มมีรายได้เสริมจากการเก็บขยะใส่ตู้เปลี่ยนขยะเป็นเงินกันบ้างแล้ว

เพราะแฟรงก์เฟิร์ตเป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงินของโลก ทั้งยังเป็นเมืองที่มีการจัดนิทรรศการตามเอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ต่างๆ จำนวนมาก

เมื่อมาก ขยะจะมากตามไปด้วย จนทำให้นักเรียนไทยบางส่วนที่ไปเรียนหนังสืออยู่ที่นี่เริ่มหัวใส ด้วยการออกไปเก็บขวด กระป๋องเครื่องดื่มประเภทต่างๆ ที่คนทิ้งลงถังขยะมาใส่ตู้เปลี่ยนขยะเป็นเงิน

10 ขวด ก็ 100 บาท

20 ขวด ก็ 200 บาท

30 ขวด ก็ 300 บาท

เงินจำนวนนี้แม้อาจจะไม่มากมาย แต่สำหรับนักศึกษาไทยบางคนที่ไปเรียนหนังสืออยู่ที่โน่น ผมว่าเงิน 100-200-300 บาท มีค่าสำหรับเขานะ

เพราะค่าใช้จ่ายในยุโรปแพงกว่าบ้านเราหลายเท่านัก

ดังนั้น ถ้าใครมีโอกาสไปแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ลองสังเกตขวดกระป๋องที่มีสัญลักษณ์แปรรูปขยะเป็นเงินดู เผื่อบางทีคุณจะมีเงินซื้อของที่ระลึกฝากเพื่อนพี่น้องมากขึ้นก็ได้

ลองดูนะครับ

ส่วนผมคงต้องรอบุญหล่นทับอีกครั้งถึงจะได้ไป (ฮา)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image