| ที่มา | หน้าประชาชื่น มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | บางกอกเกี้ยน |
| เผยแพร่ |
น้องหนูที่ติดตามชมละครโทรทัศน์เรื่อง “บุพเพสันนิวาส” เห็นถึงบทบาทของพระเพทราชา หรือ “ออกพระเพทราชา” ว่าเข้มแข็งเพียงไรกับการต่อต้านเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ หรือคอนสแตนติน ฟอลคอน ทั้งท้วงติงติติงพระนารายณ์ ไม่ว่าจะเป็นกรณีได้รับชวนให้เข้ารีตถือศาสนาคริสต์ หรือการให้ยกทหารเข้ามากรุงศรีอยุธยา
ขณะที่บทบาทของพระนารายณ์ทรงแสดงให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถที่สุขุม ตบโต้กับพระเพทราชาทั้งอ่อนโยนและรุนแรง
เรื่องราวของพระเพทราชาในฐานะศูนย์กลางของการต่อต้านอิทธิพลของคริสตศาสนาและฝรั่งเศส และผู้นำการรัฐประหารในช่วงปลายร่วมกันออกญาสรศักดิ์ หรือพระเจ้าเสือ กำจัดผู้มีสิทธิสืบราชสมบัติ ตลอดจนสำเร็จโทษเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ ระหว่างสมเด็จพระนารายณ์ประชวรหนัก จึงเป็นผู้สืบราชสมบัติเป็นกษัตริย์องค์ที่ 26 ของกรุงศรีอยุธยาสถาปนาราชวงศ์บ้านพลูหลวงขึ้นมา
พระเพทราชาครองราชย์ได้ 15 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อพระชนมายุ 71 พรรษา
วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายนนี้ มติชน อคาเดมี ชวนให้น้องหนูไปทัวร์ ออกพระเพทราชา “ฮีโร่” แห่งกรุงศรีฯที่จังหวัดสุพรณบุรีและพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เช้าถึงค่ำม้วนเดียวจบ
ด้วยวัดหน่อพุทธางกูร ที่สุพรรณบุรี คือบริเวณสันนิษฐานว่าเป็นแขวงบ้านพลูหลวง นิวาสสถานเดิมของพระเพทราชา ชมภาพจิตรกรรมฝาผนัง ฝีมือช่างเขียนนานาชาติ เขียนภาพชาดกพระธาตุจุฬามณีในพระอุโบสถวัดกุฎีทอง มีตำนานถึงชายคนหนึ่งที่มานอนหลับในวัดเชิงหวาย (ชื่อวัดเดิม) มีเสียงกรนเป็นเสียงดนตรี เมื่อ
เจ้าอาวาสมาปลุกบอกว่าเกิดที่บ้านพลูหลวง ถนัดเลี้ยงช้างจะไปอยุธยาสมัครเป็นทหารในกองช้าง เจ้าอาวาสเห็นลักษณะแล้วทำนายว่าให้รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีต่อไปภายภาคหน้าจะได้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ชายผู้นั้นจึงปวารณาตัวว่า หากเป็นจริงจะมาสร้างกุฎีทองถวายชายผู้นี้ต่อมาคือพระเพทราชา ได้เป็นกษัตริย์อยุธยา แล้วโปรดให้สร้างกุฎีเป็นทองถวาย เปลี่ยนชื่อวัดเป็นวัดกุฎีทองซึ่งยังมีเสลี่ยงเชื่อว่าเป็นเสลี่ยงของพระเพทราชาเสด็จมาสมโภชแล้วไม่ได้นำกลับไป
ส่วนเพนียดคล้องช้างที่อยุธยา คือสถานที่จับช้าง ย้ายจากที่เดิมมาอยู่ ณ ที่นี้ มีเรื่องของพระเพทราชาในตำแหน่งพระเพทราชาธิบดีศรีสุริยาอภิชาติสุริยวงษ์องคสมุหะฯ จางวางกรมพระคชบาท ถือเป็นกรมใหญ่และช้างที่มีความสำคัญในฐานะสัตว์คู่บารมีพระมหากษัตริย์
วัดพระยาแมน มีบันทึกว่าเป็นวัดที่สมเด็จพระเพทราชาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ ทั้งยังเปน็ วัดที่พระเพทราชาทรงผนวชเมือ่ ครัง้ เปน็ ขุนนาง พระอาจารย์ทำนายว่าจะได้ขึ้นครองราชสมบัติ
วัดสุดท้าย คือวัดบรมพุทธาราม ตั้งในมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่พระเพทราชาโปรดให้สร้างขึ้นในบริเวณย่านป่าตอง ติดคลองฉะไกรน้อย เป็นบ้านเดิมขณะประทับในอยุธยา เคยเป็นพระอารามหลวงพระอุโบสถและศาลาการเปรียญมุงหลังคาด้วยกระเบื้องเคลือบแปลกกว่าวัดอื่น
ตลอดการเดินทาง น้องหนูจะได้ฟังการบรรยายอย่างลึกซึ้งถึงยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์ และประวัติศาสตร์ยุคแห่งความเจริญสุดยอดของอยุธยา และการชิงไหวชิงพริบทั้งของฟอลคอน พระเพทราชา และพระนารายณ์ที่ส่งเอกอัครราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ของฝรั่งเศสนานถึง 2 ปี จาก รองศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พิศภูมิวิถี อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ศึกษาค้นคว้ายุคสมัยพระนารายณ์ และยุคสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 อย่างลึกซึ้งจากประวัติศาสตร์ไทยและประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส
น้องหนูเต็มอิ่มครั้งที่สอง “บุพเพสันนิวาส” ก่อนข่าวภาคค่ำ ช่อง 3 ขณะนี้ เต็มอิ่มกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์กรุงศรีอยุธยายุคขุนหลวงนารายณ์ วันนี้มาเติมเต็มกับเรื่องของ “ออกพระเพทราชา” ผู้ชื่อว่า “ฮีโร่” ในสายตาชาวอยุธยา ในราคาคนละ 2,700 บาท พร้อมอิ่มอร่อยกับอาหารสองมื้อ เช้ากับเที่ยง
เที่ยวไปกับมติชน อคาเดมี รับวิชาความรู้หลากหลายลึกซึ้งทุกแง่มุมประวัติศาสตร์จากผู้ทรงคุณวุฒิ ครบรสและสนุกสนานไปกับเกร็ดประวัติศาสตร์ คุ้มเกินกว่าที่คิด (แล้วรอชม “พรหมลิขิต” ไม่นานเกินรอ)
