ฮวน ฟอนตาเนียล การกลับมาของโค้ชคิวบาหัวใจไทย

วงการมวยสากลสมัครเล่นของไทย อยู่ในยุคมืดมาหลายปี ไม่ว่าจะเป็นเวทีเล็กไปจนถึงเวทีใหญ่ต่างไม่ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ไล่ตั้งแต่ระดับซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์ ไปจนถึงโอลิมปิกเกมส์

ย้อนไปเมื่อ “ริโอเกมส์” โอลิมปิกเกมส์ เมื่อปี 2016 ที่ผ่านมา นับได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่ขุนพลเสื้อกล้ามของไทย ไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลใดๆ กลับมาจากมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

ยิ่งตอกย้ำจากเอเชี่ยนเกมส์ หนล่าสุด ที่ไม่มีแม้แต่เหรียญทองเดียว แถมนักชกชายยังไม่มีใครเข้าชิงเลยสักคนด้วย เรียกได้ว่าเป็นยุคมืดอย่างแท้จริง

นั่นยิ่งทำให้วงการผืนผ้าใบของไทยนั้นเรียกร้องยอดโค้ชชาวคิวบาอย่าง “ฮวน ฟอนตาเนียล” กลับเขามากู้ศักดิ์ศรีของวงการมวยไทย

Advertisement

ถ้าถามว่าทำไมถึงต้องเป็นฮวน ฟอนตาเนียล ก็คงต้องไปย้อนดูประวัติของเขาเสียก่อน เพราะว่านี่คือโค้ชที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์วงการมวยสากลสมัครเล่นของไทยนั่นเอง

โค้ชชาวคิวบาเข้ามาอยู่เมืองไทยตั้งแต่ปี 1993 (พ.ศ.2536) ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการพาทีมมวยสากลสมัครเล่นของไทย คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ ในโอลิมปิกเกมส์ 1996 ที่เมืองแอตแลนต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา จากนักชกเจ้าของฉายา “โม้ อมตะ” “สมรักษ์ คำสิงห์” แถมยังมีอีก 1 ทองแดงจาก “วิชัย ราชานนท์”

ไม่เพียงแค่นั้น ในเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 1998 ก็เป็นครั้งที่ไทยได้เหรียญมากถึง 5 ทอง 3 ทองแดงด้วยกัน

Advertisement

เท่านั้นยังไม่พอ อีก 2 ปีต่อมา ใน “โอลิมปิกเกมส์ 2000” ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ฟอนตาเนียล ก็ยังคงท็อปฟอร์ม พานักชกไทยคว้ามาได้อีก 1 เหรียญทองจาก “วิจารณ์ พลฤทธิ์” กับอีก 1 ทองแดงจาก “พรชัย ทองบุราณ”

จากนั้นใน “โอลิมปิกเกมส์ 2004” ที่กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เป็นครั้งที่นักชกไทยคว้าเหรียญรางวัลมาพร้อมๆ กันมากที่สุดคือ 1 ทอง จากฮีโร่อย่าง “มนัส บุญจำนงค์” 1 เงิน จาก “วรพจน์ เพชรขุ้ม” และ 1 ทองแดงจาก “สุริยา ปราสาทหินพิมาย”

หลังจากโอลิมปิกเกมส์ที่ประเทศกรีซ ฟอนตาเนียล ก็ถูกคิวบา ดึงกลับไปทำมวยที่บ้านเกิดตัวเอง แม้ว่าไทยจะยังได้เหรียญทองจาก “สมจิตร จงจอหอ” ในโอลิมปิกเกมส์ที่จีน แต่หลังจากนั้นทัพมวยสากลสมัครเล่นของไทยก็ไม่เคยคว้าเหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์ได้อีกเลย

จนสุดท้าย “นายพิชัย ชุณหวชิร” นายกสมาคมกีฬามวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ก็สามารถดึงตัวฟอนตาเนียล กลับมาคุมมวยสากลสมัครเล่นของไทยได้อีกครั้ง จากในปีแรกที่คุมเพียงทีมหญิง แต่ในปี 2019 ฟอนตาเนียลจะได้คุมทั้งทีมชายและทีมหญิงไปพร้อมๆ กัน

ดังนั้น วันนี้จึงได้โอกาสที่จะเปิดใจยอดโค้ชชาวคิวบารายนี้ ว่าตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา ที่ไม่ได้อยู่เมืองไทย เป็นอย่างไรบ้าง มีความคิดถึงเมืองไทยมากแค่ไหน และช่วยเจาะปัญหาของขุนพลเสื้อกล้ามไทย ก่อนที่จะต้องเตรียมตัวเพื่อโอลิมปิกเกมส์กัน

คำถามแรกอยากให้เล่าหน่อยว่ามาอยู่เมืองไทยได้อย่างไร?

ผมมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่ปี 1993 อยู่ยาวถึง 11 ปีด้วยกัน พาทีมไปโอลิมปิกเกมส์ที่แอตแลนต้า ที่สมรักษ์ คำสิงห์ ได้เหรียญทอง แล้วก็วิชัย (ราชานนท์) ได้เหรียญทองแดง จากนั้นไปซิดนีย์ 2000 วิจารณ์ (พลฤทธิ์) ได้เหรียญทอง กับพรชัย (ทองบุราณ) ได้เหรียญทองแดง แล้วก็มีที่เอเธนส์ ปี 2004 พามนัส (บุญจำนงค์) ได้ทอง วรพจน์ (เพชรขุ้ม) ได้เงิน แล้วก็ สุริยา (ปราสาทหินพิมาย) ได้ทองแดง

แต่จากนั้นผมก็ต้องกลับไปคิวบา ทางสมาคมมวยสากลสมัครเล่นของไทยอยากได้ตัวคืน แต่ทางคิวบาเองไม่ยอม จนปี 2008 โอลิมปิกเกมส์ที่จีน มวยของคิวบาก็ต้องไปจีน ดังนั้น ทีมมวยสากลของไทยก็เลยยกทีมกันไปเก็บตัวที่คิวบา 3 เดือนด้วยกัน มีมนัสเป็นคนนำไปคนแรก แล้วตอนกลับผมก็อยากกลับมาด้วยนะแต่รัฐบาลคิวบาไม่ยอม แต่โอลิมปิกเกมส์ครั้งนั้นก็สมจิตร จงจอหอ ได้เหรียญทองไป

ผมจากเมืองไทยไป 14 ปี ไปแต่งงานอยู่ที่เม็กซิโก และก็ได้สัญชาติเม็กซิโก เป็นโค้ชมวยให้กับที่นั่น ทุกอย่างดีมาก ครอบครัวก็อยู่ด้วยกัน แต่ทางสมาคมกีฬามวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยก็พยายามพาตัวกลับมาเมืองไทย ซึ่งพอปลายปี 2017 (พ.ศ.2560) สัญญากับเม็กซิโกหมดลง แล้วผมไม่ได้เซ็นสัญญาฉบับใหม่ ก็เลยกลับมาเมืองไทยอีกครั้ง

กลับมาเมืองไทยครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

ตอนนี้ผมกลับมาอยู่เมืองไทยได้ราวๆ 8-9 เดือนแล้ว สมาคมฯ ต้องการให้ผมเข้ามาช่วยดูแลมวยหญิงก่อนเป็นอันดับแรก เพราะว่าที่ผ่านมาผมได้ยินมาว่ามีปัญหาเยอะมาก คนพูดกันว่ามวยหญิงไปแข่งที่ไหนก็แพ้ มีแต่ข่าวที่ไม่ดีออกมา แต่ผมกลับมาได้แค่ไม่กี่เดือน ตอนนี้มวยผู้หญิงของไทยพัฒนาขึ้นมามาก อย่างเอเชี่ยนเกมส์ ที่อินโดนีเซีย ได้มา 1 เหรียญเงิน กับ 2 ทองแดง หรือในยูธโอลิมปิกเกมส์ก็ได้มา 1 ทอง 1 เงิน เยาวชนชิงแชมป์โลกได้เหรียญเงินอีก 3 คน ทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 8 เดือนเท่านั้นเอง ส่วนรุ่นใหญ่ไปชิงแชมป์โลก “สุดาพร สีสอนดี” ก็แพ้ในรอบชิงชนะเลิศ เมื่อมองดูแล้วมันทำให้คิดว่ามวยหญิงของไทยก็สามารถมีเหรียญในโอลิมปิกเกมส์ได้แล้ว

ได้ข่าวมาว่าปีหน้าจะต้องทำมวยชายแล้วด้วย?

ใช่แล้ว ปีหน้าก็จะต้องทำทั้งมวยชายกับมวยหญิงพร้อมๆ กัน แต่เอาจริงๆ ตอนนี้ยังไม่ค่อยรู้จักนักมวยชายรุ่นใหม่ๆ เลย รู้จักก็แค่สายลม (อาดี) เพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ผ่านมาเวลาออกไปทัวร์นาเมนต์ก็จะพยายามดูมวยผู้ชายชกด้วยว่าเป็นอย่างไร หลายคนบอกว่ามวยชายนั้นมีปัญหาชอบชกดีแค่ยกแรก ไปแพ้ยก 2-3 ตลอดเลย ก็ต้องมาดูว่าจะทำยังไง

แล้วจะเริ่มงานเมื่อไหร่ อย่างไร?

หลังจากนี้ผมจะกลับไปเม็กซิโกก่อน พักผ่อน 1 เดือน แล้วจะกลับมาเมืองไทยวันที่ 24 มกราคม แล้วถัดจากนั้นวันเดียวก็จะเข้าไปแคมป์มวยทีมชาติไทยที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทันที แล้วก็จะให้ทั้งทีมมวยชายและมวยหญิง เข้าไปเก็บตัวพร้อม

ผมได้ดูทีมมวยชายลงนวมไปบ้าง คิดว่ายังพอจะมีดีได้ แต่ว่าทีมมวยชายยังมีปัญหาในเรื่องของเทคนิค ความฟิต แล้วก็วินัย ดังนั้น ต้องเข้ามาเซตใหม่ทั้งหมด

เป้าหมายของการเข้ามาทำมวยครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

เป้าหมายของผมเลยคืออยากกลับมาพัฒนาให้มวยสากลสมัครเล่นของไทยนั้นดีขึ้น ผมไปดูในเอเชี่ยนเกมส์ที่ผ่านมามวยไทยก็ยังคงเก่งอยู่ หรือดูลงนวมวันก่อนก็ยังมีมวยดี มีมวยที่เป็นไฟเตอร์ (มวยเดินลุย) อยู่ เพียงแต่ยังไม่มีเทคนิค ไม่ฟิต ไม่พร้อม รวมถึงเรื่องวินัยด้วย ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ยังคิดว่าตัวเองสามารถทำได้

ให้มองมวยสากลสมัครเล่นของไทย ตอนนี้เป็นยังไง?

ย้อนกลับไปเมื่อ 14 ปีที่แล้ว มวยสากลสมัครเล่นของไทยเก่งมาก เราไม่เคยกลัวมวยของคาซักสถาน สู้ได้ตลอด แต่ตอนนี้มวยผู้ชายของไทยอยู่ล้าหลังคาซักสถานมาก ดังนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอากลับขึ้นมาได้

แต่ของแบบนี้ก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ เพราะแค่เวลา 2-3 เดือนทุกอย่างจะสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้หมด ลองดูอย่างมวยหญิงเป็นตัวอย่าง ผมกลับมาอยู่แค่ไม่กี่เดือนก็สามารถทำผลงานดีได้ จากเดิมที่ไปไหนไม่มีเหรียญเลย แต่ตอนนี้ไปที่ไหนก็มีเหรียญ

ผมตามกามนิตย์ นารีรักษ์ ที่ก่อนหน้านี้ไปอยู่เวียดนาม ให้กลับมาช่วยผมที่เมืองไทย เพราะกามนิตย์นี้ถือว่าเป็นมือซ้ายของผมเลยก็ว่าได้

ปัญหาของนักชกไทยตอนนี้อยู่ที่มวย แล้วก็โค้ช เป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขให้ได้ เมื่อก่อนทีมชาติไทยสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายชุด แบ่งทีมบี ไปซีเกมส์ที่บรูไน ยังได้มาตั้ง 8 เหรียญทอง หรือซีเกมส์ที่เชียงใหม่ ใช้ชุดเอ ก็ได้มา 11 ทอง

ช่วงที่ไม่อยู่เมืองไทยได้ติดตามข่าวสารมวยไทยบ้างไหม?

ก็ยังได้ติดตามข่าวคราวของมวยไทยอยู่บ้าง สมัยนี้มีอินเตอร์เน็ตแล้ว อะไรๆ ก็ง่ายขึ้น ผมเล่นเฟซบุ๊กได้คุยกับวรพจน์ (เพชรขุ้ม) สุบรรณ (พันโนน) หรือสมรักษ์ (คำสิงห์) ก็มีส่งข่าวคราวมาคุยกันตลอด ถึงแม้ว่าตัวผมจะไม่ได้อยู่เมืองไทย แต่ก็ยังเหมือนอยู่ตลอดเวลา

อยากให้มองจุดเด่น-จุดด้อย ของมวยสากลไทยตอนนี้?

ตอนนี้ผู้หญิงนั้นอยู่เหนือกว่าผู้ชายเยอะเลย มีทั้งเทคนิค ร่างกาย ทุกอย่าง แต่กลับกันผู้ชายกลับไม่มี เมื่อก่อนนี้ผู้ชายทำในสิ่งที่ผู้หญิงก็ทำได้ แต่ตอนนี้ผู้ชายทำในสิ่งที่ผู้หญิงทำไม่ได้ ปัญหามันอยู่ที่ว่าไม่มีคนสอนเรื่องของเทคนิค ผู้หญิงมีต่อยลำตัว มีเทคนิค แต่ผู้ชายมีแค่ต่อยเข้าหน้า ซึ่งมันต่างกันมาก จุดอ่อนของมวยไทยที่เห็นชัดเจนเลย คือเป็นมวยที่มีแต่หมัด 1-2 หรือ 1-1-2 แต่กลับไม่มีหมัดชุดรวๆ ที่จะเอาไว้ทำแต้มได้

ตอนนี้ผมให้เวลา 2 เดือนที่จะเข้ามายกเครื่องใหม่หมด เรามีทัวร์นาเมนต์รออยู่ในเดือนกุมภาพันธ์ ทีมเอ จะไปบัลแกเรีย ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่, ทีมบี ไปอินเดีย และทีมซีไปฮังการี และทีมเอยังมีเอเชี่ยน แชมเปี้ยนชิพ เพื่อคัดเลือกไปเวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เท่ากับว่าถ้าคนไหนที่ผ่านได้ติดทีมชุดที่ไปเอเชี่ยน แชมเปี้ยนชิพ ก็เท่ากับว่ามีโอกาสได้ลงเล่น 3 ทัวร์นาเมนต์ในปีนี้

อะไรบ้างที่จะต้องรีบเข้ามายกเครื่องมวยสากลของไทยในตอนนี้?

อันดับแรกคือเพิ่มสมรรถภาพของร่างกายให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง เพราะตอนนี้สภาพร่างกายของนักชกไทยไม่ได้เลย ภายใน 1 เดือนแรกจะต้องทำให้ร่างกายกลับมาสมบูรณ์เหมือนเป็นนักมวยมากที่สุด ใครทนไม่ได้ก็สามารถออกจากแคมป์ไปได้เลย

เรื่องต่อมาก็คือพัฒนาเทคนิคการชก การชกทีละหมัดสองหมัดจะต้องลดลงไป ให้มีหมัดชุด มีหมัดรัวๆ มากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ใครไม่สามารถปรับได้ก็ให้ออกจากทีมไปเช่นกัน

อันดับสุดท้ายคือเรื่องของจิตใจ นักชกชุดนี้ไม่มีสมาธิ ไม่ทุ่มเท ก็จะให้โอกาสครั้งสุดท้าย ไม่ใช่แค่นักมวย แต่รวมไปถึงสต๊าฟโค้ชด้วย เส้นตายทั้งหมดจะอยู่ที่เดือนมีนาคม หลังจากที่ส่งไปแข่งขันทีมเอ, บี, ซี กลับมาเรียบร้อยแล้ว แล้วก็จะจัดทีมใหม่อีกครั้งหนึ่ง

“…ผู้หญิงอยู่เหนือกว่าผู้ชายเยอะเลย มีทั้งเทคนิค ร่างกาย ทุกอย่าง
แต่กลับกันผู้ชายกลับไม่มี เมื่อก่อนนี้ผู้ชายทำในสิ่งที่ผู้หญิงก็ทำได้
แต่ตอนนี้ผู้ชายทำในสิ่งที่ผู้หญิงทำไม่ได้ ปัญหามันอยู่ที่ว่า
ไม่มีคนสอนเรื่องของเทคนิค ผู้หญิงมีต่อยลำตัว มีเทคนิค
แต่ผู้ชายมีแค่ต่อยเข้าหน้า ซึ่งมันต่างกันมาก…”

คิดว่าในโลกของมวยสากลสมัครเล่นตอนนี้เปลี่ยนไปยังไงบ้าง?

โลกมวยมันเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย มวยมีฝีมือก็มี แต่มวยแบบไม่ต่อยแล้วเป็นแชมป์โลกได้ก็มี เป็นมวยบู๊ที่ดีก็สู้ได้ชนะได้ หรือมวยแบบต่อย 2 หมัด ก็เป็นแชมป์ได้ มวยที่มีสมองดี ฟุตเวิร์กดี ก็เป็นแชมป์ได้เช่นกัน เมื่อก่อนอัปเปอร์คัทไม่ได้ ก็ทำได้แล้ว แต่มวยไทยฟุตเวิร์กของคนไทยมีปัญหา เพราะว่าที่นี่ชกมวยไทย แต่ปรับมาชกมวยสากล ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเปลี่ยนแปลง

ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในเมืองไทยเป็นอย่างไร?

ผมอยู่ที่เมืองไทยก็รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ทุกคนรู้จักผม ตัวผมก็รู้จักวัฒนธรรมไทยดี อยู่เมืองไทยสบายมาก

คิดอยากปักหลักที่เมืองไทยบ้างไหม?

ผมไม่ได้คิดที่จะปักหลักอยู่ในเมืองไทยยาวๆ เพราะตอนนี้เองก็อายุมากแล้ว อายุ 65 ปีแล้ว แล้วก็ยังมีบ้านอยู่ที่เม็กซิโกด้วย หลังจากจบโอลิมปิกเกมส์ก็คงกลับเม็กซิโก กลับไปทำมวยอาชีพที่นั่น มาครั้งนี้เหมือนกลับมาช่วยทีมชาติไทยในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น

แล้วช่วงที่ไม่อยู่เมืองไทย คิดถึงเมืองไทยไหม?

ผมคิดถึงเมืองไทยมากๆ เพราะว่าเราเคยมาอยู่ที่นี่หลายปี แล้วก็มีลูกสาวที่นี่ด้วย ถึงแม้ว่าตัวจะอยู่ที่อื่น แต่ว่าใจของผมเองก็อยู่ที่เมืองไทยมาตลอด แล้วอยากกลับเมืองไทยตลอดเช่นกัน

เวลาว่างๆ ชอบไปเที่ยวหรือมีกิจกรรมอะไรบ้าง?

ตอนนี้เวลาว่างไม่มีแล้ว เพราะการทำมวยมันไม่มีวันหยุด แล้วปีหน้าเองก็ต้องเตรียมตัวตลอดเวลา มันไม่มีเวลาว่างเลย ปีหน้ามีทั้งซีเกมส์ แล้วก็มีคัดโอลิมปิกเกมส์ ดังนั้น ไม่รู้ว่าจะมีเวลาว่างเมื่อไหร่

เมื่อก่อนนี้อาจจะมีไปเที่ยวได้ ผมชอบไปเที่ยวทะเลเมืองไทย พัทยา หรือภูเก็ต แต่ถ้าจะไปเที่ยวต้องไปแบบที่ฟรีๆ ไม่ต้องคิดเรื่องมวยในหัวเลยสักนิดเดียว แต่ตอนนี้สมองมันคิดอยู่แต่ว่ามวยไทยมันยังไม่ดี แล้วจะทำยังไงให้มันดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา มันเลยไม่คิดเรื่องเที่ยวในหัวสักนิด

เห็นพูดขนาดนี้ การทำมวยมันเครียดขนาดไหน?

มันก็เครียดนะ เอาจริงๆ ตอนนี้มองว่าผู้หญิงสบายแล้ว คิดว่ามีถึง 90 เปอร์เซ็นต์ที่น่าจะได้เหรียญในโอลิมปิกเกมส์แน่ๆ แต่ผู้ชายตอนนี้ยังมองไม่เห็นใครที่จะคว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ได้เลย ซึ่งการที่จะมาเปลี่ยนตรงนี้มันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน อย่างผู้ชายแม้ว่าจะได้เหรียญทองยูธโอลิมปิกเกมส์ ที่อาร์เจนตินามา แต่ก็ยังเป็นระดับเยาวชน ไม่ใช่รุ่นประชาชน ต้องให้เวลาเขาก่อน

การมาอยู่เมืองไทย ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปยังไงบ้าง?

การมาเมืองไทยทำให้ชีวิตของผมเปลี่ยนไป ทำให้ชีวิตของผมนั้นดีขึ้นกว่าตอนที่อยู่คิวบา ผมรู้สึกรักคนไทย รักมวย และรู้ว่าคนไทยเองก็รักผม อยากให้ผมกลับมาเมืองไทย ซึ่งตัวผมเองก็ทำทุกอย่างเพื่อจะให้ได้กลับมาอยู่เมืองไทย ดังนั้น สิ่งที่ผมจะสัญญาก็คือในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ผมจะต้องทำให้คนไทยมีความสุขให้ได้

ตลอดเวลาที่ได้คุยกับฟอนตาเนียล สิ่งที่เห็นผ่านทางสายตาก็คือความมุ่งมั่น ความเป็นห่วงที่มีต่อวงการมวยสากลสมัครเล่นของไทย ดังนั้น การกลับมาครั้งนี้หวังผลได้ว่าเราจะได้เห็นมวยสากลสมัครเล่นของไทยกลับมาผงาดอีกครั้งในโอลิมปิกเกมส์ ที่ญี่ปุ่นแน่นอน


 

ความเปลี่ยนแปลงหลัง ‘ฟอนตาเนียล’ คัมแบ๊ก

หลังจากช่วงที่ผ่านมา ฟอนตาเนียล ได้เข้ามาดูแลทีมมวยหญิง และทำให้ทีมมวยหญิงมีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะ “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี ที่คว้าเหรียญเงินเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย และยังเป็นรองแชมป์โลก เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วย

ดังนั้น ไปลองคุยกันว่าตั้งแต่ฮวนกลับเข้ามาแล้ว มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง

สุดาพรเล่าว่า การเข้ามาของฟอนตาเนียลนั้นมีทำให้การฝึกซ้อมนั้นแตกต่างออกไปจากเดิม การฝึกซ้อมมีระเบียบวินัยมากขึ้น เน้นเรื่องความแข็งแกร่ง และการฝึกซ้อมก็ต้องตรงต่อเวลา ทำให้นักกีฬาทุกคนมีระเบียบวินัยมากขึ้นกว่าเดิม

“นอกจากนี้ในการฝึกซ้อมเองก็จะเน้นเรื่องหมัดชุด เพราะเมื่อก่อนนั้นนักมวยไทยจะเป็นสไตล์มวยฝีมือ ดักต่อย 1-2 ไม่ค่อยมีหมัดชุด แต่ตอนนี้ก็ทำให้นักชกไทยนั้นมีทรงแบบนักมวยไฟเตอร์มากขึ้น ซึ่งการที่มวยต่อยหมัดรัวๆ ได้ในยุคสมัยนี้ก็จะทำให้มีโอกาสชนะมากกว่า”

เมื่อถามว่าฟอนตาเนียลนั้นดุหรือไม่ สุดาพรตอบว่า ซ้อมหนักแต่ไม่ดุเท่าไหร่ เพราะมันอยู่ที่ความมุ่งมั่นของตัวเองด้วย บ้างครั้งฟอนตาเนียลเองก็ไม่ได้จี้มากเกินไป อยู่ที่ว่าตัวเองจะทำได้ตามที่สั่งหรือไม่

กับเรื่องโอกาสการคว้าเหรียญในโอลิมปิกเกมส์นั้น นักชกสาวไทยบอกเลยว่า มีความมั่นใจในตัวฟอนตาเนียลอย่างมากว่าจะพาให้ไปถึงฝั่งฝันได้ เพราะตัวโค้ชนั้นมีประสบการณ์ อีกทั้งยังเป็นโค้ชคนแรกที่สร้างเหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์ให้กับนักกีฬาไทยได้ ดังนั้น ก็เชื่อมั่นในตัวโค้ชว่าจะมีเหรียญรางวัลได้อย่างแน่นอน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image