จับเข่าคุย เอ-วราวุธ เจนธนากุล มิติใหม่ “เซ้นส์” เขย่า “ลูกหนังไทย”

ฟุตบอลไทยกำลังจะเกิดปรากฏการณ์ “มิติใหม่” ขึ้นภายหลังจากที่ บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด กลายเป็นผู้ชนะการประมูลคว้าลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดฟุตบอลทั้งระบบ ทั้งฟุตบอลทีมชาติทุกชุด และฟุตบอลอาชีพทุกระดับ ด้วยสัญญาระยะยาวถึง 8 ปี นับตั้งแต่ปี 2021-2028 ในมูลค่ารวมทั้งสิ้น 12,000 ล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 1,500 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นเงินจำนวนมหาศาลที่จะเข้ามาช่วยปลุกกระแสวงการฟุตบอลไทยให้กลับมาได้รับความนิยมสูงสุดอีกครั้ง

ในครั้งนี้ได้มีโอกาสจับเข่าเปิดอกคุยกับ “เอ” วราวุธ เจนธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด กับแผนการสร้างปรากฏการณ์มิติใหม่ให้เกิดขึ้นกับวงการฟุตบอลไทย ด้วยแนวคิดหลักในการนำ “สปอร์ต” มาจับกับ “เอนเตอร์เทนเมนต์” กลายเป็นคำว่า “สปอร์ตเทนเมนต์” ซึ่งถือเป็นสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับวงการลูกหนังไทย โดยมีแนวทางในการผลิตคอนเทนต์เข้ามาเติมเต็มให้กับฟุตบอลไทยได้มีเรื่องเล่า มีสีสัน และมีอรรถรสมากยิ่งขึ้น

สาเหตุที่ประมูลคว้าลิขสิทธิ์ฟุตบอลไทย

สาเหตุแรกคือ เซ้นส์ เป็นบริษัทที่ทำรายการเกี่ยวกับเอนเตอร์เทนเมนต์มาหลากหลายรูปแบบแล้ว ตั้งแต่ ควิซโชว์ เกมตอบคำถามที่ให้ความรู้ วาไรตี้เกมส์โชว์ รวมจนถึงประกวดร้องเพลง รายการตลก รายการเกี่ยวกับความรัก และหลากหลายรูปแบบ สิ่งหนึ่งที่เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์เหมือนกัน แต่เรายังขาดอยู่คือ กีฬา ซึ่งเราได้ศึกษามา 4 ปีกว่าแล้ว

Advertisement

และก็สังเกตว่าท่านผู้ชมชอบดูรายการประเภทไหน เราก็เลยสนใจฟุตบอลที่เป็นกีฬาอันดับหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ พอสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดประมูล เราก็เลยสนใจ และศึกษาดู รวมถึงคิดว่า เราจะเข้ามาเติมเต็มให้คอนเทนต์กีฬาฟุตบอลมีความน่าสนใจมากขึ้นได้อย่างไร

การเตรียมความพร้อมก่อนร่วมประมูล

เรามีทีมงานวิเคราะห์ตัวเลข ดูอะไรที่หลากหลายอยู่พอสมควร และก็เป็นทีมงานที่เราศึกษาทางด้านคอนเทนต์ด้วยเหมือนกันว่า เอ๊ะ!? คอนเทนต์ของฟุตบอลไทยยังขาดเรื่องอะไรอยู่ เราก็จะเข้ามาเพื่อพยายามช่วยในองค์ประกอบหลายๆ อย่างให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

ซึ่งส่วนตัวผมเองก็เป็นคนที่ดูฟุตบอลมาเรื่อยๆ และดูฟุตบอลมาตลอด แต่ไม่ได้มีทีมสโมสรฟุตบอลไทยที่เชียร์แบบชัดเจน เพราะก็ดูตามจังหวะ แต่ทุกครั้งที่ทีมชาติไทยลงเตะ เราก็จะต้องดู ต้องเชียร์ตลอด

ความยากของคนนอกเข้ามาสู่ฟุตบอลไทย

คำว่า คนนอก ก็อาจจะเป็นคนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในทุกๆ วันของฟุตบอลไทย แต่ผมก็เป็นแฟนบอลไทยที่ติดตามผลงานอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ถามว่ายากไหม? เรามีมุมมองจากคนนอกมองเข้ามาข้างในมากกว่า ผมคิดว่า ถ้ามีใครสักคนทำเรื่องนี้กับฟุตบอลไทยนะ

ผมจะดูมากขึ้น ถ้ามีคนทำแบบนี้นะ ผมจะติดตามง่ายขึ้น ผมมีมุมมองที่ว่า ทำไมไม่มีใครทำแบบนี้ให้เลยเหมือนกับที่เราดูฟุตบอลต่างประเทศ? ทำไมคุณไม่มีเรื่องเล่าต่อเลยหรือ? ทำไมคุณแข่งแล้วก็จบกันง่ายๆ อย่างนี้เลยหรือ? คุณไม่มีประเด็นอะไรต่อเลยหรอ? นี่เป็นสิ่งต่างๆ ที่เราคิดว่า เติมเต็มได้นะ

เพราะทุกวันนี้ทุกอย่างคือคอนเทนต์ได้หมดถ้ามีความคิดสร้างสรรค์

“ทุกอย่างอยู่ที่คุณจะจับสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวคุณมาเป็นคอนเทนต์ได้หรือเปล่า เพราะฉะนั้นสิ่งที่เรียกผมว่าเป็นคนนอกแล้วมองไปข้างใน ผมก็รู้สึกว่า ในนี้มีคอนเทนต์เยอะมากที่ไม่เคยถูกสร้างเลย ในนี้มีคอนเทนต์ที่น่าสนใจหลากหลายมากเลย แต่ทำไมไม่มีใครทำเลย? ทำไมทุกคนมองฟุตบอลเป็นแค่เกมการแข่งขันแล้วจบล่ะ? ฟุตบอลมันมีหลากหลายมุม หลากหลายองค์ประกอบ ซึ่งเรื่องราวเดียวกันสามารถสร้างมิติของคอนเทนต์ได้หลากหลาย”

ฟุตบอลไทยกับธีมสปอร์ตเทนเมนต์

เราใช้ธีมว่าสปอร์ตเทนเมนต์ ซึ่งเวลาที่เราพูดถึงเอนเตอร์เทนเมนต์ทุกคนจะนึกถึงแค่ความสนุก ความตลก จริงๆ เอนเตอร์เทนเมนต์มีหลายมุม ความซึ้งก็ได้ ความเศร้าเสียใจก็ได้ แรงบันดาลก็ได้ เพราะฉะนั้นเอง เรามองเห็นตรงมุมนี้ เราก็รู้ว่าเราจะเข้ามาช่วยกันสร้างคอนเทนต์ในหลากหลายมุมมองให้คอนเทนต์ของฟุตบอลไทยมีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น โดย สปอร์ตเทนเมนต์ เกิดจากการนำคำว่า สปอร์ต กับ เอนเตอร์เทนเมนต์
มาเจอกัน

ถ้าถามว่า สปอร์ตเทนเมนต์ คืออะไร ก็ต้องบอกว่า สปอร์ต มีความตื่นเต้นเร้าใจ มีความลุ้นไปกับทุกๆ วินาทีของการแข่งขัน ส่วน เอนเตอร์เทนเมนต์ ก็มีในหลากหลายรูปแบบ และหลากหลายมุมมอง เพราะฉะนั้นการนำทั้งสองอย่างนี้มาเจอกันคือ การเอาความสามารถที่เราถนัดในการสร้างคอนเทนต์เอนเตอร์เทนเมนต์ มาจับกับกีฬาฟุตบอล อย่างที่เราได้ทำรายการที่เชิญนักฟุตบอลมาออกรายการให้คนได้เห็นหน้า และรู้จักตัวตนของเขามากยิ่งขึ้นทีละมุมๆ

อย่างเช่นรายการที่เราได้นำ “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับคุณพ่อก้องภพ มาถ่ายทอดเรื่องราวของความเคี่ยวเข็ญ ความทุ่มเท การถ่ายทอดความฝันของตัวเองไปให้ลูก เป็นความสัมพันธ์ที่ในเอนเตอร์เทนเมนต์มุมซาบซึ้ง เราทราบดีว่า เจเก่ง ประสบความสำเร็จ เป็นกำลังใจในทีมชาติ แต่ยังมีมุมที่เรายังไม่รู้เลยว่าเขาผ่านอะไรกว่าจะมีวันนี้ได้ สิ่งที่คนไทยยังขาดไปคือ เราชื่นชมคนที่ประสบความสำเร็จแล้ว แต่เราขาดการให้กำลังใจคนที่กำลังสร้างฝัน และพยายามไปสู่จุดตรงนั้น

กลุ่มเป้าหมายในการปลุกกระแสฟุตบอลไทย

เราสร้างคอนเทนต์มาเพื่อตอบโจทย์คน 3 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่เป็นคนในวงการฟุตบอล เรามีรายการที่ตอบโจทย์คนในวงการฟุตบอล เป็นรายการที่ต้องรู้ลึกรู้จริงๆ วัดความสามารถกันไปเลย ถ้าคุณอยู่ในวงการฟุตบอลจริงๆ คุณจะสนุกกับรายการแบบนี้ ทำให้คุณรู้สึกว่าต้องดูการถ่ายทอดสดในสัปดาห์หน้าที่จะถึงต่อไปๆ เรื่อยๆ และดูอย่างสนุก ดูอย่างตั้งใจ เพราะจะเก็บความรู้ไปเรื่อยๆ เพื่อนำมาให้ดูรายการประเภทนี้สนุกขึ้น

กลุ่มที่สองคือ คนที่ดูฟุตบอล แต่อาจจะเน้นดูฟุตบอลต่างประเทศอย่างผม ซึ่งผมก็อยากดูฟุตบอลไทยเหมือนกันนะ เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้ วิธีการเล่าเรื่องอาจจะขาดสีสัน ขาดการชักจูงให้รู้สึกว่าน่าดู น่าติดตาม เราก็จะมีรายการมาตอบโจทย์คนกลุ่มนี้ เพราะคนกลุ่มนี้รู้จักฟุตบอลดี แต่ต้องมีวิธีการเล่าเรื่องว่า ทีมฟุตบอลไทยลีกมีคาแร็กเตอร์อย่างไร ทำให้เขาต้องศึกษา และเห็นคาแร็กเตอร์ชัดๆ ถ้าเห็นชัดได้เหมือนที่ฟุตบอลต่างประเทศ คนกลุ่มนี้ก็จะชอบฟุตบอลไทยโดยอัตโนมัติ และไม่ต้องทำอย่างอื่นเลย เพราะคนกลุ่มนี้เขารู้เรื่องอยู่แล้ว

กลุ่มที่สามต้องใช้คำว่า กลุ่มคนที่อาจจะเคยได้ยินคำว่าฟุตบอล แต่ไม่เคยดูฟุตบอล อาจจะสนใจเรื่องอื่นรอบฟุตบอล เช่น ไลฟ์สไตล์ ความสวยงาม ความหล่อ หน้าตา อะไรประเภทนี้ เราจะมีคอนเทนต์อีกแบบหนึ่งที่ตอบโจทย์คนกลุ่มนี้

“ถ้าเราเอาคอนเทนต์เหล่านี้ไปฟีดคนทั้งสามกลุ่มนี้หลักๆ นี้ได้แล้วเขาตอบสนองเราได้

เขาชื่นชอบติดตามมากขึ้น จำนวนของคนดูฟุตบอลไทยก็จะขยายขึ้นในแต่ละกลุ่มๆ และก็ตอบโจทย์กลับมาที่ว่า คนก็สนใจดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยมากขึ้น และส่งผลให้ไปดูเกมที่สนามมากขึ้นด้วย ทำให้ช่วยปลุกกระแสฟุตบอลไทย”

มีมุมมองฟุตบอลไทยต่อเรื่องธุรกิจอย่างไร

แน่นอนว่า ในมุมธุรกิจนั้น ต้องบอกว่ากำลังซื้อของคนที่ดูฟุตบอลไทยอาจจะยังไม่สูงมากเท่ากับคนที่ดูฟุตบอลต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราทราบอยู่แล้ว เราก็พยายามที่จะสร้างมุมมองมิติใหม่ๆ ที่ทำให้คนไทยได้เข้าถึงฟุตบอลได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกันทุกสโมสรก็ต้องการเงินไปสนับสนุน เพื่อที่จะทำให้สโมสรไปได้ สมาคมก็สามารถที่จะดำเนินการไปได้ เพราะฉะนั้นเองก็เป็นโจทย์ของเราที่จะต้องมาเชื่อมตรงนี้ให้ดีที่สุด

ถ้าเราสามารถตอบโจทย์ทั้งคนดู และเรื่องธุรกิจให้ไปด้วยกันได้ก็น่าจะไปด้วยกันได้ดี

การวางแผนกับฟุตบอลไทยในเวลา 8 ปี

ระยะแรกที่เราวางไว้คือ 2 ปี เราต้องสร้างต้องพยายามวางรากฐานด้านคอนเทนต์ให้สมบูรณ์ เราตั้งใจเข้ามาสร้างมิติใหม่ๆ ช่วงต้นปีหน้าก็จะมีรายการใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับฟุตบอลไทยเกิดขึ้นมาให้ได้ติดตามกัน ซึ่งเราเริ่มจากการสร้างคอนเทนต์ก่อน สิ่งที่สองคือ การที่เราจะตอบโจทย์คนดูให้ดูฟุตบอลได้ง่ายขึ้น เราก็จะต้องเอาฟุตบอลไทยไปอยู่ในทุกแพลตฟอร์มที่คนดูสามารถเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็น ฟรีทีวี โอทีพี และช่องทางออนไลน์ต่างๆ ที่เราสามารถฟีดคอนเทนต์ลงไปได้ เพราะฉะนั้นเองถ้าเราทำลักษณะนี้ใส่เข้าไป เราเชื่อว่าความนิยมในการชมถ่ายทอดสดก็จะสูงขึ้น ถ้าความนิยมสูงขึ้นแน่นอนว่า สปอนเซอร์ก็จะตอบสนองได้ดีมากขึ้นด้วย

แนวทางการเติมเต็มให้กับฟุตบอลไทย

ฟุตบอลไทยสำหรับผมคิดว่า รอยต่อระหว่างสัปดาห์มันหายไปหน่อย เพราะเราไม่ได้เล่าอะไร มันขาดการเล่า ยกตัวอย่าง ในลีกอังกฤษ หลังผ่านไปแล้ว 1 เดือน ที่เวอร์จิล ฟาน ไดค์ บาดเจ็บ ผมยังเห็นประเด็นอยู่เลยว่า ใครจะมาแทน? ตลาดซื้อขายนักเตะมกราคมนี้จะซื้อไหม จะซื้อใคร? วิเคราะห์กันมาเดือนนึงแล้วยังไม่หยุดพูดกันเลย ประเด็นเดียวกัน ผมก็คิดว่าเราจะนำกลยุทธ์นี้มาใช้กับฟุตบอลไทยบ้างไม่ได้หรอ? ทำไมเราไม่วิเคราะห์กันแบบต่างประเทศ? เราต้องศึกษาจากต่างประเทศ เรียนรู้วิธีคิดว่ารูปแบบไหนจะประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นเราสามารถเรียนรู้วิธีคิดของเขาแบบนี้แล้วนำมาปรับใช้กับฟุตบอลไทยให้ได้

“ฟุตบอลต่างประเทศเขาจะเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้คุณฟังทุกวัน และประเด็นพวกนี้ก็จะมีฟีดเรื่องราวไปเรื่อยๆ ให้ทุกคนได้พูดคุยกันไปเรื่อยๆ ทุกคนพูดประเด็นเดียวกันแหละ แต่ละคนก็แต่ละมุมมอง แต่ละคนก็มีแต่ละความคิด ผมคิดว่า ฟุตบอลไทยก็ทำได้เช่นกัน”

วางเป้าหมายระยะสั้น-ยาวของฟุตบอลไทย

ระยะสั้นเราจะฟีดคอนเทนต์เข้าไปเพื่อเพิ่มความนิยมให้ฟุตบอลไทยมากขึ้น ระยะยาวเราก็อยากจะให้ฟุตบอลไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน หรือถ้าเราทำได้ภายใน 8 ปีข้างหน้าผมก็อยากให้เป็นศูนย์กลางเอเชีย เพราะว่าความคลั่งไคล้ความชื่นชอบฟุตบอลของคนไทยเราไม่ได้แตกต่างจากชาติอื่นๆ เลย เพียงแต่ว่าวันนี้กำลังรอการเพิ่ม และเสริมเข้าไปมากกว่า ถ้าเราช่วยกันเพิ่ม และเสริมเข้าไปในมุมในจุดที่ถูกต้อง ผมก็เชื่อว่าความนิยมของฟุตบอลไทยก็ดีขึ้น และทำให้ทุกคนรู้สึกว่าการเล่นฟุตบอลสามารถสร้างรายได้สร้างอาชีพ ในมุมของคนเชียร์ก็รู้สึกเชียร์สนุกขึ้น เพราะมีตัวตน และมีทีมเชียร์เป็นของตัวเอง

ไลฟ์สไตล์ส่วนตัวในความเป็นสปอร์ตแมน

ผมเป็นคนที่ชอบดูฟุตบอลตั้งแต่เด็ก เพราะผมชอบกีฬาที่เล่นเป็นทีม เพราะกีฬาประเภททีมถือเป็นพื้นฐานที่เราใช้ชีวิตอยู่ในสังคม เราจะได้เรียนรู้ว่าแต่ละคนมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน แต่ละคนต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แล้วทำให้ทีมได้รับชัยชนะ เพราะฉะนั้นเอง การดูฟุตบอลสำหรับผมคือการยอมรับทั้งชัยชนะ ทั้งความพ่ายแพ้ เพราะต่อให้คุณเล่นเก่งที่สุดในสนามก็ไม่ได้แปลว่าทีมคุณจะเป็นฝ่ายชนะ และแน่นอน คำว่ากีฬา คือการเรียนรู้ที่จะรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ก็ได้เอาสิ่งเหล่านี้มาใช้ในชีวิตประจำวันด้วย

ทีมกีฬาที่เชียร์ และชื่นชอบเป็นพิเศษ

ถ้าเป็นทีมฟุตบอลก็ชัดเจนว่าเป็นลิเวอร์พูล ตั้งแต่ 7 ขวบจนถึงปัจจุบัน และผมก็ดูบาสเกตบอลบ้างสมัยที่ ไมเคิล จอร์แดน เล่นให้กับทีมชิคาโก้ บูลส์ ในช่วงท็อปฟอร์ม ซึ่งเมื่อก่อนผมก็เล่นฟุตบอลจนได้รับอุบัติเหตุบาดเจ็บ ช่วงหลังๆ ก็ไม่ได้เล่นฟุตบอลจริงๆ จังๆ แล้ว ซึ่งตอนที่ได้รับบาดเจ็บนั้นผมเจ็บที่หัวเขาเหมือนกับที่ เวอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้รับบาดเจ็บเลย ตอนนั้นเป็นจังหวะล้มตัวไปแล้วเสียงดังป๊อกเลย เพราะกระดูกสองข้าง มันชนกัน ทำให้รู้เลยว่า มันเจ็บมาก

ฝากถึงแฟนบอลไทยกับมิติใหม่ที่จะเกิดขึ้น

เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จะมาดูแลลิขสิทธิ์ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในกีฬาฟุตบอลครบทุกชุดเลย ซึ่งจะเริ่มในช่วงเดือนกันยายน ปี 2021 เป็นต้นไป 8 ปี

ซึ่งทางเซ้นส์เองก็ตั้งใจที่จะเข้ามาช่วยผลิตคอนเทนต์ ช่วยเสริมคอนเทนต์ในมุมต่างๆ เพื่อให้ทุกคนได้รู้สึกฟุตบอลไทยได้ดีขึ้น

“ผมเชื่อว่าคอนเทนต์เหล่านั้นจะสร้างความผูกพันของคนไทยกับฟุตบอลมากขึ้น เพราะเป้าหมายของคนไทยทุกๆ คน ผมก็เชื่อว่าอยากเห็นฟุตบอลไทยได้มีโอกาสไปฟุตบอลโลก เพราะฉะนั้นเอง หวังว่าในปี 8 ปีข้างหน้า ความฝันนี้น่าจะเป็นจริง ก็อยากจะฝากทุกท่านช่วยกันติดตามให้กำลังใจกันด้วยนะครับ”

คงต้องจับตากันดูว่า มิติใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะมีความตื่นเต้นเร้าใจกับการเขย่าวงการฟุตบอลไทยให้มีสีสันมากขึ้น ซึ่งแนวคิดเหล่านี้ของ “เอ” วราวุธ เจนธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เป็นเพียงออเดิร์ฟที่ชวนให้แฟนบอลทุกคนต้องติดตามกันแบบห้ามกะพริบตา และเชื่อว่าคงอดทนรอกันอีกไม่นาน ความสนุกตื่นเต้นในปรากฏการณ์มิติใหม่ของฟุตบอลไทยจะเสิร์ฟให้กับแฟนบอลทุกท่านได้ถึงที่แน่นอน

ไทม์ไลน์มูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก

– ปี 2014-2016 ทรูวิชั่นส์ สัญญา 3 ปี รวมมูลค่า 1,800 ล้านบาท (ตกปีละ 600 ล้านบาท)

– ปี 2017-2020 ทรูวิชั่นส์ สัญญา 4 ปี รวมมูลค่า 4,200 ล้านบาท (ตกปีละ 1,050 ล้านบาท)

– ปี 2021-2028 เซ้นส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ สัญญา 8 ปี 12,000 ล้านบาท (ตกปีละ 1,500 ล้านบาท)

สำหรับ 1,500 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินสด 1,200 ล้านบาท และค่าผลิตรายการ 300 ล้านบาทต่อปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image